บทที่ 322 ถึงจุดวิกฤตก็หงอยเป็นหมา
เมื่อทุกการเคลื่อนไหวของซุนยีเฉินอยู่ในสายตาทั้งหมดแล้ว ลู่เสี้ยงหยางก็ยิ้มแล้วหมุนตัวเดินจากไป
ไอ้หมอนี่เล่นเกมเก่งมากจริงๆ เทคนิคเล็กๆน้อยๆแบบนี้ยังคิดออกมาได้
เขาทอดถอนใจ ในใจรู้สึกไร้ค่าแทนหวังเสว่ ถึงแม้หวังเสว่ผู้นี้จะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ก็มีพฤติกรรมที่เปิดเผยและโปร่งใส คิดไม่ถึงเลยว่าคู่หมั้นของเธอจะกลายเป็นคนถ่อยที่ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์แบบนี้
เกรงว่ามันจะเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับเธอถ้าจะต้องแต่งงานกับคนอย่างนี้ในอนาคตจริงๆ
ระหว่างทางกลับ ลู่เสี้ยงหยางเลือกเก็บผลไม้ป่าสองสามอย่างแบบสบายๆ
หลังจากที่มาถึงข้างๆตัวเย่สวนแล้ว ก็นำผลไม้ป่าเหล่านี้มอบให้กับเธอทั้งหมด
จนมาถึงตอนนี้ ลู่เสี้ยงหยางเป็นคนแรกที่หาของกินได้ ถึงแม้จะเป็นผลไม้ป่าไม่กี่ชนิด แต่ในเวลาที่หิวโหย นั่นคืออาหารมื้อใหญ่เช่นกัน
หลายคนมองมาแล้วน้ำลายไหล
เย่สวนสุขใจหาใดเปรียบ นี่คือสามีของเธอ ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็สามารถให้เธอได้รับความเป็นธรรมอยู่เสมอ
ผู้ชายหลายคนที่อยู่ข้างๆเกิดความละอายใจขึ้นมาบ้างแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเขยแต่งเข้าบ้านเพิ่งจะออกไปได้ไม่นานก็เก็บผลไม้ป่าสองสามอย่างกลับมาได้แล้ว พวกเขาออกไปหาแล้วรอบหนึ่งแต่กลับไม่เจอของกินเลย
หลังจากที่เย่สวนกินผลไม้ป่าไปสองสามลูกแล้วจึงมอบส่วนที่เหลือให้หวังเสว่
หวังเสว่เบ้ปากด้วยความโกรธ เจ้าขยะซุนยีเฉินนั่นไปตั้งนานแล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าเขาหาของกินกลับมาเลย
อย่างไรก็ตามยังไม่ทันที่หวังเสว่จะกินผลไม้ลงไป เสียงของซุนยีเฉินก็ดังออกมาจากป่า
“ฮ่าๆ เสว่เอ๋อ คุณดูสามีของคุณสิ ผมหาของอร่อยกลับมาให้คุณกินแล้วนะ”
ทันทีที่สิ้นเสียง ซุนยีเฉินก็วิ่งมายังด้านข้างของหวังเสว่พร้อมเหงื่อท่วมตัว เขายกถุงผ้าออกจากบ่าลงมาแล้วเปิดออก ข้างในมีมันหวานป่าจำนวนมากและกระต่ายป่าสองสามตัว
หวังเสว่ประหลาดใจอย่างมาก จ้องมองไปที่ซุนยีเฉินอย่างว่างเปล่าและถามว่า “ของเหล่านี้คุณเพิ่งไปหามาทั้งหมดเลยเหรอ?”
ซุนยีเฉินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า : “ใช่แล้วล่ะ ผมใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะขุดเจอมันหวานป่าพวกนี้ นอกจากนี้ยังใช้ความพยายามอย่างหนักในการตีกระต่ายป่าเหล่านี้ด้วยนะ”
หวังเสว่รู้สึกประทับใจมาก ก่อนหน้านี้ซุนยีเฉินในสายตาของเธอเป็นเพียงแค่คุณชายที่กินดื่มไปวันๆเท่านั้นไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจซุนยีเฉินผิดไปเสียแล้ว ผู้ชายคนนี้มีความสามารถด้วยเช่นกัน อย่างน้อยในตอนที่เธอหมดหนทาง ผู้ชายคนนี้ก็เหมือนกับฮีโร่ที่ช่วยแก้ไขปัญหาตรงหน้า
ซุนยีเฉินหัวเราะอยู่ใจในใจดังฮ่าๆเมื่อเห็นว่าหวังเสว่ซาบซึ้งใจเข้าให้แล้ว ดูเหมือนว่าความพยายามของตนเองจะไม่เสียเปล่า เขากำลังจะได้รับความโปรดปรานจากหวังเสว่แล้ว
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกฮึกเหิมมากยิ่งขึ้นและพูดกับหวังเสว่ว่า : “เสว่เอ๋อ ตอนนี้คุณแค่มานั่งข้างๆอย่างเชื่อฟังแล้วสามีคนนี้จะย่างมันหวานและกระต่ายให้คุณ มาเร็วเข้า แล้วคุณจะได้กินของอร่อยกลิ่นหอมฉุยแล้ว”
“อื้ม” หวังเสว่พยักหน้าแล้วส่งยิ้มที่หาได้ยากให้กับซุนยีเฉิน ยิ่งไปกว่านั้นยังดึงกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้เขาด้วย
“ฮิๆ” ซุนยีเฉินพอใจอย่างมากแล้วเกาหัวยิกๆก่อนเริ่มต้นก่อไฟเตรียมตัวย่างมันหวานและกระต่าย
และในตอนนี้ หลายคนที่อยู่รอบข้างกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจว่า ซุนยีเฉินนำมันหวานป่าและกระต่ายป่ากลับมาเยอะแยะขนาดนี้ พวกเขาทั้งสองต้องกินไม่หมดแน่จึงคิดที่จะเข้าไปขอส่วนแบ่ง
เซี่ยงหยู่โม่ ไป๋เหวินปางและซุนยีเฉินมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมากที่สุด พวกเขาสองคนจึงหน้าด้านนั่งอยู่ข้างๆกองไฟรอมันหวานและกระต่ายย่างจนสุก
ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา หลายคนแค่นยิ้มแล้วมองไปที่เย่สวนและลู่เสี้ยงหยาง
เพื่อต้องการดูว่าเย่สวนจะเลือกเช่นไรและดูว่าลู่เสี้ยงหยางจะแสดงออกยังไงด้วยเช่นกัน
เย็ดแม่ม!
คุณชายซุนออกไปข้างนอกก็ขุดมันหวานเหล่านี้และตีกระต่ายสองสามตัวกลับมา แต่แกเก็บผลไม้ป่าไม่กี่อย่างกลับมา ทำไมช่องว่างถึงได้กว้างขนาดนั้นล่ะ?
เย่สวนไม่พูดอะไรและแสดงท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย ถึงแม้เธอจะไม่ได้ใส่ใจในการกินผลไม้ป่า แต่เมื่อเทียบกับหวังเสว่ในตอนนี้ ก็รู้สึกผิดหวังอยู่ในใจขึ้นมาบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อสักครู่นี้ลู่เสี้ยงหยางคือคนแรกที่เก็บผลไม้ป่ากลับมาและสามารถหาของกินได้ ในใจของเธอมีความสุขอย่างมากและแล้วก็รู้สึกภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน
แต่มาตอนนี้ความสุขนี้ยังไม่ทันจะผ่านไปก็ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับซุนยีเฉิน
ขณะที่มองดูท่าทางการแสดงออกของเย่สวน ซุนยีเฉินรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จอย่างมาก ดูเหมือนว่าตนเองได้เหยียบไอ้เศษสวะลู่เสี้ยงหยางไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นจึงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา : “ขยะก็คือขยะ ทำอะไรก็ไม่ได้ความ คุณชายคนนี้จะเปรียบเทียบเรื่องเงินหรือเรื่องภูมิหลังกับแกก็เป็นการรังแกแกอีก ตอนนี้พวกเราเลยเปรียบเทียบกันด้วยการพื้นฐานการเอาชีวิตรอดในป่าแกก็ยังเทียบไม่ได้อีก นี่มันคือความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงเลยใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว เกือบทุกคนล้วนมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง สีหน้าเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม
ฮ่าๆ เขยแต่งเข้าบ้านคนนี้เสียหน้าและอับอายจนไม่มีอะไรจะพูดแล้วสินะ?
ให้ตายเถอะ เมื่อกี้นี้ยังได้ยินเขาพูดพล่ามไร้สาระอยู่เลย ตอนนี้หงอเป็นหมาเลย มันน่าสนใจจริงๆ
ในใจของกงหยู่หนิงสั่นไหวเล็กน้อย ทำไมในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ จู่ๆลู่เสี้ยงหยางก็ไม่ได้ความขึ้นมา และคิดไม่ถึงเลยว่าเทียบกับซุนยีเฉินลูกผู้ดีมีเงินคนนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ