หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 238

ตอนที่ 238 ไม่ใช่ประธานประภาพ

" คุณวรินทร " เลขานิธูรดังลอดมาจากในสาย

" คุณนิธูร ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ ?เรื่องโฆษณาใช่มั๊ยคะ ?" วรินทรถามอย่างสุภาพอ่อนน้อม

" ใช่ค่ะคุณวรินทร ทางท่านประธานได้ลงประชามติในเรื่องนี้เรียบร้อยเเล้วค่ะ เเล้วก็ได้นำเงินลงทุนส่วนหนึ่งไปอัดฉีดกับโฆษณาชิ้นนี้เเล้วค่ะ ถึงตอนนั้นก็เริ่มถ่ายทำได้ตามปกติค่ะ ดิฉันเลยนำมาแจ้งให้ทางคุณวรินทรได้รับทราบน่ะค่ะ " น้ำเสียงของเลขานิธูรฟังรื่นหูดูเป็นมืออาชีพ ดูเป็นการเป็นงานเหมือนกับที่เธอเป็น

วรินทรรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย " เเต่ว่านักแสดงนำชายในโฆษณาไม่ใช่คุณประภาพเหรอคะ ?ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ "

เเต่ถึงเเม้ว่าประภาพจะอาการดีขึ้นเยอะเเล้ว เเต่ก็คงไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลง่ายๆหรอก เเละต่อให้เขาออกจากโรงพยาบาลได้เเล้ว ก็ยังทํากิจกรรมที่ต้องออกแรงมากๆไม่ได้ไปสักระยะหนึ่ง อีกอย่างบทที่ต้องถ่ายทำ มีเเต่ฉากที่ตื่นเต้นหวาดเสียว ออกแนว Thriller ลุ้นระทึก

" ไม่ใช่ประธานประภาพค่ะ เป็นคนอื่น "

" เเล้วใครคะ ?" วรินทรนึกสงสัย นี่เปลี่ยนคนเเล้วเหรอ เเต่ก็นั่นเเหละ มันเลยเวลามานานมากเเล้ว ควรต้องถ่ายทำให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนนี้ด้วยซ้ำ

ประภาพยังต้องพักฟื้นอีกสักระยะ เปลี่ยนคนเเสดงน่ะถูกต้องเเล้ว

จะให้คนป่วยที่ยังไม่หายดีไปถ่ายภาพยนตร์โฆษณาทั้งสภาพอย่างนั้น ก็คงไม่ใช่เรื่อง

เลขานิธูรไม่ตอบ เเต่ก็พูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ " รอคุณวรินทรหายดีเเล้วเดี๋ยวก็ได้ทราบเองค่ะ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ทางท่านประธานคงจะแจ้งให้คุณวรินทรได้รับทราบอีกทีค่ะ "

วรินทรรู้สึกเขินอาย เลขานิธูรรู้เรื่องที่เธอกับทาวัตอยู่ด้วยกันเเล้วเหรอ ?

_

หลังจากที่วรินทรหายดี แผลที่เเขนเเละขาของเธอไม่เหลือร่องรอยแผลเป็นไว้ให้เห็น คงเป็นเพราะยาของหมอสเลเตอร์เเน่ๆ

วันนี้วรินทรมาในลุคขาวดำ ดูหรูหราปราณีต ด้วยเสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาว ทับด้วยเสื้อคลุมบางตัวสั้นสีดำ ท่อนล่างสวมกางเกงหนังรัดรูปสีดำ คาดทับด้วยเข็มขัดหนังสีเดียวกับกางเกง สวมรองเท้าคัชชูสีดำ มือทั้งสองสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง ให้ความรู้สึกอินเทรนด์นำสมัยแก่ผู้ที่พบเห็น

บนหัวสวมหมวกเอียงๆใบสีดำล้วนไม่มีลวดลาย ต่างจากปกติที่ดูเเสนจะธรรมดาเรียบง่าย เเต่บัดนี้ดูเท่เก๋ไก๋ กลายเป็นสาวอินเทรนด์นำสมัย ใครๆได้เห็นเป็นต้องตกตะลึง

ลุคเธอดูแมตช์กันอย่างเรียบหรูดูดี มองยังไงก็ไม่เหมือนคนที่เคยผ่านการมีลูกมาแล้วหนึ่งคน เเต่กลับดูเหมือนเด็กนักเรียนมัธยมเอ๊าะๆ ดูสดใสมีชีวิตชีวา

ใบหน้ารูปไข่ขาวอมชมพูระเรื่อๆ ดูเหมือนเด็กสาวที่กำลังมีความรัก ยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก

ระหว่างทางที่วรินทรเดินจากประตูทางเข้า Crystal Pavilion จนมาถึงด้านใน ความสวยของเธอสะกดทุกสายตาให้หันมามองที่เธอ ความน่ารักสดใสดึงดูดสายตาจากผู้คนจนนับไม่ถ้วน

ได้ยินว่ามีการเปลียนบทใหม่ เพราะเปลี่ยนนักเเสดงนำชาย ก็เลยต้องเริ่มถ่ายกันใหม่หมด

เเต่ครั้งนี้สถานที่ถ่ายทำอยู่เเถวๆ Crystal Pavilion เเถวนั้นมีคฤหาสน์หลังใหญ่หรูหราสีขาวสไตล์โกธิคอยู่หลังหนึ่ง ชอบมีภาพยนตร์ไปใช้ที่นั่นเป็นสถานที่ถ่ายทำอยู่บ่อยๆ

น่าจะเลือกที่นี่ซะตั้งเเต่เเรก ทำไมต้องถ่อไปถ่ายถึง The Rooftop ก็ไม่รู้ เกือบจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาซะเเล้ว

หญิงสาวอดวิจารณ์อยู่ในใจไม่ได้ กล่าวทักทายบรรพบุรุษรุ่นที่ 18 ที่เป็นคนเขียนบทอยู่ในใจ ก่อนจะผลักเปิดประตูแกะสลักบานนั้น เเล้วเดินเข้าไปด้านใน

" คุณวรินทรมาเเล้วเหรอ ทุกอย่างใกล้จะพร้อมเเล้ว ยังไงเข้าไปรอที่ห้องรับรองก่อนนะครับ นักแสดงนำชายที่เข้าฉากกับคุณก็อยู่ในห้องนั้นเเล้ว " ผู้กำกับพูดจบก็เดินผ่านไป ไม่รู้ทำไมวันนี้ผู้กำกับดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

สายตาของผู้กำกับที่มองเเวบมาที่เธอนั้น แฝงไปด้วยความยกย่องชื่นชม

ทว่าคนอื่นที่ว่านั้น ก็หมายถึงตลัส ลูกชายคนโตของตระกูลยังเจริญนั่นเอง

เเต่นั่นก็ไม่ได้มีผลกับความสัมพันธ์ระหว่างคาร่าเเละตวัสเลยแม้เเต่น้อย ทั้งสองเป็นหนุ่มสาวที่เติบโตมาด้วยกัน ขี่คอเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็กจนสนิทสนมกัน

คาร่ารู้จักตวัสดีว่า ถ้าหากเธอไม่ยินยอมที่จะหมั้นหมาย ตวัสก็ไม่คิดจะบังคับเธออยู่เเล้ว

เเต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่า เมื่อถึงคราวเธอที่เธอเผชิญกับจุดตกต่ำของชีวิต ยามที่ต้องตกที่นั่งลำบาก เธอกลับได้พบกับตวัส

เเละที่ยิ่งไม่คาดคิดไปกว่านั้นก็คือ ตลอดเวลาที่เขาเเละเธออยู่ด้วยกัน กลับรู้สึกคุ้นเคยกันเหมือนคู่ปกติทั่วๆไป ไม่มีความรู้สึกแปลกหน้าใส่กัน เเละอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาก

คาร่ารู้ดีว่าวรินทรมีความลับอะไรซ่อนอยู่ ทัตดาก็มีความลับ นรชัยก็มีความลับ เเละช่วงก่อนที่ตวัสหายไป เขาก็มีความลับด้วยเช่นกัน

เธอไม่อยากจะถาม เเละไม่กล้าที่จะถามด้วย เพราะเธอเองก็รู้ดีว่าคนเราต่างก็ต้องมีความลับที่ซ่อนอยู่ลึกๆของจิตใจ เเละเจ็บปวดเกินกว่าที่อยากจะพูดมันออกมา

ก็คงแบบเดียวกับความเจ็บปวดตอนที่เธอเลิกกับนรชัยในตอนนั้น

" ไม่ลงมาดูเองเหรอ ?" ตวัสพูดแบบลอยๆออกมา จังหวะที่เสียงดังฟังชัดแว่วมาจากชั้นบนนั้น เขากำลังตักกับข้าวใส่จานอยู่พอดี ก่อนจะเดินถือจานอาหารออกมา แล้วหันไปมองคาร่าที่ยังอยู่ข้างบนด้วยสายตาที่มีแต่รอยยิ้ม

" ยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลยสิท่า ?เธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่ซกมกที่สุดเลยนะเนี่ย !" ตวัสส่งสายตาแบบน่ารังเกียจไปให้เธอ ก่อนจะส่ายหัวไปมา

พอได้ยินเเบบนั้น คาร่าสบท " เชี่ย " ออกมา ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปล้างหน้าแปรงฟัน

หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอก็เดินลงมานั่งที่โต๊ะอาหาร ซึ่งตวัสได้เตรียมจัดโต๊ะอาหาร เสิร์ฟกับข้าวพร้อมจานช้อนตะเกียบไว้เรียบร้อยหมดเเล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์