ตอนที่ 232 ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ?
ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ?
เธอไม่กล้าปริปากพูดอะไร สูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อไม่ทำให้ตัวเองหัวใจเร็วจนเกินไป หลับตาลง แกล้งทำเป็นว่าตัวเองยังสลบอยู่
สองคนนั้นพาตัวเธอเข้าไปด้านในโกดัง ปล่อยมือจากเธอ ตัวเธอลงไปกองหน้าแนบชิดสนิทกับพื้นโกดังเป็นที่เรียบร้อย เคราะห์ดีที่พื้นไม่มีพวกเศษหิน ไม่งั้นคงได้เสียโฉมแน่ๆ
" ลูกพี่ใหญ่ ได้ตัวมาเเล้ว เรียกเงินจากเขากันเหอะ " หนึ่งในนั้นพูดจาด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน
ที่เเท้ก็มีคนลักพาตัวเธอมานี่เอง ว่าเเต่ใครกัน ?
วรินทรพยายามรวบรวมสติเงี่ยหูฟัง
" ใครใช้ให้เอ็งมาสอนข้า ?นี่เอ็งเป็นลูกพี่หรือข้าเป็นลูกพี่กันแน่ ไปเอาเก้าอี้มาซิ " ลูกพี่ใหญ่จ้องมองไปที่ลูกสมุนพูดด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม กวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะสบท " เชอะ !" อย่างหงุดหงิดใจ
" ขอรับกระผม ตามลูกพี่ว่าเลยครับ " ลูกสมุนรีบพูดเลียแข้งเลียขาลูกพี่ รีบไปดึงเอาเก้าอี้เก่าๆพังๆจากมุมหนึ่งของโกดังมาเช็ดจนสะอาดให้ลูกพี่นั่ง
ลูกพี่กระแอมเสียง " ฮึมมม " ในลำคออย่างพึงพอใจ ก่อนจะนั่งลงอย่างไม่เกรงใจใคร จนเก้าอี้เสียงดัง " อิ๊ดเอี๊ยด "
" ลูกพี่ เเล้วเราจะทำยังไงกันต่อไปดีฮะ ?" ลูกน้องมองดูวรินทรที่นอนอยู่บนพื้นอย่างกระวนกระวายใจ รู้สึกหวั่นๆอยู่หน่อยๆ การลักพาตัวมันผิดกฎหมาย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาคนนั้นให้เงินเยอะเเล้วล่ะก็ เขากับลูกพี่คงไม่มาทำเรื่องอันตรายแบบนี้แน่
ยังดีที่เขาเเค่ให้พาตัวเธอเอามาไว้ที่นี่สักระยะหนึ่งเเค่นั้น ถ้ายังมีเรื่องอื่นอีก ถึงกับต้องมีการตายเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาก็คงไม่กล้า
" จะทำยังไงได้ ?ก็เเค่รอรับโทรศัพท์ " ลูกพี่กรอกตามองบน ก่อนจะเอนหัวพิงไปที่พนักพิงของเก้าอี้ มองดูเหมือนกำลังจะหลับยังไงยังงั้น
ลูกน้องเองก็ไม่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆอีกต่อไป เดินไปลากเอาเก้าอี้ที่มุมเดิมเมื่อกี้มาอีกตัวหนึ่ง มาวางไว้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากลูกพี่ใหญ่มากนัก ก่อนจะนั่งหลับไปอีกคน
พอวรินทรได้ยินเสียงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ก็เลยลืมตาขึ้นมาดู
ขนาดการติดต่อกับคนๆนั้น สองคนนี่ยังต้องรอให้เขาเป็นฝ่ายโทรเข้ามาเอง ดูเขาจะวางแผนอย่างรอบคอบมากทีเดียว เห็นทีต้องระวังให้มากซะเเล้ว
ในโกดังนั้นมืดมาก มีเพียงแสงจากหน้าต่างสองบาน บนหลังคาโกดังที่ส่องลงมา
ขาเธอถูกมัดไว้เเน่นจนดิ้นไม่ได้ วรินทรออกเเรงดิ้นอยู่หลายรอบก็ยังคงขยับไม่ได้อยู่อย่างนั้น จนเธอเริ่มหมดเเรง ประกอบกับตัวเธอนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ยิ่งทำให้เธอเคลื่อนไหวร่างกายได้ลำบากขึ้นไปอีก
จากที่ได้ยินสองคนนั้นคุยกัน คนที่สั่งให้ลักพาตัวเธอมาจะต้องโทรมาหาพวกมันอีก ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นใคร เเต่ถ้าดูจากสภาพของเธอตอนนี้ก็คงหมดหนทางจะทำอะไรได้ทั้งนั้น
เธอไปทำอะไรผิดใจกับใครไว้งั้นเหรอ ?น่าจะไม่ใช่วาดฝัน เพราะก็หายสาบสูญไปแล้วนี่ อมันด้าก็ถูกทาวัตจัดการไปแล้วเพราะงั้นก็ตัดออกไปได้ ช่วงนี้เธอก็ไม่ได้ไปผิดใจกับใครนี่นา เเล้วทำไมอยู่ดีๆถึงถูกลักพาตัวมาได้ ?
หรือว่าจะเป็น …… ทีนาร์ ?!
อันนี้ไม่น่าเป็นไปได้ ยัยบ๊องทีนาร์ไม่น่าคิดแผนการร้ายๆอะไรแบบนี้ได้หรอก ขนาดจะฆ่าไก่ซักตัวยังไม่กล้าเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องแผนลักพาตัวเหอะ ใครๆก็รู้ว่า ปกติเเล้วคนที่ถูกลักพาตัวมา มักจะรอดชีวิตไปได้ยาก เเล้วถ้าไม่ยอมทำตามที่พวกมันขอก็มีโอกาสสูงที่จะถูกฆ่าตาย ยากที่รอดไปได้ง่ายๆ
เเล้วถ้าวรินทรต้องมาตายอยู่ในนี้ คนอื่นๆก็คงคิดแค่ว่าเป็นคดีลักพาตัวธรรมดาๆก็เท่านั้น
ใครกันที่เคียดแค้นพยาบาทเธอได้ขนาดนี้ ถึงขั้นจะฆ่าจะแกงกันให้ตายไปข้างนึง ?
แต่ทะเบียนรถแท๊กซี่คันนั้น เป็นทะเบียนปลอม ก็เลยทำให้ทาวัตสืบไม่ได้ความอะไรเลย
ถึงเเม้ว่าทะเบียนรถจะปลอม เเต่ก็ถือว่าเป็นแท๊กซี่ที่มีระดับประมาณหนึ่ง ขอให้รู้ว่าเป็นรถของบริษัทไหนก็น่าจะสืบพิกัดของรถได้ไม่ยาก
ต่อมาเมื่อได้ทะเบียนรถของเเท๊กซี่คันนั้นเเล้ว ทาวัตก็รีบติดตามค้นหาจนพบพิกัดสุดท้ายของรถคันนั้นจนได้
รถจอดอยู่ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งตรงตีนเขาซาน พิกัดสัญญาณนั้นอ่อนมาก ขึ้นโชว์มาแป๊ปเดียวสัญญาณนั้นก็หายไป โชคดีที่ทาวัตจดพิกัดนั้นไว้เเล้ว
เขารอต่อไปอีกไม่ไหว เลยรีบปิดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ก่อนจะโยนมันไปไว้อีกด้านหนึ่ง ส่วนตัวเขาเองนั่งลงในตำเเหน่งคนขับ ก่อนจะรีบบึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็ว
เมือง A ที่บัดนี้ถูกปิดล้อมไว้ ทำให้ผู้คนต่างพากันตื่นตระหนกตกใจว่าเกิดเรื่องอะไรใหญ่โตขึ้นรึเปล่า ทุกๆทางเข้า-ออกต่างแออัดยัดเยียด ผู้คนไม่สามารถเล็ดลอดจากคนที่ทาวัตสั่งการให้คุมเข้มไปได้เเน่นอน
" นี่ลูกพี่เราบ้าไปแล้วรึเปล่า ?ไม่มีเรื่องอะไรแล้วอยู่ๆมาสั่งปิดเมือง A ทำไมกัน " ธรรศได้ยินเรื่องนี้เข้าถึงกับประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นฝีมือของผู้ชายที่เย่อหยิ่งเย็นชาคนนั้นเป็นคนทำ
นี่มันจะบ้าไปกันใหญ่เเล้ว !
" ใครจะไปรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น " ถึงเเม้ว่านรชัยจะรู้สึกตกใจ เเต่ก็ไม่ได้เว่อร์วังขนาดธรรศ เขาส่งข้อความไปอย่างใจเย็น
" ไม่ได้หรอก ฉันมีลางสังหรณ์ว่ามันต้องเกิดเรื่องขึ้นเเน่ๆ เดี๋ยวฉันจะออกไปดูซะหน่อย " ธรรศพูดพลางหยิบเสื้อคลุมจากตู้เสื้อผ้าออกมาใส่ ก่อนจะเดินออกไป
เขาเป็นพวกขี้เมาท์ชอบซุบซิบนินทา เเล้วยิ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ มันต้องไปดูซะหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...