ตอนที่ 178 ถูกหมูขุดกินไปแล้ว
เท่าที่จำได้ วรินทรแทบจะไม่เคยโกรธใคร
มักมองโลกในแง่ดีและมีความสุขอยู่เสมอ บางครั้งก็เย็นชากับคนอื่น แต่ที่โกรธแบบนี้ถือได้ว่าน้อยมาก
เมื่อวรินทรรู้ว่าปลายสายเป็นประภาพ ความโกรธที่อัดแน่นในใจก็ลดน้อยลง พยายามปรับให้เสียงของตัวเองราบเรียบขึ้น อย่างน้อยก็ต้องไม่ให้คำพูดที่จะกล่าวออกไปกลายเป็นคำเสียดสี
“ไม่มีอะไร ก็แค่เห็นหมูสองตัวจูบกันแค่นั้นแหละ… คุณมาหาฉันมีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ?”
พอวรินทรได้เอาทาวัตกับธารีไปเทียบกับหมูสองตัว ในใจก็รู้สึกสบายขึ้นมาไม่น้อย
เธอโตขนาดนี้แล้ว เพิ่งเคยเห็นหมูทำแบบนี้กันเป็นครั้งแรก
ประภาพรู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นแน่ แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ “คุณลืมแล้วล่ะสิ วันนี้มีซ้อมบทนะ นางเอกอย่างคุณไม่มา ผมจะเริ่มได้ยังไงล่ะ?”
วรินทรเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ยังมีโฆษณาผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งที่ต้องถ่าย ทันใดนั้นหัวสมองก็บวมฉึ่ง เธอไม่อยากถ่ายเลย
ถ้าเมื่อวานเธอไม่ไปรับกวินดึกขนาดนั้น กวินก็คงไม่ถูกคนลักพาตัวไป กวินไม่ถูกลักพาตัว ทาวัตก็ไม่ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ก็คงไม่ต้องนอนเจ็บอยู่ตรงนั้น
เธอถอนหายใจยาวคิดอยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อวาน เธอเซ็นชื่อในหนังสือสัญญาไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่ไปก็เท่ากับผิดสัญญา
เธอจ่ายค่าปรับเจ็ดหลักบ้านั่นไม่ไหวแน่ ยิ่งกว่านั้น ประภาพก็หวังดี เลือกเธอมาถ่ายโฆษณา ด้วยเหตุและผลทั้งปวง เธอปฏิเสธไม่ได้เสียแล้ว
“ค่ะ คุณรอฉันสักยี่สิบนาทีนะคะ เดี๋ยวฉันไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” วรินทรยกมือคลึงหว่างคิ้ว น้ำเสียงแฝงความเหนื่อยล้าอยู่กระแสหนึ่ง
เนื่องจากจับความผิดปกติในน้ำเสียงของเธอได้ ประภาพย่นหัวคิ้ว ก่อนถามทันที “คุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมจะไปรับ”
วรินทรมองไปรอบ ๆ มองป้ายหน้าสวนหย่อนใจ ก่อนบอกที่ที่ตัวเองอยู่ “ฉันอยู่ที่สวนสาธารณะด้านล่างโรงพยาบาลค่ะ คุณมาที่นี่นะคะ”
เธอไม่ได้เดินมาไกลจากโรงพยาบาลนัก ในตำแหน่งนี้ เธอยังมองเห็นหน้าต่างห้องพักผู้ป่วยของทาวัต
ไกลกลับใกล้
ประภาพมาถึงสวนสาธารณะในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อวรินทรเดินออกมา ก็เจอรถของเขาเข้าพอดี เธอเดินเข้าไปหาอย่างไม่ลังเล
วรินทรไม่เป็นห่วงกวิน เขาฉลาดอยู่แล้ว พอไปห้องน้ำเสร็จแล้วเดี๋ยวก็กลับมาห้องเองได้
ตอนที่กวินคุยกับเอก็จามออกมาทีหนึ่ง ขยี้จมูกด้วย หรือจะเป็นหวัดไปแล้วนะ?
“ทำไมหน้าหมองขนานี้ล่ะ ไม่ยักจะเคยเห็น หรือว่าจะอกหักงั้นเหรอ?” ประภาพพบว่าสีหน้าของวรินทรซึ่งนั่งอยู่ข้างตนไม่ดีนัก ใต้ตายังมีรอบคล้ำอีกด้วย ทำให้รู้สึกปวดใจขึ้นมา จึงล้อเธอออกไป
หรือว่าเธอกับทาวัตจะมีปัญหากัน?
“จะเป็นไปได้ยัไง ถ้าผู้หญิงอย่างฉันถ้าอยากมีแฟน แค่กวักมือเรียก ก็มีคนมาแล้ว จะไปอกหักได้ยังไง?” แต่ยิ่งอธิบาย วรินทรก็รู้สึกว่าในปากตนเองมีรสชาติขมเฝื่อนแผ่ซ่าน รอยยิ้มที่มุมปากก็ฝืดเฝื่อน
รอยยิ้มที่ปั้นแต่งขึ้นมาช่างดูไม่ได้เลย
โดยที่เธอไม่รู้ว่ายิ่งปกปิดประภาพก็ยิ่งเห็นความจริง
แต่เขาก็ไม่คิดจะพูดออกมา นี่เป็นเหตุผลที่วรินทรชอบพูดความในใจกับเขา
“ประภาพ? ไฟเขียวแล้ว คุณคิดอะไรอยู่น่ะ?” วรินทรเรียกประภาพหลายครั้งก็ไม่ตอบสนอง จนรู้สึกแปลกใจ จึงร้องเรียกเสียงดัง
“หือ? ไม่มีอะไร แค่คิดเรื่องอะไรขึ้นมาได้ เผลอไปหน่อย” เขายิ้มขอโทษ ก่อนรถจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
“คิดอะไรถึงได้จดจ่อขนาดนั้นล่ะ” วรินทรถามอย่างไม่ใส่ใจ เป็นการโพล่งถามไปตามจิตใต้สำนึกเท่านั้น
“ก็แค่คิดถึงสมัยก่อนตอนที่อยู่ที่อังกฤษ” แววตาของประภาพว่างเปล่า คล้ายกำลังคิดถึงอะไรอยู่
ถ้าสามารถย้อนกลับไปได้ จะให้เขาทำอะไรก็ยอม
วรินทรเหมือนไม่ได้ยิน เธอเหม่อมองถนนเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย รถยนต์ต่างสีคันแล้วคันเล่าเคลื่อนผ่านพวกเขา ภายในใจรู้สึกอึดอัดคับแน่นขึ้นมา
วรินทรเป็นประเภทที่พอมีเรื่องมาทำให้ไม่สบายใจก็ไม่อยากจะพูดอะไร จะวางตัวเงียบไปสักพัก จนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น
แค่เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาได้
ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนตัวเองบากบั่นปลูกผักกาดขาวมาตั้งนาน อยู่ ๆ ก็ถูกหมูขุดไปกิน
ทาวัตก็คือผักกาดขาว และธารีก็คือหมูที่มาขุดผักกาดขาวไป!
ที่โรงพยาบาล กวินนั่งอยู่ที่บันได บนขาทั้งสองข้างวางโน้ตบุ๊คเครื่องหนึ่งไว้ นิ้วสั้นป้อมเคาะกระหน่ำไปบนคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว ดวงตาจดจ้องที่แถบสถานะบนหน้าจอ
“นายน้อย พวกเราตรวจสอบแล้ว ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือนี่ถูกทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ถ้ามือถือพัง ข้อมูลข้างในก็จะถูกลบโดยอัตโนมัติ ไม่เหลืออะไรให้แกะรอยได้อีก”เอรายงานพลางมองใบหน้ากวิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...