ตอนที่ 227 ฉันชอบเขามาตลอด
ถ้าไม่มีอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้น คาดว่าฟิล์มประชาสัมพันธ์นั้นจะปิดกองได้เร็วขึ้น แต่ว่าตอนนี้ถูกกฎหมายให้หยุดถ่ายก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเริ่มถ่ายได้ ทำให้น้ำหอมดาวรุ่งแพร่สะพัดมากยิ่งขึ้น
“อืมรู้แล้ว ดีที่มีทาวัตมาช่วยไว้ ไม่อย่างนั้นน้ำหอมดาวรุ่งครั้งนี้ไม่รู้จะจัดการยังไง” ประภาพยิ้มจืดๆแต่ว่านัยต์ตายังเผยให้เห็นเจตนร้าย
ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในโรงพยาบาล แต่ว่าเรื่องภายนอกนั้นเขายังคงรู้ทุกเรื่อง
แต่ว่าเขารู้จักวรินทรน้อยเกินไป วรินทรไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่เก็บอคติมาไว้ในใจง่ายๆ เรื่องที่ตัวเองตัดสินใจแล้วก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง
“เขาน่ะหรอ” วรินทรยิ้มน้อยๆ รอยยิ้มนั้นจางลง มุมปากที่ยิ้มนั้นหยาดเยิ้มเหมือยเต็มไปด้วยน้ำผึ้ง
เธอรู้ว่าทำไมเขาถึงเข้าไปช่วยน้ำหอมดาวรุ่ง ไม่ใช่แค่เพราะว่ามีความร่วมมือกับน้ำหอมดาวรุ่งแต่เป็นเพราะว่าเธอดังนั้นเธอจึงดีใจอย่างนี้
ประภาพเห็นรอยยิ้มที่อยู่ตรงมุมปาก ความรู้สึกวิตกเริ่มปรากฏ นัยต์ตาที่อบอุ่นนั้นลนลานอยู่ ”วรินทร เธอชอบเขาใช่ไหม”
วรินทรฟังคำถามเขาครั้งแรกก็ไม่เข้าใจ แต่ว่าหลังจากนั้นก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงใคร พยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา”อืมใช่ ฉันชอบเขามาตลอด”
เธอถือเอาประภาพเป็นเพื่อนสนิทมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่มีความกังวลใดๆ ที่จะพูดความในใจ
“อือ อย่างนี้เอง แล้วเขาชอบเธอไหม” นัยต์ตาประภาพปรากฏความผิดหวังออกมาทันที ผ่านไปสักพักจึงมองทอดสายตาไปยังวรินทร
“ชอบสิ วันนี้พวกเราคุยกันดีๆ วันนี้ฉันถึงได้รู้ว่าเขาก็ชอบฉัน ดีจริงๆคนที่ตัวเองชอบก็ชอบตัวเองด้วยเหมือนกัน” เป็นเพราะว่าเธอดีใจมากเลยไม่เห็นความผิดหวังของประภาพในชณะนั้น ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เหมือนเด็กผู้หญิงที่จมดิ่งอยู่ในห้วงความรัก
แต่ว่าภาพของเธอภาพนี้ กลับทำให้ประภาพเจ็บปวด ถึงแม้ว่าเขากำลังยิ้ม แต่ว่ายิ้มนั้นก็เป็นยิ้มที่เศร้า
มุมปากที่ขมฝาด รอยยิ้มที่เศร้านั้นของประภาพนั้น เขาก็เข้าใจขึ้นได้ทันทีว่าในใจของวรินทรเขาเป็นได้แค่เพื่อน แต่เขาเองนั้นแหละที่คิดเกินเลยไป
แต่ว่าเขาไม่ได้ยินดีเลยจริงๆ ผู้หญิงที่ตัวเองชอบมาเกือบสี่ปีอยู่ๆก็จะปล่อยให้คนอื่นไป แม้ว่าคนนั้นจะเป็นคนที่เธอชอบก็ตาม
“ถ้าเขาดูแลเธอดีฉันก็สบายใจแล้ว แต่ถ้าเขากล้าที่จะทำอะไรเธอแล้วล่ะก็บอกฉันก่อนได้เลยน่ะ ฉันจะไปช่วยเธอจัดการเขาให้” ประภาพแสร้งทำหน้าสบายใจรอยยิ้มยังคงอ่อนโยน แต่แค่ไม่ได้ส่งออกมาจากจิตใจรอยยิ้มนั้นก็แฝงด้วยความเยือกเย็น
วรินทรยิ้มหลังจากนั้นก็พยักหน้า “ได้สิถึงเวลานั้นเธอก็เป็นกองกำลังสนับสนุนฉันด้วยนะ”
ประภาพยิ้มอย่างซีดเซียวไร้เรียวแรง ใบหน้าเผยให้เห็นความอ่อนล้า “ปวดหัวนิดหน่อย อยากจะนอนพัก ถ้างั้นเธอกลับไม่ก่อนน่ะ”
“ปวดหัว ? ไปถูกมันหรอถึงได้เกิดอาการ” ทันใดนั้นวรินทรก็วิตกกังวล ลุกขึ้นยืนขึ้นมาทันที ถ้าเขาพยักหน้าก็จะรีบไปเรียกหมอมาทันที
ประภาพยิ้มไปทางวรินทรส่ายหน้าอย่างช้าๆ “ไม่เป็นไร ฉันแค่ง่วงเท่านั้น เธอไม่ต้องกังวล”
“จริงหรอ เธออย่าโกหกฉัน เจ็บตรงไหนก็บอก นัยต์เต็มไปด้วยความกังวล มองสายตาของเขายิ่งรู้สึกทุกข์ใจ ไม่สบายใจ”
ประภาพหลับตาอย่างช้าๆอยากจะหนีจากเรื่องทั้งหมดไม่อยากมองสายตาของเธอคู่นั้น เพราะถ้าอย่างนั้นจะทำให้เขารู้สึกว่าในใจของเธอนั้นเขาไม่ได้เป็นอะไรเลย
“ฉันโอเคจริงๆ”
คาร่าดื่มเยอะจนสติสัมปชัญญะเลอะเลือนไปหมด มองขวดเหล้าบนโต๊ะยังมีอยู่สิบกว่าขวด แม้ว่าจะดื่มให้ตายยังไงก็ดื่มไม่หมด
คนกลุ่มนี้เห็นได้ชัดว่าตั้งใจที่ทำให้พวกเธอรู้สึกลำบากใจ อยากให้พวกเธอเมา
คาร่าอยากเอ่ยปากให้ทัตดาหยุดทำ ถ้าตอนนี้เธอเป็นลมคนต่อไปก็ต้องเป็นเธอถึงเวลานั้นก็ซวยไปพร้อมๆกัน
แต่ว่าพอเธออ้าปากพูด เหล้าที่ร้อนๆก็เทเข้ามาในลำคอของเธอ สำลักจนทำให้เธอพูดออกมาไม่ได้
โง่เง่าจริงๆ
คาร่ารีบร้อนเอามือหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า ส่งข้อความไปทางวรินทร หลังจากนั้นไม่ระวังโทรศัพท์ก็ถูกเธอทำหล่นกับพื้น
ช่วยด้วย
“โอโห ดื่มใกล้หมดแล้วก็เอาสิ” คนกลุ่มนั้นเฮ เห็นท่าทางของทัตดาที่ถือขวดเหล้าให้คาร่าดื่มก็หัวเราะ
ในที่สุดคาร่าดื่มจนน็อคไปแล้ว หน้าแดงไปหมด
“เห้ยๆ เธอทำไมหลับไปแล้ว เธอหลับไปแล้วฉันจะทำยังไง” ทัตดาใช้แรงตบหน้าของคาร่าเพื่อให้เธอตื่น แต่ว่าทำอย่างไรก็ไม่ตื่น
“ในเมื่อเขานั้นดื่มไม่ได้แล้ว งั้นก็ถึงตาเธอแล้วล่ะ” คนกลุ่มนั้นยื่นขวดให้ ยิ้มด้วยเจตนาที่ไม่ดีมองพินิจวิเคาระห์ทั่วร่างของทัตดา
ในใจทัตดารู้สึกรังเกียจ รู้สึกให้นึกเสียใจขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะเธออยากมาบาร์นี้ก็คงไม่พบคนพวกนี้หรอก ตอนนี้เธอควรจะทำอย่างไรดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...