ที่จวนจงหย่งโหวกำลังรับประทานอาหารกันอยู่
“เกิดอะไรขึ้น? ดึกดื่นขนาดนี้ทำไมถึงได้มีเสียงกรีดร้องน่าสงสารเช่นนั้น...อิ้งเสวี่ยเจ้าออกไปดูหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น?” สวี่ซื่อถูกทำให้ตกใจจนสะดุ้งโหยง
นายหญิงใหญ่มองไปที่นางอย่างไม่พอใจ “เป็นถึงนายหญิงของจวนโหว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ยังจะไปสนใจ ตระกูลสวี่อบรมสั่งสอนเจ้ามาเช่นนี้หรือ?”
เพิ่งจะพูดจบ อิ้งเสวี่ยก็วิ่งเข้ามารายงานด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ตีกันแล้ว ๆ เจ้าค่ะ! ฮูหยิน ข้างนอกตีกันแล้ว!” ดวงตาของอิ้งเสวี่ยลุกเป็นไฟ
“ฮูหยิน ทางเหนือของเมืองกำลังตามจับชู้สาวอยู่เจ้าค่ะ ได้ยินมาว่ามีขุนนางเลี้ยงอนุเอาไว้ข้างนอก ภรรยาหลวงจึงไปตามจับชู้สาวที่อยู่ข้างนอกนั้น และกำลังตบตีกันอย่างดุเดือดเลยเจ้าค่ะ”
“บ่าวยังได้ยินมาอีกว่า อนุคนนั้นมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนและก็ลูกสาวอีกหนึ่งคน ลูกชายคนนั้นก็คือเด็กหนุ่มที่มีชื่อเสียงโดงดังที่มีนามว่าลู่จิ่งไหวผู้นั้นเจ้าค่ะ และตอนนี้ลู่จิ่งไหวถูกตบจนหน้าแหกไปแล้ว มีเด็กอายุเจ็ดแปดเดือนได้แล้วกระมัง เด็กคนนั้นชิชะ...”
เพล้ง
นายหญิงใหญ่กับจงหย่งโหวมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก แก้วกระเบื้องที่อยู่ในมือร่วงตกลงพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ
“เจ้าบอกว่าใครถูกตบนะ?” ลู่หย่วนเจ๋อใจเต้นรัว
ใบหน้าพยายามฝืนระงับความโกรธเอาไว้ และยังต้องฝืนทำเป็นใจเย็น แต่ในเวลานี้น้ำเสียงกลับสั่นไปหมด
“ผู้หญิงคนหนึ่งในตรอกทางเหนือของเมือง ไม่ถูกสิ เป็นนางจิ้งจอกเจ้าค่ะ”
“ได้ยินมาว่าผู้ช่วยเจ้ากรมพิธีการเลี้ยงอนุเอาไว้ข้างนอก มีลูกชายคนหนึ่งและลูกสาวคนหนึ่งด้วยกัน ลูกสาวเพิ่งอายุได้แปดเดือน กำลังด่าสาปแช่งแรง ๆ ออกมาและชี้ไปที่ฉินฮูหยินที่เป็นภรรยาหลวง ด่าว่าเป็นนางแพศยา”
“ไอหยา โกรธจนฉินฮูหยินตบหน้านางไปหนึ่งฉาก”
ร่างกายของนายหญิงใหญ่เซไปเล็กน้อย
“ไปดู ๆ ...” น้ำเสียงนายหญิงสั่นเทา หลานชายและหลานสาวสุดที่รักของนาง
[ฮือ ๆ ๆ ถ้าพวกเจ้าไม่พาข้าไปด้วย ข้าก็จะคลานออกไป...] มือและเท้าของนางกำลังปีนไปที่ประตูพร้อม ๆ กัน คลานไปอย่างรวดเร็ว
สุนัขในเรือนยังถูกนางทำให้ตกใจจนหางหดไปหมด
“รีบอุ้มเจาเจาขึ้นมาเร็วเข้า พื้นมันเย็น พานางออกไปดูอยู่ห่าง ๆ เถอะ เจ้าเด็กน้อยคนนี้นิ...” สวี่ซื่อจนใจทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงต้องพานางไปด้วย
จวนจงหย่งโหวรีบออกไปกันอย่างรวดเร็ว พากันมุ่งหน้าไปทางเหนือของเมือง
เมื่อสวี่ซื่อมองลู่หย่วนเจ๋อมีท่าทางเหมือนคุ้นทางดีมากก็ยิ้มเยาะเย้ยอยู่ในใจ
เมื่อมาถึงด้านนอกตรอก ก็มีคนมายืนมุงอยู่เต็มไปหมดและทุกคนที่มามุ่งดูก็มีสีหน้าที่มีความหมายลึกซึ้ง
ในขณะนี้ ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้ว
“ฉีกเสื้อของนางออก ฉีกเสื้อของนางออก! นางแพศยาไร้ยางอาย ฉีกเสื้อของนาง...” ถึงกระทั่งที่มีผู้ชายผิวปากขึ้นมา และมีเสียงโห่ร้องดังอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...