หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 162

ดูเหมือนว่าพี่รองลู่จะตกตะลึงโดยสมบูรณ์แล้ว

เวินหนิงหน้าแดงด้วยความเขินอาย เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่เคยวิ่งตามลู่เจิ้งเย่ว์มาโดยตลอด บัดนี้นางเติบโตกลายเป็นสาวเต็มตัวแล้ว

ลู่เจิ้งเย่ว์นึกถึงเสียงตอนจบในใจของเจาเจา

และรู้สึกสงสารที่ตนเองไม่อาจทำอะไรได้เลย

ดวงตาของเขาแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นระริก

เขาอยากดึงเวินหนิงเข้ามากอด แต่เกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัว เขาจึงพยายามควบคุมตัวเองให้ดีที่สุด

“ข้าก็คิดถึงเจ้า อาหนิง ข้าคิดถึงเจ้ามาก” ยิ่งลู่เจิ้งเย่ว์คิดในใจว่าเขาไม่เคยบอกคิดถึงกับอาหนิงเลยสักครั้ง

อาหนิงเม้มริมฝีปากเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มในดวงตา

ลู่เจาเจาที่แอบอยู่ตรงหัวมุมถนนพร้อมกับโผล่หัวเล็กๆ ออกมา รู้สึกโล่งใจทันทีที่เห็นพี่รองและพี่สะใภ้คุยกันอย่างมีความสุข

เวินหนิงมองไปเห็นนาง ก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานให้กับลู่เจาเจา

[อ๊า พี่สะใภ้รองยิ้มแบบนี้ ฆ่ากันเลยดีกว่า ช่างอ่อนโยน อ่อนโยนเหลือเกิน...] ลู่เจาเจาคิดในใจ

ลู่เจิ้งเย่ว์จึงรีบเดินไปโอบเจ้าตัวน้อยและแนะนำว่า “นี่คือน้องสาวของข้าเอง ลู่เจาเจา”

“เจาเจา เรียกพี่สะใภ้รอง ไม่สิ…” ลู่เจิ้งเย่ว์หน้าแดงระเรื่อ เขาดันพูดติดปากตามลู่เจาเจาไปเสียอย่างนั้น

“เอ่อ เรียกพี่อาหนิงสิ”

เวินหนิงก็หน้าแดงระเรื่อไม่แพ้กัน “น้องเจาเจา” นางเอ่ยขึ้นพร้อมถอดสร้อยข้อมือสีเขียวออกจากข้อมือแล้วยื่นให้เจาเจา

“พี่อาหนิงไม่ได้นำของขวัญที่เหมาะสมมาให้เจาเจา คราวหน้าพี่จะชดเชยให้นะ” เวินหนิงไม่ละสายตาไปจากเจาเจาเลยแม้แต่น้อย เด็กคนนี้ช่างน่ารักจริงๆ

ลู่เจาเจารับสร้อยข้อมือมาพลางตะโกนเสียงหวาน “พี่สะใภ้รอง…”

ทั้งสองคนหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย

“คุณหนู ถึงเวลากลับแล้วเจ้าค่ะ นายท่านกำลังรออยู่” สาวรับใช้ดึงแขนเสื้อของเวินหนิงอย่างร้อนใจ และสงสัยว่าเด็กชายที่เคยปกติดี โตมาเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร

ไม่ได้การแล้ว เห็นทีจะต้องโน้มน้าวเรื่องการแต่งงานนี้กับคุณหนูอีกครั้ง!

ลู่หยวนเซียวกลับมามีสติอีกครั้ง เอ่อ ไม่รู้จักก็ไม่เป็นไรหรอก

นี่คงเป็นวันที่โดดเด่นสะดุดตามากที่สุดในชีวิตของเขาแล้วกระมัง

บัดนี้โจรทั้งหมดคงจะถูกดึงดูดมาที่ถนนสายนี้กันหมด

ใครๆ ต่างก็อยากมาดูกลุ่มจอมซนเหล่านี้

ในฝูงชนนั้น มีหลายคนมองสร้อยคอทองคำที่เขาสวมอยู่ด้วยดวงตาเป็นประกาย

พวกเขาสบสายตากันก่อนจะเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น แต่เมื่อเห็นชายคนหนึ่งใบหน้าไร้หนวดเครากำลังยิ้มและพูดอะไรบางอย่าง

วัยรุ่นทั้งสองตกใจเล็กน้อย ดังนั้นจึงเดินตามชายคนนั้นออกไปโดยมีเด็กหญิงตัวเล็กอยู่ในอ้อมแขน

คำพูดของหวังกงกงมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก วันนี้ฮ่องเต้ทรงเสวยเป็ดแปดสมบัติ และทรงนึกถึงลู่เจาเจาผู้ชื่นชอบขนมหวาน จึงตั้งใจส่งเขามาเชิญนางไปด้วยตนเองโดยไม่รบกวนผู้ใด

เพราะเขาเป็นถึงหัวหน้าขันทีคนสนิทของฝ่าบาท ขุนนางและข้าราชบริพารต่างก็สุภาพเมื่อเห็นเขา

หากพูดกันตามตรงก็คือแม้ท่านโหวเองยังต้องก้มศีรษะนั่นเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์