หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 432

เขาเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่ายๆ เดิมทีคิดว่าชั่วชีวิตนี้คงจะไม่มีคู่ครอง ตัวเองต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่

ทว่ากลับไม่คิด…

ว่าลู่หย่วนเจ๋อหย่าแล้ว

อาฮ่าฮ่าฮ่า

โชคดีที่พระโพธิสัตว์คุ้มครอง ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่

มิเสียเปล่าที่เขากราบไหว้พระทุกองค์ อ้อนวอนขอให้พระโพธิสัตว์คุ้มครองให้สวี่สืออวิ๋นหย่า

ใช่แล้ว เขาหน้าด้านขนาดนี้ ต่ำช้าและไร้ยางอายขนาดนี้ เขาถึงได้ไม่บอกสวี่ซื่อ

ลู่หย่วนเจ๋องุนงงไม่เข้าใจ แล้วก็เห็นแม่ทัพหรงจับมือเขาอย่างจริงใจ “ข้าหลงใหลอวิ๋นเหนียงมาสิบแปดปี ตอนนั้นพลาดโอกาสไป เสียใจสุดซึ้ง โชคดีที่ใต้เท้าลู่ปล่อยมือ ข้าแซ่หรงจึงได้สมหวัง”

“ท่านคือผู้มีพระคุณใหญ่หลวงของตระกูลหรง ตระกูลหรงจะจดจำบุญคุณของท่านตลอดไป”

ไฟลุกโชนในใจของลู่หย่วนเจ๋อ ทว่าเขาข่มมันไว้แน่น จนหายใจไม่ออก รู้สึกหนักอึ้งในอก

เขาจ้องสวี่ซื่อด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

“เจ้า…เจ้ากับเขา…”

สวี่ซื่อชำเลืองมองหรงเช่อ ยังไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่างเลยนะ นางยังไม่ได้เตรียมพร้อมยอมรับหรงเช่อ แต่ก็รู้ว่าเขาจงใจกระตุ้นทำให้ลู่หย่วนเจ๋อโกรธ ดังนั้นจึงมิได้โต้แย้ง

“ข้ากับแม่ทัพหรงจะเป็นยังไง ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน” สวี่ซื่อเดินไปที่บันได

หรงเช่อพูดด้วยความขอบคุณ “ท่านเป็นคนดีนะ คนดีคลาดแคล้วปลอดภัย คนดีลูกหลานเต็มบ้าน ขอบคุณใต้เท้าลู่ที่ทำให้สมหวัง ข้าจะจดจำบุญคุณของท่านตลอดไป”

พูดจบ ก็ไม่สนใจว่าลู่หย่วนเจ๋อจะเป็นอย่างไร วิ่งไล่ตามสวี่ซื่อไป

เมื่อรถม้าเลี้ยวไปที่มุมถนน หรงเช่อก็หันมามองสวี่ซื่อราวกับหมาปั๊ก “อวิ๋นเหนียง ข้าแสดงดีไหม”

สวี่ซื่อยิ้มอย่างขำขันและพูดว่า “ท่านน่ะ กลัวจะทำให้เขาโกรธจนตาย”

“ทำไมถึงเรียกว่าทำให้โกรธล่ะ ข้าพูดแต่ความจริงนะ” เขากอบกู้วิกฤตที่อาจจะทำให้จวนเจิ้นกั๋วกงตกอยู่ในอันตราย

หรงเช่อสีหน้ามืดมน ยกมือขึ้นลูบหัวใจ ราวกับนี่คือวิธีเดียวที่จะปลอบโยนตัวเองที่หวาดกลัว

“เจ้ารู้ไหม? ข้าไม่ใช่คนดีเลิศอย่างที่เจ้าคิด”

“ข้าต่ำช้าไร้ยางอาย เห็นแก่ตัว ข้าไม่เคยทำได้ถึงขนาดที่จะยอมให้ผู้หญิงที่ชอบตกไปเป็นของผู้อื่น แต่ข้าก็กลัวที่จะทำลายความสุขของนาง”

“ข้าทำได้เพียงอ้อนวอนต่อเทพเจ้าอย่างน่ารังเกียจ ภาวนาให้สวรรค์ประทานโอกาสให้ข้าสักครั้ง”

“ข้าเดินไปทั่วทุกแห่ง ไหว้สักการะเทพเจ้ามากมายนับไม่ถ้วน”

“ประมานหนึ่งปีก่อน…” หรงเช่อสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย

“ข้าเก็บหินแกะสลักชิ้นเล็กๆได้โดยบังเอิญ”

“หินแกะสลักเล็กๆนั้นมีขนาดเท่าฝ่ามือ เก่าแก่และชำรุดจนมองไม่เห็นว่าเป็นรูปเคารพของเทพเจ้าองค์ใด แค่พอจะสังเกตเห็นว่าเป็นหินแกะสลักที่มีอายุนาวนาน และหินแกะสลักนั้นชำรุดเสียหายมากมาย

“ตอนนั้น ข้าเชื่อในเทพเจ้าอยู่แล้ว จึงรินเหล้าให้ท่าน และวางอาหารไว้เพื่อถวาย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์