หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 202

ตอนที่ 202 พาลหาเรื่อง

เธอหมุนตัวลุกจากเตียงไปอีกฝั่ง ใครจะรู้มือใหญ่ๆของทาวัตยื่นออกมา ดึงเธอไปไว้ในอ้อมกอด สายตาดูอันตราย

“เธอก็ชอบหาเรื่องตลอด ฉันแค่จะให้เธอดู ว่าฉันจริงๆแล้วทำได้ไม่ได้ ”

พอพูดเสร็จ เขาก็วางวรินทรไว้ตรงกลางเตียง ก่อนที่จะแกล้ง ตัวติดกันทับเธอจนแทบจะหายใจไม่ออก

“โอ้ย... (เสียงบ่นพึมพำ)” ทันใดนั้นวรินทรก็เริ่มมีความหวาดกลัว เธอเหมือนกับว่ามีความรู้สึสังหรณ์ใจ คืนนี้เธอตายแน่ๆเลย

หลังจากที่วรินทรเป็นลมไปแล้ว หลังจากนั้นก็ตื่นมาอีกครั้ง เห็นทาวัตดูมีกำลังวังชาไม่มีท่าทีว่าจะเหนื่อยเลยซักนิด วริทรมีความรู้สึกกลัวแล้ว เธอกลัวว่าคืนนี้เธอจะต้องตายอยู่ที่นี่

แต่ไม่ว่าเธอจะของความเมตตายังไง ทาวัตก็จะพูดว่า “ไม่ใช่ว่าเธออยากเห็นฉันทำได้ไม่ได้ไม่ใช่หรอ ฉันก็จะทำให้เธอสมใจอยาก” จบประโยคกลับมา ทำให้เธอมีความรู้สึกอยากตายแล้ว

นี่แหละที่เรียกว่า ยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับเท้าตัวเอง (สำนวน)

ไม่รู้ว่าผ่านมากี่ครั้งแล้ว สุดท้านวรินทรก็ได้รับการปลดปล่อย แม้แต่ตาก็ยังไม่อยากลืมขึ่นมา นอนจนหลับสนิทไป

ทาวัตก้มหน้าลงมา แล้วจูบเบาๆที่หน้าผากของเธอ สายตาที่สมเพชอย่างเป็นที่สุดมันล้นออกมาจากนัยน์ตาที่ดำคู่นั้น เขาก็ทำความสะอาดร่างกายเธอและตัวเองอย่างง่ายๆ กอดเธอไว้ในอ้อมแขน ไม่นานก็หลับไป

เช้าวันต่อมา หลังจากที่ลืมตาตื่นขึ้นมาวรินทรยังคงหลับใหลอยู่ ใบหน้าเล็กๆนั้นมีความน่ารักและไร้เดียงสา ใบหน้าตอนหลับเงียบๆยังน่ารัก ปากเล็กๆค่อยๆบุ้ยปากขึ้นคล้ายกับจะจูบ

ทาวัตสอดมือไว้หลังหัวค่อยยกหัวเธอขึ้นมา ค่อยๆยกขึ้นมา ใช้ช่วงเวลาสั้นๆมองใบหน้าวรินทรมันเป็นความรู้สึกเหมือนกระเพาะแน่นๆจุกๆ และเป็นความรู้สึกอุ่นๆอย่างบอกไม่ถูก

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น อย่างไม่หยุด

ทาวัตเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะ แล้วค่อยๆขยับตัวเบาลุกเบาๆ หลังจากนั้นก็เดินไปที่หน้าต่างพร้อมกดรับโทรศัพท์

ฮาโหล ?

ไม่รู้ว่าคู่สายฝั่งนู้นพูดว่าอะไร อยู่ๆสีหน้าของทาวัตก็เปลี่ยนไป หลังจากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่นิ่ง

เขาเดินไปล้างหน้า แปรงฟันที่ห้องน้ำสักพักก็กลับออกมา เห็นว่าวรินทรยังไม่ตื่นเหมือนเดิม เขาเลยหยิบปากกาและกระดาษจากลิ้นชัก แล้วเขียนตัวหนังสือตัวใหญ่ๆลงไป แล้วเอาไปวางไว้ตรงใกล้ๆมือของเธอ หลังจากนั้นก็หยิบเสื้อสูทมาใส่เตรียมออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆ

นาฬิกาบนกำแพงตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะบ่ายสีโมงเย็นแล้ว วรินทรที่นอนหลับลึกอยู่บนเตียงเพิ่งจะค่อยตื่น

นอกหน้าต่างพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว แสงสีทองของแดดได้ส่องเข้ามาในกระจก มองไปรอบๆห้องดูสว่างไสวไปหมด

วรินทรค่อยๆลืมตาขึ้นมา ริมฝีบางรูปเชอรี่อวบอิ่มนั้น ดูน่าดึงดูดเป็นพิเศษ

เธอค่อยๆขยับตัว ความรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างจะหลุดออกเป็นชิ้นๆแล้ว รู้สึกปวดและเหนื่อยมาก แต่ขยับมือก็รู้สึกเหมือนจะตายแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น?” วรินทรรู้สึกเหมือนมึนหัว แต่ก็ไม่มีอาการปวดเจ็บใดๆ ไม่รู้ร่างกายเป็นอะไร ไม่ว่าเธอจะดื่มเหล้าอะไรก็ตาม ไม่มีทางเมาค้าง อย่างมากมันต่อมาก็แค่มึนหัวนิดหน่อย

เกิดอะไรขึ้น ?!

เธอรู้สึกถึงอาการหัวหมุนอย่างรุนแรง เธอครุ่นคิดว่าเมื่อคืนคือใคร

ทาวัต ?

ดูเหมือนจะต้องเป็นเขาแน่ๆ !

วรินทรยกมือขึ้นโขกหัวตัวเองหนึ่งที เธอนั่งเอนหลังพิง เธอมีอาการมึนหัวขึ้นมา เธอมีความรู้สึกรำคาญ แต่ก็มีความรู้สึกมีความสุข บอกไม่ถูกมันเป็นความรู้สึกสับสน

ทันใดนั้น เธอเหลือบมองไปที่กระดาษโพสอิทที่ติดอยู่ข้างๆ “มีธุระ ฉันไปก่อน กลับไปรอฉันที่คฤหาสน์ ! ”

เธอเป็นไข้แน่ๆ !

สถานการณ์แบบนี้วรินทรไม่คิดอะไรเยอะแยะ เธอรีบพยุงตัวคาร่าขึ้นมา ร่างกายนิ่มๆของเธอ ไม่มีทางทำร้ายตัวเองแน่นอน

ถึงแม้ขาทั้งสองข้างสั่นเครือ แต่ตอนนี้ก็ได้แบกคาร่าลงมาที่ชั้นล่างไปเอารถที่ลานจอดรถ เกือบจะไม่ต้องการชีวิตที่เหลืออีกครึ่งของเธอ

“โอ้ยเกือบตาย!” วรินทรทำตามองบน แล้วใช้แรงทั้งหมดพาคาร่าเข้าไปนั่งในรถ คาเข็มขัดนิรภัยให้คาร่า หลังจากนั้นก็เอาตัวเองไปนั่งที่ฝั่งคนขับ พร้อมขับรออกไป

วรินทรขับรถไปโรงพยาบาล ส่งคาร่าเข้าในห้องผู้ป่วย และอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอและพยาบาลแล้ว

“คนไข้เพียงแค่เป็นหวัด หลังจากไข้ลดลงตื่นมาอาการก็จะดีขึ้นแล้วครับ” คุณหมอบอกวรินทรไปพร้อมกับเขียนบันทึกอาการคนไข้ไปพลาง

“โอเคค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ” วรินทรพูดกับคุณหมออย่างสุภาพ พร้อมกับหันไปมองคาร่าซึ่งนอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วก็รู้สึกโล่งใจ

ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ไปรับยาให้เธอ วรินทรเขกหัวตัวเอง พร้อมรีบยืนขึ้นและเดินออกไป

วริทรไปรับแล้วเสร็จแล้วเตรียมจะกลับ ตอนที่กำลังจะหันหลังกลับเธอกลับมองเห็นเงาดำมืดไม่ไกลจากเธอเดินผ่านไป

วรินทรก้าวช้าลง เหลือบมองดูด้วยความสงสัย จันทร์ทราทำไมถึงมาอยู่ที่นี่? อย่าบอกนะว่าธารีก็อยู่ที่นี่ ?

ถ้าเกิดว่าเธอไม่ได้มองผิดละก็ คนที่อยู่ข้างๆจันทร์ทรา เหมือนจะเป็นปกเกศ แบบนี้ชักจะแปลกๆแล้วนะ

ถ้าจันทร์ทราอยู่ที่นี่ แล้วทำไมปกเกศถึงอยู่ที่นี่ด้วย

หรือว่าทาวัตก็อยู่ที่นี่ ?

คิดๆในหัวแล้ว วรินทรก็เริ่มเดินตามพวกเขาไปเงียบๆอย่างไม่รู้ตัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์