หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 421

ลู่เจาเจาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านแม่ ข้าขอร่ำลากับเพื่อนๆ…”

สวี่ซื่อพยักหน้าตกลง

ลู่เจาเจายื่นห่อผ้าเล็กๆให้กับเตาปา

“นี่คือเงินที่ข้าขอทานมาได้ เจ้าเอาไปดูแลน้องชาย”

“ข้าจะออกมาเยี่ยมพวกเจ้านะ…”

เตาปารับห่อผ้ามา แล้วพูดเสียงดังว่า “พี่เปียว พี่วางใจ ข้าเตาปาจะต้องดูแลเหล่าพี่น้องให้ดี จะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง! พี่จะเป็นพี่เปียวของพวกเราเสมอนิจนิรันดร์!”

ลู่เจาเจาปีนขึ้นรถม้าไปโดยหันกลับมามองเป็นระยะๆ

สวี่ซื่อ “เจ้ามันฝรั่งน้อย ทำไมพวกเขาถึงได้เรียกเจ้าว่าพี่เปียว”

ลู่เจาเจานั่งขัดสมาธิบนรถม้า ด้วยท่าทางเด็กดีเรียบร้อย “ข้าไม่รู้ท่านแม่ ข้าคือมันฝรั่ง”

แค่สามวัน ในยุทธภพก็มีตำนานเล่าขานของพี่เปียวแพร่กระจายไปทั่ว

เมื่อตอนที่ผ่านย่านคนยากจน ก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งร้องไห้คร่ำครวญ “เมียจ๋า จะไม่ตกปลาแล้ว ข้าจะไม่ตกปลาอีกแล้วชั่วชีวิต”

“สุสานร้างมีผี”

“นางถือโซ่ไว้ในมือ หาตัวตายตัวแทนมาแทนที่วิญญาณของนาง!”

ลู่เจาเจานอนหมอบอยู่ที่ข้างหน้าต่างรถม้า รู้สึกว่า…

คนๆนี้ดูคุ้นๆ

หลังจากลู่เจาเจากลับถึงบ้าน อวี้ซูก็ได้ร้องไห้ฟูมฟาย

“คุณหนู คุณหนูผอมไปมาก! ทำไมคุณหนูไม่พาอวี้ซูไปด้วย” อวี้ซูกอดลู่เจาเจา ร้องไห้จนเบ้าตาแดงก่ำ

สวี่ซื่อ เอิ่ม คำพูดของเจ้าช่างขัดแย้งจริงๆ

“เจาเจา เจ้ากลับมาจากการท่องยุทธภพแล้วเหรอ” ตอนกลางคืน ลู่เจิ้งเย่ว์กลับจวนมา ได้พูดด้วยรอยยิ้ม

“รายรับเป็นไงบ้างล่ะ”

ใบหน้าเล็กๆของลู่เจาเจาฉายแววลังเลเล็กน้อย “พี่รอง ทำเงินได้มากกว่าที่พี่ไปท่องยุทธภพเยอะเลย…”

[เห้อ พี่รองท่องยุทธภพครึ่งปี ยังไม่เท่าข้าขอทานสามวัน…]

“เป็นอัมพาต”

พอพูดคำนี้ออกมา ตระกูลลู่ทั้งจวนก็โกลาหล

[หรือท่านย่าโมโหจนตาย] ลู่เจาเจาลุกขึ้นนั่งพรวดพราด

[นางตายแล้ว จะเชิญข้าไปกินข้าวต้มงานศพไหม]

[เป็นลูกกตัญญูข้าไม่ไป กินข้าวต้มงานศพยังพอไหว ได้ยินมาว่างานศพคนรวยๆนั้น อาหารการกินดีนักแล] ลู่เจาเจาลูบหน้าท้อง นางชอบกินจนอิ่ม แล้วปวดท้องตอนกลางคืน ทุกวันนี้สวี่ซื่อจึงคอยควบคุมอาหารของนางอยู่

สวี่ซื่อแทบจะกลั้นขำไม่ไหว

“ตกลงเกิดเรื่องอะไรกันแน่ เล่ารายละเอียดมา” เติงจือได้ยิน นี่เป็นเรื่องใหญ่ จึงรีบถาม

คนรับใช้ปาดเหงื่อและพูดว่า “ช่วงนี้ตระกูลลู่ไม่ค่อยดีนัก”

“ฮูหยินเผยจึงอาสาไปที่ศาลเจ้าเล็กๆ เพื่อคัดลอกพระคัมภีร์ เป็นการขอพรให้กับตระกูลลู่”

“คัดลอกพระคัมภีร์ติดต่อกันเป็นเวลาครึ่งเดือน…แม้กระทั่งตอนกลางคืนก็ยังนอนที่ศาลเจ้าเล็กๆ”

“เมื่อคืนนี้ นายหญิงใหญ่นึกอยากไปไหว้พระที่ศาลเจ้าแบบกระทันหัน โดยไม่ได้บอกใคร ไปคนเดียวตามลำพัง”