ตั้งแต่สวี่ซื่อแต่งงานเข้ามาที่นี่ การกินการอยู่และเสื้อผ้าที่สวมใส่ของจวนโหวดีขึ้นหลายระดับ
ตระกูลลู่ไม่ใช่ตระกูลใหญ่โต ก่อนที่สวี่ซื่อจะแต่งงาน ตระกูลนี้จึงใช้ชีวิตกันอย่างทุลักทุเลไม่น้อย
“จริงสิ จิ่งไหวจะกลับบ้านเมื่อใด”
“ข้ารู้สึกเห็นใจหลานชายคนโตของข้าเหลือเกิน”
“คนที่สอบอันดับสามหยวนได้จะต้องมาจากจวนโหวของข้าเท่านั้น จะให้เขาร่อนเร่อยู่ข้างนอกไม่ได้เชียวนะ”
นายหญิงใหญ่อดไม่ได้ที่จะถามเขา
“ท่านแม่ ข้ามีแผนอยู่แล้วน่า” ลู่หย่วนเจ๋อตอบอย่างหงุดหงิด
“วันนี้น้องสาวของเจ้ายังไม่มาเยี่ยมบ้านของเราเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับนางหรือไม่” นายหญิงใหญ่ตั้งตารอทั้งวัน แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของลู่หว่านอี้
“ท่านแม่ หว่านอี้ถูกท่านเลี้ยงจนเสียนิสัย อย่าตามใจนางตลอดเวลา” ลู่หย่วนเจ๋อโบกมือแล้วเดินออกจากประตูไป
นายหญิงใหญ่จึงทำได้เพียงถอนใจด้วยความหงุดหงิดเช่นกัน
จนกระทั่งถึงเวลาค่ำ ตระกูลลู่จึงกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ทว่ารถม้าของตระกูลกู้กลับปรากฏขึ้นหน้าประตูใหญ่
นับตั้งแต่ลู่หวานอี้แต่งงานออกไปเป็นเวลาครึ่งปี นางดูซูบผอมลงเป็นอย่างมาก
บุรุษที่ยืนอยู่ข้างๆ คือกู้หลิงบัณฑิตจอหงวน เขามีใบหน้าอ่อนโยน ดวงตาจับจ้องไปที่ลู่หว่านอี้ที่กำลังตัวสั่นงันงก
พวกเขาจับมือกันเดินเข้าไปในจวนโหว
ลู่หว่านอี้โค้งคำนับนายหญิงใหญ่พร้อมกล่าวคำอวยพรปีใหม่
ก่อนที่นางจะคุกเข่าลงอย่างกะทันหัน
และน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลรินลงมา
“ท่านแม่! ช่วยข้าด้วย โปรดช่วยข้าที!” นางคุกเข่าพร้อมกับเอนตัวเข้าไปดึงกางเกงของนายหญิงใหญ่ด้วยเสียงสิ้นหวังและสั่นเทา
ใบหน้าของกู้หลิงพลันมืดลงในทันที
ภายในบ้านบรรยากาศเย็นเยือกลงเล็กน้อย
นายหญิงใหญ่ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไรครู่หนึ่ง
ลู่หย่วนเจ๋อจึงถามขึ้นด้วยสีหน้าตึงเครียด
“หว่านอี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
แต่…
“เขาตีเจ้า? บาดเจ็บตรงไหนหรือ” ลู่หยวนเจ๋อขมวดคิ้วแน่น
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของลู่หว่านอี้หยุดลง นางทำได้เพียงกัดริมฝีปากล่างอย่างคับแค้นใจ นับตั้งแต่นางถูกพาตัวกลับบ้านไปวันนั้น
กู้หลิงไม่เฆี่ยนตีนางอีกแล้ว แต่ว่า...
นางไม่อาจเอ่ยออกมาได้
อาการบาดเจ็บนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ผู้อื่นเห็น
ทั้งหมดเป็นเพราะประโยคนั้นของสวี่ซื่อ ที่กล่าวว่าใบหน้าของนางเท่ากับใบหน้าของจวนโหว ขอให้ท่านบัณฑิตจอหงวนโปรดระวังการกระทำด้วย
ทั้งหมดเป็นความผิดของสวี่ซื่อ
“พี่ใหญ่ ต้องโทษสวี่ซื่อ ทั้งหมดเป็นความผิดของนาง! นางนั่นแหละที่ยุงยงให้กู้หลิงเฆี่ยนตีข้า!” ลู่หว่านอี้แผดเสียงตะโกนพร้อมปล่อยโฮออกมา
สวี่ซื่อได้แต่ยืนอยู่ริมฝั่งหนึ่งด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“หว่านอี้ คำพูดของเจ้าไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เหตุใดจึงสาดโคลนใส่ข้าเช่นนี้”
“ข้าน่ะรักเจ้าดั่งแก้วตาดวงใจ ไม่ต่างจากลูกๆ ของข้าเอง คุณชายกู้มีความรู้ความสามารถ แต่ครอบครัวลำบากยากจน ข้ากลัวว่าเจ้าจะต้องลำบาก ตอนที่เจ้าตกหลุมรักคุณชายกู้ ข้ายังเคยเตือนและห้ามเจ้าไว้อยู่เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...