ตอนที่ 231 เค้กเกาลัด
เเล้วเธอก็เดินถือแก้วกาแฟ เข้าไปในห้องทำงานของทาวัต
ทาวัตกำลังก้มหน้าก้มตานั่งตรวจงานอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ อ่านไปก็เซ็นต์ชื่อตรงมุมขวาล่างไปด้วย เสร็จเซ็นต์ก็เอาไปวางไว้อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะทำงาน
เขาค่อนข้างเป็นคนจริงจังกับงาน คิ้วขมวดย่นไปตามสภาพอารมณ์ที่จดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับการตรวจเอกสารกองโตเหล่านั้น
ขณะที่กำลังก้มหน้าอ่านงานอยู่ ก็พลันเห็นแก้วกาแฟมาวางอยู่ตรงหน้า เขาเงยหน้ามองตามนิ้วมือเรียวยาวขึ้นไป ก็ได้เห็นใบหน้าสดใสงดงามของวรินทรอยู่เบื้องหน้า
ทาวัตวางปากกาในมือลง เหลือบไปมองที่ถ้วยกาแฟควันฉุยหอมกรุ่นตรงหน้า เเล้วก็หันไปมองที่หญิงสาว เขานั่งชิลๆสบายๆเอนกายแบบขี้เกียจ ตัวชิดติดกับพนักเก้าอี้ " คงไม่ได้แอบใส่ยาลงไปในกาแฟนะ ?"
วรินทรที่ก่อนหน้านี้มีท่าทีดูมาดมั่น มาตอนนี้กลับหน้าหงิกลงทันควัน มองค้อนขวับให้ชายหนุ่ม " คุณจะดื่มไม่ดื่ม ? ถ้าไม่ดื่มเดี๋ยวฉันเอาไปให้คนอื่นดื่มก็ได้ "
กาแฟแก้วนี้เธออุตส่าห์ชงด้วยตัวเธอเอง น้อยคนนักที่จะได้ลิ้มรสฝีมือเธอ ช่างไม่ไว้หน้ากันเอาซะเลย
เธอพูดพลางยื่นมือออกไปจะหยิบถ้วยกาแฟกลับมา เเต่กลับถูกมือหนึ่งมาคว้ามือเธอเอาไว้ เเล้วหยิบเอาถ้วยกาแฟกลับไป
ทาวัตถือถ้วยกาแฟเอาไว้ ค่อยๆสูดกลิ่นหอมของกาแฟอย่างช้าๆ ก่อนจะจิบเบาๆ รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมหอมละมุนของกาแฟ ค่อยๆแผ่ซ่านไปทั่วปลายลิ้น น้ำกาแฟหอมกรุ่นค่อยๆไหลผ่านลำคอ ให้รสสัมผัสนุ่มลื่นคอดุจดั่งผ้าไหม
เเววตาคมเข้มคู่นั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่ากาแฟแก้วนี้จะมีรสชาติดีได้ขนาดนี้ มันนุ่มละมุนลิ้นมากกว่ากาแฟแก้วไหนๆที่เขาเคยได้ลิ้มลองมา
" อร่อยมั๊ย ?" วรินทรมองดูท่าทางของเขาด้วยเเววตาอยากรู้อยากเห็นเป็นประกาย เหมือนกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่าง
รีบๆบอกเรื่องคาร่ากับเธอสิ ! รีบๆบอกหน่อยว่าเป็นไงบ้าง !
ทาวัตยิ้มที่มุมปาก วรินทรเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องทำงานของเขา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร ก็เเค่อยากจะแกล้งเธอเท่านั้นเอง ก็เลยทำเป็นไม่สนใจสายตาอันร้อนรนด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเธอ
" อืมม อร่อยดี " เขาวางถ้วยกาแฟลง ก่อนจะหยิบปากกาเริ่มทำงานต่อ
แค่เนี๊ยะ !!!!
วรินทรมุมปากกระตุกอยู่หลายรอบ เเววตาดูมีความขุ่นเคืองใจ " นี่คุณทาวัต คุณลืมอะไรไปรึเปล่า ?"
" ผมลืมอะไรอย่างงั้นเหรอ ?" เขาตอบแบบไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง สายตายังคงจับจ้องไปที่กองเอกสารตรงหน้า ขมวดคิ้วเบาๆเหมือนคนกำลังคิดไตร่ตรองอะไรอยู่สักอย่าง
" คาร่า เธอ …… "
วรินทรยังพูดไม่ทันจบ ทาวัตก็เงยหน้า หรี่ตามองมาที่เธอ " ทำยังไงดี จู่ๆก็นึกอยากกินเค้กเกาลัดขึ้นมา …… "
ดวงตาของหญิงสาวเปล่งประกายขึ้นมาในทันที ถึงจะเป็นการบอกเป็นนัยๆ เเต่เธอก็เข้าใจดี !
" เดี๋ยวฉันออกไปซื้อเดี๋ยวนี้เเหละ !" เธอรีบหมุนตัวเดินออกไปทางประตู ใบหน้าดูชื่นมื่นมีความสุข
ทาวัตอมยิ้มส่ายหัวเบาๆอย่างเอ็นดู เเล้วรอยยิ้มบนหน้าหล่อๆของเขาก็ค่อยๆหายไป " เข้ามา "
ความเงียบคืบคลานเข้ามาชั่วขณะ ประตูห้องทำงานเปิดออก ร่างสูงโปร่งมาดแมนค่อยๆสาวเท้าก้าวเข้ามาด้านใน เเต่ที่พื้นกลับไม่ปรากฏเสียงเดินเลยสักนิด ถ้าหากว่าไม่ได้หันไปเห็นซะก่อนว่าเป็นคนเดินเข้ามา ก็คงคิดว่าเป็นเงาแน่ๆ
" คุณทาวัต " ปกเกศยืนอยู่เบื้องหน้าทาวัต ก้มหัวพูดกับเขาด้วยความนอบน้อม
" หาเจอแล้วเหรอ ?" ทาวัตตรวจงานเสร็จไปหนึ่งเล่ม พร้อมกับเซ็นต์ชื่อของเขาเรียบร้อย ก่อนจะเอาไปวางที่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ
" ใช่ครับ จากที่สืบๆดูเเล้ว คุณคาร่าถูกคุณตวัสแห่งตระกูลยังเจริญช่วยเอาไว้ได้ เเล้วก็พาไปอยู่ที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง เมื่อคืนคนพวกนั้นถูกคุณนรชัยจัดการไปเรียบร้อย ไม่เหลือแม้เเต่คนเดียว " ปกเกศพูดเสียงเข้ม น้ำเสียงของเขายังคงเเข็งทื่อเย็นชาดูน่าอึดอัด ลมหายใจนั้นเเสนเยือกเย็น ดูเหมือนน้ำเเข็งที่ไม่มีทีท่าว่าจะละลาย
ตวัส ?
ทาวัตหรี่ตาลง เขาเองหรอกรึ ?
ตวัส, ทาวัต, นรชัย เเล้วก็ยังมีธรรศด้วยอีกคน พวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อนซี้กัน เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาอาศัยอยู่บ้านของนรชัย ทาวัตสนิทกับนรชัยที่สุด สนิทมากถึงขั้นที่ใส่เสื้อผ้าร่วมกันได้เลยทีเดียว ต่อมาพวกเขาเกิดมีปัญหากัน เลยทำให้เขาหลุดออกจากวงโครจรเพื่อนๆนับเเต่นั้นมา
ปกติวรินทรจะพกมือถือติดตัวตลอด จะปิดเครื่องก็เเค่ตอนนอนหรือแบตหมดเท่านั้น น้อยครั้งมากที่จะไม่รับสายแบบนี้
ทาวัตยิ่งรู้สึกร้อนใจขึ้นเรื่อยๆ เขายังไม่ยอมวางสาย ยังคงเเนบหูฟังมือถืออยู่แบบนั้น เเล้วก็เดินสาวเท้าออกจากห้องทำงานมุ่งตรงไปที่ลิฟต์
สัญชาตญาณบอกเขาว่า มีบางอย่างเกิดขึ้นกับวรินทรเเน่ๆ
_
รถขับมาได้เป็นเวลานานพอสมควร จนยาสลบที่วรินทรโดนเข้าไปค่อยๆหมดฤทธิ์แล้ว รถถึงค่อยๆเเล่นมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง
ชายสองคนพาตัววรินทรออกมาจารถ แล้วพาตัวเธอเข้าไปข้างในโกดัง
ภายในโกดังร้างทั้งมืดเเละอับชื้น มีเพียงเเสงที่ส่องมาจากด้านนอกที่พอทำให้มองเห็นทางเดินด้านในโกดัง
วรินทรถูกพวกเขาลากตัวเข้าไปด้านใน เธอถูกเศษหินบาดขาเล็กๆของเธอ ฤทธิ์ยาเริ่มทุเลาลง หญิงสาวก็เริ่มฟื้นคืนสติ
เธอค่อยๆลืมตาขึ้น ก็ได้เห็นเเต่พื้นที่เจิ่งนองเฉอะแฉะไปด้วยน้ำสีดำๆ กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง เธอเริ่มรู้สึกเจ็บที่ขาขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้สมองที่มึนเบลอของเธอเริ่มกลับมากระจ่างชัดอีกครั้ง
ที่นี่ที่ไหน ?
เธอสะกดกลั้นความเจ็บที่ขาเอาไว้ ไม่ปริปากร้องส่งเสียงออกมา เพื่อจะได้ไม่เป็นเป้าสายตาของคนพวกนั้น
นี่มันคงไม่ใช่ …… การลักพาตัวหรอกใช่มั๊ย ?!
เธอลองดิ้นๆขยับมือ เเต่ก็โดนเชือกมัดเอาไว้เเน่น ขาก็เหมือนกัน ถูกมัดไว้เเน่นจนขยับไปไหนไม่ได้
วรินทรเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ ครั้งก่อนที่เคยโดนวาดฝันลักพาตัวเธอไปครั้งนั้น ทำให้เธอระมัดระวังตัวเองมากขึ้น จะนั่งแท็กซี่ก็ต้องจดเลขทะเบียนรถไว้ เเต่ครั้งนี้เป็นเพราะรีบร้อนเกินไปเลยลืมสนิท ใครจะไปรู้ว่าคนพวกนี้มันจะใช้เทคนิคเดียวกัน เล่นโปะยาสลบใส่เธอก่อนจะลงมือแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...