หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1231

แม่นมอาบน้ำให้ซ่านซ่านจนสะอาดด้วยดวงตาที่แดงก่ำ พบว่ามีแผลถลอกตามตัว แต่ไม่มีแผลใหญ่ จึงโล่งใจขึ้น

“ม่าย...ม่ายเฟิง…” เขาชี้ไปนอกประตู

แม่นมอุ้มเขาออกไป มหาปุโรหิตมาดูด้วยตนเอง ม่ายเฟิงฟื้นขึ้นมาพอดี

ม่ายเฟิงเป็นลูกชาวนา ไม่เคยเห็นคนรวยมากขนาดนี้มาก่อน กำลังรู้สึกกลัว

แล้วก็เห็นซ่านซ่านเข้ามาในห้อง

“เสี่ยวหูลู่ ที่นี่...ที่ไหนหรือ?” ม่ายเฟิงเห็นทุกคนแต่งตัวหรูหรา มีองครักษ์มากมาย จึงอดไม่ได้ที่จะหดหัว

ซ่านซ่านดิ้นออกจากอ้อมแขนแม่นมง เดินโซเซไปหาม่ายเฟิง “นี่คือบ้านข้า บ้านข้า เจ้าอยู่…”

แล้วซ่านซ่านก็หันไปมองลู่เจาเจา “อยู่ อยู่”

เขาชี้ไปที่ม่ายเฟิง

ซ่านซ่านรู้ว่าม่ายเฟิงไม่มีบ้านอีกต่อไปแล้ว ถ้าปล่อยเขาไป เขาก็จะเป็นแค่เด็กเร่ร่อน ไม่สู้ให้เขาอยู่ข้าง ๆ ตัวเอง…

ม่ายเฟิงคุกเข่าลงกับพื้นทันที “สถานะของม่ายเฟิงต่ำต้อย จะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

เขากลัวและกระวนกระวายใจ เขาถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน แม้แต่แม่เลี้ยงก็ยังทนเขาไม่ได้ แล้วคนอื่นจะเก็บเขาไว้ได้อย่างไร?

ลู่เจาเจาเดินเข้าไปพยุงม่ายเฟิงให้ลุกขึ้น

“ซ่านซ่านเร่ร่อนอยู่ข้างนอก ขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือเขา” ไม่สิ ขอบคุณสำหรับหัวใจที่จริงใจของเจ้า

“ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ ก็อยู่บ้านเราเถอะ”

“ในตระกูลเรามีปรมาจารย์และผู้บำเพ็ญตน ถ้าเจ้าอยากเรียนรู้ทั้งด้านบุ๋นและบู๊ก็ลองดูได้” ลู่เจาเจาเห็นว่าเขามีจิตใจดีงามมาก จึงเกิดความคิดที่จะช่วยเหลือ

สีหน้าของม่ายเฟิงเต็มไปด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง “เรียนหนังสือ? ฝึกตน? ข้าทำได้หรือ? ข้าทำได้จริง ๆ หรือ?”

พูดจบ ก็คุกเข่าลงกับพื้นและโค้งคำนับทันที

“ข้าเต็มใจติดตามคุณชายน้อยซ่านซ่าน ดูแลและเอาใจใส่เขา ข้าเต็มใจเป็นทาสรับใช้เพื่อตอบแทนท่าน!” ม่ายเฟิงตื่นเต้นจนแก้มแดงก่ำ เมื่อขยับตัว บาดแผลที่หน้าอกก็เริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา

ลู่เจาเจารีบพูด “เจ้าเป็นอะไร ทำไมต้องคุกเข่าลงด้วย!”

“จะเป็นทาสรับใช้ได้อย่างไร การที่เจ้าช่วยซ่านซ่านก็ถือเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงแล้ว จะให้ผู้มีพระคุณมาเป็นทาสได้อย่างไร ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ข้าลู่เจาเจาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน?”

“ไม่มีเหตุผลเช่นนี้!”

“ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ ก็ให้ซ่านซ่านเรียกเจ้าว่าพี่ชาย เจ้าก็เป็นพี่ชายบุญธรรมของซ่านซ่านไป”

“ซ่านซ่าน เจ้าว่าอย่างไร?”

ซ่านซ่านกะพริบตา ถึงแม้จะรู้สึกว่ามนุษย์ไม่คู่ควรจะเทียบกับตน แต่ก็เห็นว่าเขาเอาชีวิตมาช่วยตนไว้ ซ่านซ่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า

“เจ้าอย่าปฏิเสธเลย นี่เป็นสิ่งที่เจ้าควรได้รับ พักอยู่ที่นี่อย่างสบายใจเถอะ...”

เซี่ยอวี้โจวอุ้มกล่องไม้สวยงามออกมาอย่างหมดแรง ดูเหมือนจะเป็นไม้จันทน์หอม ยังมีกลิ่นหอมจาง ๆ อยู่ในอากาศ

“นี่คือกล่องเก็บเถ้ากระดูกที่ซื้อมาในราคาสูง เจ้าเอาไปเถอะ ของล้ำค่าประจำร้านเลยนะ…” ลู่เจาเจามองกล่องเก็บเถ้ากระดูกด้วยความเสียดายเล็กน้อย นี่ซื้อมาด้วยเงินส่วนตัวของนาง

ซ่านซ่านโผล่หัวออกมาจากด้านหลังม่ายเฟิงด้วยความสงสัย “ซื้อ...มาทำไมหรือ?”

ลู่เจาเจาเกาหัว ไม่พูดอะไร

จุยเฟิงพูดอย่างแผ่วเบา “ก่อนพี่สาวเจ้าจะออกจากเมือง นางซื้อกล่องเก็บเถ้ากระดูกนี้ด้วยเงินส่วนตัวของนางพร้อมกับน้ำมูกน้ำตา”

ตอนนั้นเดินเข้าร้านไปอย่างร่ำรวย บอกให้เจ้าของร้านหยิบกล่องเก็บเถ้ากระดูกที่แพงที่สุดและมีค่าที่สุดในร้านออกมา ลงทุนสุด ๆ ไปเลย!

เมื่อครู่ตอนกลับมา นางไปขอเงินคืน แต่ถูกเจ้าของร้านปิดประตูใส่

ว่ากันว่าสมบัติล้ำค่าของร้านนี้ หกปีแล้วที่ยังขายไม่ออก

ขายของสิ่งนีน้ไปได้กินไปอีกสามปี

อย่างไรก็ตาม กล่องไม้จันทน์นี้ดีจริง ๆ ได้ยินมาว่าวัตถุดิบเคยถูกนำไปบูชาต่อหน้าพระพุทธ มีประโยชน์ต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

ซ่านซ่านเอียงคอ ทำหน้างง ก่อนออกจากเมืองงั้นหรือ?

ทำไมต้องซื้อก่อนออกจากเมืองด้วย?

“พี่หญิง ทำไมต้องซื้อ?” เขาเป็นคนชอบซักไซ้ไล่เลียง ถามทันทีพร้อมกับดึงชายเสื้อของเจาเจา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์