ตอนที่ 213 อุบัติเหตุ
เธอค่อยๆเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ หนึ่งก้าว สองก้าว จังหวะการเดินสั่นเล็กน้อย แต่กลับเป็นเธอพยายามทำให้ตัวเองนิ่งได้มากที่ที่สุด
ผู้กำกับมองดูร่างกายของเธอที่เซไปมา แม้แต่จังหวะการก้าวเท้าก็ไม่ค่อยจะตรง จะเรียกให้เธอหยุดก็ไม่ทันแล้ว การแสดงที่ยากขนาดนี้แม้แต่ดารามืออาชีพยังไม่กล้าแสดง และไม่แนว่าพวกเขาจะต้องซ้อมเดินหลายรอบมากถึงจะได้ถึงขนาดนี้
วรินทรเดินไปข้างหน้า เหมือนกับว่าตัวเธอเองเดินอยู่บนก่อนเมฆ จังหวะการก้าวเท้าลอยขึ้นนิดหน่อยเหมือนขากำลังอ่อนระทวย การเดินทุกๆฝีก้าวช่างลำบากเสียจริง
อย่าเอียงอย่าเอียงอย่าเอียง
เธอหลับตาไว้แน่นมาก เธอพยายามสะกดจิตตัวเองอยู่ตลอดเวลา โชดดีที่การปรับความสมดุลทางอารมณ์ของเธอยังดีอยู่ ทำให้การเดินของเธอไม่ได้เอียง การแสดงออกแข็งทื่อ แต่กลับไม่ได้เอียงหายออกจากตำแหน่งที่กำหนดไว้
ยืนอยู่บนที่ที่สูงขนาดนี้ ยังเดินหลับต่ออยู่บนนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องกลัวบ้าง วรินทรก็เช่นเดียวกัน แต่ว่าความหกลัวของเธอไม่เคยแสดงออกให้เห็นทางหน้าตาเลย แต่ภายในใจเธอเป็นกังวลว่าตัวเองจะถ่ายฉากนี้สำเร็จหรือไม่
เธอเป็นหน้าเป็นตาของCRทั้งหมด
ลมพัดไปที่แก้มของเธอพัดผมของเธอให้ไปอยู่หลังหู เนื้อผ้าละเอียดนุ่มที่เธอสวมใสบนร่างกายของเธอนั้นสบายมาก จึงทำให้อารมณ์เธอนั้นผ่อนคลายไปเองอย่างอัตโนมัติ
อารมณ์บนใบหน้าของเธอค่อยๆผ่อนคลายลง ทำให้สีหน้าของเธอออกมาในรูปแบบสบายๆผ่อนคลายๆ ตอบรับกับกล้งที่ถ่ายเข้ามาในระยะที่ใกล้
ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดก็มาถึง วรินทรใกล้จะเดินถึงตำแหน่งสุดท้าย ก็ลืมตาขึ้นมา ค่อยๆเอียงตัว เข็มขัดรักษาความปลอดภัยที่เอวของเธอดึงตังของเธอขึ้นไปบนอากาศ ตามแรงดึงของสริง เท้าแหลมๆของวรินทีข้ามไปจากขอบดาดฟ้า
สริงยกเธอขึ้นไปสูงมาก ทันใดนั้นเอง วรินทรมองลงไปข้างล่าง เอียงตามองก็สามารถมองเห็นวิวนอกดาดฟ้าได้
นี้ถึงจะนับว่าเป็นความยากที่แท้จริง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยจะต้องจัดเตรียมไว้อย่างรัดกุม
ผู้กำกับเกือบจะตบมือร้องชมแล้ว ฉากนี้สามารถบอกได้เลยว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ แต่แค่ครั้งเดียงก็ผ่านไปแล้ว ไม่ต้องเสียเวลามาถ่ายใหม่อีกรอบ
ประภาพได้รับการส่งสัญญาณบอกผู้กำกับ ถือโอกาสตอนที่กล้องถ่ายกำลังถ่ายวรินทรบนอากาศอยู่นั้น รีบเดินไปที่สวนดอกไม้
การถ่ายทางอากาศถ่ายอยู่ประมาณยี่สิบนาที สริงก็ค่อยๆปล่อยวรินทรลงมา หากจากดาดฟ้าคอ่ยๆใกล้เข้ามาเรือยๆ
ใครจะไปรู้หล่ะว่า สริงไม่ได้ปล่อยเธอลงอย่างปลอดภัย น็อตที่อยู่ด้านบนอยู่ๆก็หย่อนลงมา เชือกสริงไหลลงไปข้างล่างเรือยๆ แม้แต่คนที่อยู่บนอากาศก็ควบคุมอะไรไม่ได้เลย แล้วเธอก็ตกลงมาอย่างรวดเร็ว
“ห่ะ”
ไม่ทราบเลยว่าใครตะโกนร้องออกมา วรินทรอย่าเอามือไปคว้าอะไรสักอย่าง แต่ว่าตัวเธออยู่บนอากาศกผ้ไม่มีอะไรพอที่เธจะคว้าไว้ได้ ตัวเธอโค้งตกลงมา
ตายแน่ๆ ตายแน่ๆ ครั้งนี้เธอต้องตายแน่ๆเลย
วรินทรหลับตาไว้แน่น กัดริมฝีปากไว้แน่น เตรียมตัวเตรียมใจยอมรับความจ็บปวดที่จะตามมา
ทำไมคนอื่นถ่ายอะไรแบบนี้ก็ยังสามารถทำให้ดังได้ ไปที่ไหนๆแฟนคลับก็ห้อมล้อมไปทั่ว แต่พอเป็นเธอยังไม่ทันดัง ตอนนี้แม้แต่ชีวิตก็จะไม่มีอยู่แล้ว
เวลามันช่างรวดเร็วมาก แม้แต่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ทันมองออกว่าเป็นใครกัน ตอนที่วรินทรจะตกถึงพื้น มีเงาคนๆหนึ่งวิ่งเข้าไป กอดวรินทรไว้แล้วพาเธอกลิ้งออกมาจนมาแรง
วรินทรรู้สึกเวียนศรีษะ ในตาเลือนลาง มองไม่สถานการณ์ตรงหน้าไม่ชัดเจนนัก ไม่รู้เลยว่าใครกอดเธอไว้ แต่เธอได้กลิ่นหอมดอกลาเวนเดอร์อ่อนๆ
เป็นใคร ใครช่วยเธอไว้
“รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองกลัวความสูงยังจะถ่ายต่ออีก ชีวิตของคุณมันไม่มีค่าขนาดนั้นเลยหรอจึงจะเอาชีวิตมาทำอะไรก็ได้อย่างนี้ใช่ไหม
เสียงของเขาเย็นชากว่าปรกติหลายเท่า เหมือนกับโกรธอะไรมายังไงยังงั้น สามารถเสียดแทงไปที่บาดแผลให้เจ็บได้ ฟังแล้วเหมือนมีความโกรธอยู่มาก
วรินทรที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาในหัวสมองยังเลอะๆเลือนๆ บอกกับเหตุการณ์ที่อันตรายเมื่อสักครู่ สมองถูกกระทบกระเทือน ดังได้ไม่ทันฟังให้เข้าใจว่าที่เขาพูดมีความหมายว่ายังไง
เธอเข้าใจว่า เขากำลังด่าเธออยู่
“คุณดุขนาดนี้ทำไมกัน อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ฉันควบคุมได้อย่างนั้นหรอ และก็ไม่ใช่คุณหรือไงที่ให้ฉันไปถ่าย ตอนนี้กลับมาด่าฉันทำไมกัน ”วรินทรเบะปากใส่ นวดขมับที่เจ็บ ตอบกลับโดยไม่เกรงใจ
กวินห่อคอเข้า มองไปที่วรินทร แล้วหันกลับไปดูทาวัตที่ทำสีหน้าเคร่งครึม บรรยากาศภายในห้องก็เป็นไปตามอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของเขา
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตอนนั้นเธอควรอยู่ที่สำนักงาน ไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น”เขากล่าวด้วยความใจเย็น มองไปที่ในตาของวรินทรแล้วแอบยิ้มให้ กลบเกลือนความเจ็บปวดภายในใจ พอพูดจบประโยคเขาก็หันหลังเดินจากไป
“อะไร คุณหมายความว่าไง”วรินทรหงายหน้าขึ้นมองไปที่ทาวัตเดินจากไป ในสมองไตร่ตรองความหมายของประโยคนี้อย่างละเอียด
ไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น
หมายความว่า ให้เธอถ่ายภาพยนต์ไปจนจบหรอ
“แม่ พ่อเขาเป็นห่วงแม่มาก พอได้ยินข่าวว่าแม่ถูกส่งตัวมาโรงพยาบาลก็รีบมาหาเลย เขาอยู่เฝ้าแม่ตลอดเวลาเลย”กวินสงสารทาวัต
แต่ว่าสริงทำไม่ถึงขาดได้ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบไม่ได้มีปัญหาอะไรถึงให้เธอขึ้นแสดงได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...