ตอนที่ 296ตำหนิตัวเอง
วรินทรหันไปมองดูด้วยความสงสัย เเล้วก็ได้เห็นชายชราคนหนึ่ง กำลังจูงมือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองเดินเข้ามาด้านใน มุมปากเธอเผยอขึ้นด้วยความประหลาดใจ ลูกชายของเธอช่างเป็นที่รักของบรรดาผู้คนทุกเพศทุกวัยเลยสินะ เเต่ทว่าชายชราคนนั้น ดูคุ้นตาจริงๆ ……
ต่อให้วรินทรยังไม่หายงงงวยกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า ทว่าตอนนี้บรรยากาศภายในงานกลับดูไม่ปกติ ผู้คนที่ยืนอยู่สองฝั่งดูเหมือนจะเคารพเเละเกรงกลัวชายชราคนนี้เอามากๆ เห็นได้ชัดว่าคนๆนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เหมือนจะเป็นไปได้ว่า ……
วรินทรเบิกตากว้างมองไปที่ชายชราคนนั้น ก็ว่าอยู่ ทำไมดูคุ้นตาจัง ที่เเท้ก็เพราะว่าเขาดูคล้ายกับพ่อของเธอเอามากๆนั่นเอง หรือว่าชายชราท่านนี้ก็คือ——ปู่ของเธอ ?
ชายชราจูงมือกวินเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าวรินทรเเละโตษิน เขามองดูโตษินด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตา เเต่ก็แฝงไปด้วยความเสียใจ รวมๆแล้วมันช่างเป็นความรู้สึกที่ดูซับซ้อนซ่อนเร้นยากจะอธิบาย
ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด วรินทรมองดูพวกเขาเงียบๆ ไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมา
"พ่อครับ"โตษินเรียกชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าเขาดูสุภาพอ่อนโยน เเละถึงเเม้ว่าเขาจะเริ่มมีอายุเเล้ว เเต่ก็ยังทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ที่อยู่ในงาน ต่างพากันใจเต้นสั่นสะรัวอยู่ไม่น้อย
สายตาของคุณท่านฉายแววความโล่งอกสบายใจออกมา ก่อนจะยื่นมือออกมาแตะที่ไหล่โตษินเบาๆ"กลับมาก็ดีแล้วนะ กลับมาก็ดีแล้ว"
พอโตษินได้ฟังก็รู้สึกกระสับกระส่าย หลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยยอมเฉียดกรายเข้ามาที่บ้านหลังนี้เลย ทำให้ชายชราคนหนึ่งต้องเป็นทุกข์ เขาอดที่จะตำหนิตัวเองไม่ได้จริงๆ
ถึงแม้บรรดาพี่ชายของเขาจะเห็นเขาเป็นหนามยอกอกอยู่ตลอดเวลา เเต่ว่าพ่อของเขาคือคนที่รักเขาสุดหัวใจ
ทำไมเขาถึงได้เป็นลูกอกตัญญูเยี่ยงนี้
"แล้วนี่คือ ?"คุณท่านเลื่อนสายตามาทางวรินทร แวบหนึ่งพลางหวนคิดถึงอะไรบ้างอย่าง เหมือนเคยเจอผู้หญิงคนนี้ที่ไหนมาก่อน
วรินทรได้ยินคุณท่านเอ่ยปากถามแบบนี้ ก็เลยเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะส่งยิ้มเเละตอบเขาไปว่า"สวัสดีค่ะคุณปู่ หนูชื่อวรินทร เป็นหลานสาวของท่านค่ะ"
สายตาของคุณท่านเริ่มเปล่งประกายอีกครั้ง ในที่สุดก็นึกขึ้นได้ว่าทำไมรู้สึกคุ้นตาหญิงสาวหน้ารูปไข่คนนี้จัง ก็เพราะวรินทรช่างดูเหมือนทมยันตีแม่ของเธออย่างกับแกะ
ถึงแม้ว่าคุณท่านจะยังไม่เคยเห็นหน้าวรินทรมาก่อน เเต่เขาก็เคยได้พบทมยันตีแม่ของเธอมาแล้วหลายครั้ง เเต่พอได้ยินชื่อของวรินทร คุณท่านก็เลยหันไปถามกับโตษินว่า"ไม่ใช่เคยบอกว่า ถ้าพี่ชายชื่อฐานทัต ก็จะให้น้องสาวชื่อว่าเตชินิหรอกรึ ?ทำไมเปลี่ยนชื่อซะล่ะ ?"
เตชินิ ?
เตชินิอย่างงั้นเหรอ ?
วรินทรถึงกับช็อค เธอคิดไม่ถึงเลยว่าครั้งหนึ่งพ่อของเธอเคยคิดจะตั้งชื่อลูกสาวไปเรื่อยเปื่อยแบบนั้น พี่ชายชื่อฐานทัต ก็เลยจะให้น้องชื่อเตชินิ เนี่ยอ่ะนะ ……
"ก็เพราะว่าแม่ของหนู หวังให้ชีวิตของลูกสาวปราศจากความเศร้าโศก หนูก็เลยได้ชื่อว่า วรินทร น่ะค่ะ"วรินทรเห็นโตษินออกอาการแปลกๆ ก็เลยรีบอธิบาย
เรื่องนี้แม่ของเธอเล่าให้ฟังสมัยเธอเป็นเด็ก แม่ตั้งชื่อให้เธอว่า วรินทร ก็เพราะหวังให้ชีวิตของเธอปราศจากความเศร้าโศกใดๆ
แต่ว่าพ่อของเธอกลับเรียกเธอว่าเตชินิมาโดยตลอด เมื่อตอนที่พบกันครั้งเเรก พ่อก็เรียกเธอว่า"เตชินิ"
และเธอก็ไม่ได้ใช้นามสกุลของบ้านพูลสวัสดิ์ ดังนั้นชื่อเต็มๆของเธอก็คือ วรินทร สุขกาล
ความทรงจำเก่าๆเเวบผ่านเข้ามายังแววตาของโตษิน ก่อนจะพูดลอยๆออกมา"ให้ชีวิตของเธอปราศจากความเศร้าโศกใดๆ"
"เป็นชื่อที่ดีมากๆ ปู่ก็ขอให้ชีวิตของหลานปราศจากความเศร้าโศกนะ"คุณท่านยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ดูเหมือนว่าคุณปู่จะยอมรับในตัวหลานคนนี้ของท่านเเล้วสินะ
ในขณะเดียวกันนั้น ทางด้านจุลินทร์เเละชนรพก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่ในมือคุณท่านด้วยเช่นกัน ทั้งสองหันไปสบตากันมองไปที่แหวนวงนั้น ด้วยความโลภและอยากกระหายในอำนาจ
"คุณปู่คะ ของชิ้นนี้มันมีค่ามากเกินไป กวินรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ"วรินทรหันไปมองที่แหวนวงนั้น ก่อนจะพูดออกตัวแทนกวิน
ของชิ้นนี้ แค่เห็นก็รู้ว่าไม่ใช่สิ่งของธรรมดาทั่วไป สิ่งที่คุณท่านคิดจะมอบให้กับกวินมันมีค่ามากเกินไปจริงๆ
กวินได้ยินที่หม่ามี๊พูดแบบนั้น ก็รีบพยักหน้า ก่อนจะพูดกับคุณท่านว่า"ใช่เเล้วครับคุณตาทวด เเค่กวินได้เจอคุณตาทวดแค่นี้ก็ดีใจมากเล้วครับ ของขวัญวันเเรกพบจริงๆเเล้วต้องเป็นกวินกับหม่ามี๊ที่ต้องเตรียมให้กับคุณตาทวดถึงจะถูกจะให้คุณตาทวดมาเป็นฝ่ายมอบให้ได้ยังไงกันล่ะครับ"
พอได้ยินที่กวินพูด ทั้งวรินทรเเละโตษินต่างก็โล่งอก ถ้ากวินรับของสิ่งนี้ไว้ ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเขาจะสามารถรักษามันไว้ได้หรือไม่
เเต่ในทางกลับกัน มันก็เเสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าคุณท่านรักใคร่เอ็นดูกวินมากขนาดไหน เเล้วอย่างนี้คนที่อยู่ที่นี่ ใครเลยจะกล้าลบหลู่ดูหมื่นกวินหลานทวดคนนี้ได้เล่า ?
คุณท่านครุ่นคิดเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง ไม่พูดจา เเต่ก็ไม่ได้สวมแหวนกลับไปที่นิ้วของท่าน เขาเพียงเเค่เอาแหวนยัดใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเท่านั้น ก่อนจะพูดกับกวินด้วยความอ่อนโยนว่า"งั้นก็ได้ ถ้ากวินเห็นอะไรในบ้านหลังนี้เเล้วชอบ ตาทวดจะยกให้หลานก็เเล้วกันนะ"
กวินก็รู้ดีว่าถ้าขืนยังปฏิเสธน้ำใจคุณตาทวดอีกล่ะก็ คงจะทำให้ท่านต้องเสียใจเป็นเเน่ ก็เลยพยักหน้าให้คุณท่านอย่างว่าง่าย
คุณท่านได้เห็นอย่างนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะจูงมือกวินเดินขึ้นไปบนเวที โดยมีโตษินกับวรินทรเดินตามไปด้วย
คุณท่านกล่าวแสดงความขอบคุณสั้นๆ แก่แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของท่านในวันนี้ อีกทั้งยังเเนะนำวรินทรกับกวินอย่างเป็นทางการ ว่าท่านได้รับยอมรับในสถานะของหลานและเหลนสองคนนี้เรียบร้อยเเล้ว พร้อมกับกล่าวต้อนรับการกลับเข้าบ้านของโตษินในครั้งนี้ด้วย
รอบนี้โตษินไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธใดๆ เพราะเขารู้ดีว่าปฏิเสธไปก็เท่านั้น เพราะคุณท่านได้ตัดสินใจเรียบร้อยเเล้วที่จะให้เขาเป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกูลเป็นคนต่อไป
งานเลี้ยงเริ่มขึ้นเเล้ว วรินทรกับกวินคอยช่วยคุณท่านต้อนรับเเขกเหรื่อที่เป็นบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งก็ถือเป็นการเเนะนำตัวอีกทางหนึ่ง ประหนึ่งเป็นการดึงพวกเขาเข้าสูงวัฏจักรแห่งนี้ เพื่อให้คนเหล่านั้นได้จดจำพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...