หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 226

ตอนที่ 226 เรื่องราวเมื่อห้าปีก่อน

ที่พูดมาเหมือนมีเหตุผล

ใบหน้าของวรินทรแดงนิดๆ เธอที่ดื้อรั้นและมีทิฐินั้นจะต้องมาตายเพราะคำพูดทาวัตในตอนนี้ใบหน้านั้นแดงไปหมดท่าทางน่ารัก

“แต่เธอเคยพูดว่า ฉันไม่ได้แตกต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นๆเลย เพราะเหตุนี้ ฉันเลยโกรธเธอนาน” นี่จึงเป็นเรื่องราวที่เธอเก็บมาคิดตลอด ทุกครั้งที่คิดในใจก็รู้สึกเจ็บแปลบ

นั่นเป็นคำพูดที่ทาวัตพูดกับเธออย่างรุนแรงที่สุดอยู่ครั้งหนึ่ง

ทาวัตจับหน้าผากด้วยความรู้สึกทุกข์ใจ ตอนนั้นเขาแค่โกรธจึงพูดออกไปแบบนั้น ใครจะไปรู้ว่าเธอนั้นคิดเป็นตุเป็นตะอย่างนี้

“ตอนนั้นเธอเองก็พูดไม่ใช่หรอว่าฉันให้ความสำคัญกับตัวเองมากเกินไป งั้นก็เจ๊าๆกันไปนะ เขายักคิ้วยิ้มจางๆยื่นมือออกมาลูบศีรษะของเธอ”

อืม....... เหมือนเคยพูดแบบนั้น เอาเถอะ เป็นความผิดเธอเอง

ในชั่วเวลาขณะนี้ ประตูกลับถูกเปิดออกมา

ทั้งสองคนหันไปมองจึงเห็นว่าธารีอยู่ปากประตูข้างนอก บนใบหน้าที่อ่อนโยนนั้นตื่นตระหนกรีบถลันเข้ามาก็เห็น วรินทรกับทาวัตกำลังยืนจับมือถือแขนกันอยู่ นัยต์ตานั้นก็แผงให้เห็นความดุร้าย

เธอรีบสงบลงทันที แสร้งทำหน้าตกใจในขณะที่มองพวกเขา “ทาวัต เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ฉันไม่รู้ว่าเธอก็อยู่ด้วย ฉันแค่อยากมาถามอะไรคุณวรินทรหน่อย”

วรินทรไม่พลาดที่เห็นว่าเธอตื่นตระหนกและถลันเข้ามา รู้สึกสงสัยนักว่า ธารีคงไม่ได้แอบฟังพวกเขาอยู่ที่ข้างนอกหรอกนะ

งั้นทำไมเธอจึงร้อนรนอย่างนี้

พอถูกเธอขัดจังหวะ วรินทรกับทาวัตก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก ทาวัตพยักหน้าเล็กน้อยไปทางเธอ หลังจากนั้นก็หันกลับมาจูบที่หน้าผากของวรินทร แล้วจึงพูดว่า “ฉันจะไปบริษัท เธออยากไปไหนก็ไปเถอะแต่ว่าต้องกลับก่อน 3 ทุ่มนะ”

“อื้ม รู้แล้ว” วรินทรตกปากรับคำอย่างง่ายดาย ช่างหวานเหลือล้นจนอยากจะอ้วก

แต่ว่ามองมาที่ฝั่งของธารี สองมือนั้นกำแน่น เล็บมือนั้นถึงขนาดทิ่มลงบนหนัง แต่ว่ายังคงรักษารอยยิ้มที่อ่อนโยนไว้ได้

หรือว่าพวกเขาคืนดีกันแล้วหรอ

หึ วรินทรผู้หญิงคนนี้ งั้นมาดูหน่อยว่าเธอมีความสามารถนี้หรือเปล่า

ทาวัตเดินไปทางธารีและเดินออกไป ในห้องจึงเหลือแค่วรินทรกับธารี บรรยากาศก็เงียบสงบแปลกประหลาด

ธารีเลื่อนรถเข็นไปข้างหน้า นัยต์ตานั้นเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที มองค้อนไปที่วรินทรที่ถือกระเป๋าสองใบรอยยิ้มที่ใบหน้าเสแสร้ง พร้อมพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวลว่า “คุณวรินทรมีเวลาคุยกับฉันสักนิดไหมค่ะ”

“เดี๋ยวอีกสักพักฉันมีเรื่องที่ต้องทำ เธอมีอะไรก็พูดมาได้เลย” วรินทรเงยหน้ามองเธออย่างเพิกเฉย สำหรับผู้หญิงที่พฤติกรรมกับวาจาไม่สอดคล้องกัน เธอยืนห่างได้ยิ่งดี

ใครจะไปรู้ว่าเธอนั้นจะวางแผนการชั่วร้ายอะไร

“ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่มาพูดกัน ฉันคิดว่าหัวข้อที่จะพูดนี้ คุณวรินทรคงจะสนใจเป็นแน่” ธารียิ้มอย่างมั่นใจ ชักจูงให้วรินทรนั้นติดกับดัก

“เมื่อกี้คนที่ออกไปคือใครอะ เพื่อนเธอหรอ” ประภาพอยู่ในประเทศ C คนที่รู้จักก็ไม่ได้เยอะ ก็ขนาดเขาอยู่โรงพยาบาล 2-3 วัน ก็ยังไม่เห็นพ่อของเขามาเยี่ยมเลย ทำให้รู้สึกสงสัยไม่ได้

ลูกชายเจ็บอย่างนี้แล้ว คนเป็นพ่อยังไม่มาเยี่ยม อีกทั้งเธอยังแอบส่งข้อมูลหาพ่อของเขาในมือถือเขา

ถ้าพ่อเขาเห็นข้อความนี้ ก็จะต้องรู้สถานการณ์ของประภาพในตอนนี้แล้วน่ะสิ แต่ว่า วรินทรไม่ได้เห็นใครมาเลย นอกจากคนแปลกหน้าที่รู้สึกคุ้ยเคยเมื่อกี้นี้

“เพื่อนคนหนึ่ง กำลังจะไปออกทริปที่ต่างจังหวัดพอดีเลยมาเยี่ยมฉัน วรินทรเธอช่วยปอกแอปเปิ้ลให้ฉันหน่อยได้ไหมฉันอยากกิน ” ประภาพพูดอย่างไม่ได้สนใจอะไร มือก็ชี้ไปที่ผลไม้ในตระกร้า

วรินทรไม่ได้พูดอะไรต่ออีก หยิบแอปเปิ้ลลูกหนึ่งที่อยู่ในตระกร้า และปอกด้วยท่าทางทะมัดทะแมง

ประภาพเห็นเธอยื่นแอปเปิ้ลมาให้ ก็กัดกินลงไปคำหนึ่ง พร้อมพูดว่า “หวานจริงๆ นี่คือผลไม้ที่หวานที่สุดที่ฉันเคยกินมา”

อาจจะเป็นเพราะแอปเปิ้ลนี้วรินทรเป็นคนปอกก็เลยหวานเป็นพิเศษ

วรินทรยิ้มน้อยๆก็คิดอะไรขึ้นมาได้ก็เลยถามว่า“เธอรู้เรื่องฟิล์มประชาสัมพันธ์ที่ถูกหยุดถ่ายโดยกฎหมายไหม”

เธอก็เพิ่งรู้ เพราะว่าได้ยินคาร่าพูดถึงเรื่องนี้ พอดีนึกขึ้นได้เลยถาม

เพราะว่าเธอคนเดียว ทำให้น้ำหอมดาวรุ่งต้องเดือดร้อน ที่สำคัญยังทำให้ประภาพเจ็บจนตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอ เธอรู้สึกทุกข์ใจ

แต่ว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าทำไมเวยย้าจึงตัดใจตัดออกไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์