“ฮูหยินท่านนี้คงไม่ได้โกรธหรอกใช่ไหม”
กล่าวจบสวี่ซื่อก็รีบไปหลบที่ด้านข้าง
เมื่อได้ฟังทุกคนที่อยู่รอบเผยเจียวเจียวก็หายไปหมด
ทุกคนมีสีหน้าลำบากใจ
“เจ้า!” เผยเจียวเจียวหายใจติดขัด นางมองทุกคนอย่างเหม่อลอย ดวงตาของนางเป็นสีแดงขึ้นในทันที แต่คำพูดประโยคนี้ของสวี่ซื่อนั้นเป็นเหตุเป็นผล นางไม่สามารถต่อต้านได้อีกแล้ว
แม้แต่เจ้าของร้านยังมองนางอย่างมีนัยยะ
“ฮูหยินท่านนี้ ขออภัยด้วย แต่ขอให้ท่านมาอีกในครั้งหน้า ต้องขออภัยด้วย...วันนี้ที่ร้านไม่ค่อยสะดวกนัก” เจ้าของร้านรู้สึกเย็นสันหลังวาบ
ใกล้จะถึงกลางเดือนเจ็ดแล้ว ประตูผีจะเปิด ร้านทุกร้านในเมืองล้วนปิดเป็นเวลาสามวัน
เขาไม่กล้ายุ่งกับสิ่งชั่วร้ายอะไรหรอก
แค่พลิกลูกประคำพระอัฐิผีก็รู้แล้วว่านางกำลังทำอะไร
ดวงตาของเผยเจียวเจียงแดงเรื่อพร้อมกับขบกรามแน่น นางจ้องเขม็งไปที่สวี่ซื่อ
“ฮูหยินกลับกันก่อนเถิดเจ้าค่ะ” หญิงรับใช้ที่อยู่ด้านหลังดึงแขนเสื้อของเผยเจียวเจียว ถึงแม้ว่าท่านโหวจะให้ความรักกับนางอย่างเพียงพอ แต่เขาไม่มีทางยอมให้นางก่อเรื่องเป็นแน่
เขารักหน้าตาของเขายิ่งกว่าอะไร
มิเช่นนั้นคงไม่เลี้ยงนางมาสิบเจ็ดปีโดยที่ไม่ยอมรับกลับมาที่จวน
เผยเจียวเจียวหมุนตัวเตรียมจะเดินจากไป แต่สวี่ซื่อกลับยกมือขึ้นอย่างช้าๆ
“ฮูหยินท่านนี้โปรดรอก่อน” สวี่ซื่อมองไปที่นางอย่างมีนัยยะ
“เจ้ายังคิดจะทำอะไรอีกหรือ” น้ำเสียงของเผยเจียวเจียวเจือไปด้วยความไม่พอใจ นางมองไปที่สวี่ซื่ออย่างขุ่นเคือง
สวี่ซื่อส่ายหน้า “เอ่ยเช่นนี้เป็นการกล่าวเกินไปหน่อย แต่เรื่องนี้เกี่ยวของกับชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของฮูหยิน จึงจำเป็นต้องรั้งท่านเอาไว้”
“ปิ่นปักผมที่อยู่บนผมของท่านได้มาจากที่ไหนหรือ” นางชี้ไปยังปิ่นแกะสลักบนผมของเผยเจียวเจียว
นางแทบจะสะกดกลั้นน้ำเสียงให้อ่อนโยนต่อไปไม่อยู่
“ปิ่นเล่มนี้เป็นของที่สามีข้ามอบให้ เจ้ามีหลักฐานอะไรมายืนยันว่ามันเป็นของเจ้า เจ้าจะมากล่าวลอยๆ เช่นนี้ได้อย่างไร” เผยเจียวเจียวพูดพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมาจนทำให้คนไม่น้อยรู้สึกสงสาร
นางมีรูปร่างอ้อนแอ้น เพียงแค่นางมีน้ำตาก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวั่นไหว
ความงามของสวี่ซื่อเป็นความงามที่หาได้ทั่วไป
เติงจือไม่กล้าจากไปไหน นางจึงส่งคนให้แอบไปแจ้งความ
“หลักฐานล่ะ? ปิ่นเล่มนี้เป็นปิ่นที่ข้าออกแบบเมื่ออายุสิบห้าปี และได้สั่งให้คนทำด้วยตัวเอง บนโลกใบนี้ไม่มีทางมีปิ่นเล่มนี้เป็นชิ้นที่สองแน่!”
“กระดาษที่ออกแบบยังอยู่ในจวนของข้า เจ้าอยากดูหลักฐานไหมล่ะ”
“หรือว่าเจ้าจะไม่เคยมองมันอย่างละเอียดมาก่อนกัน” ความแค้นผุดขึ้นมาในใจของนาง ในตอนอายุสิบห้าเป็นครั้งแรกที่นางตกหลุมรัก เหมือนกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ แผดเผาความจริงใจของนาง
“นี่คือของแทนใจของข้ากับท่านโหว ด้านในของปิ่นทองได้สลักนามของข้ากับท่านโหวเอาไว้ ให้รักกันมั่น” ช่างน่าขันเสียจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...