“ข้ายังไม่เคยกินดีเช่นนี้ด้วยซ้ำ...” ใต้เท้าหมิงเหลือบมองกะละมังใบใหญ่ของจุยเฟิงด้วยความเศร้าสร้อย
จุยเฟิงพลันใช้เท้าผลักชามอาหารไปที่มุม ก่อนจะก้มหน้ากินต่ออย่างเอร็ดอร่อย
โดยกลัวสายตาคนทั้งห้าจะมาแย่งอาหารของสุนัขกินเสียก่อน
ชีวิตของมันช่างน่าเศร้าเหลือเกิน
ตอนที่ลู่เจาเจาเคยแย่งอาหารของมัน นางเกือบทำให้มันกลายเป็นสุนัขไร้ขนไปเสียแล้ว
บัดนี้มาอยู่แคว้นใต้แล้วก็ยังหนีไม่พ้นถูกแย่งอยู่ดี!
ใต้เท้าหมิงสัมผัสได้ถึงความคิดของจุยเฟิง จึงพูดต่อด้วยความเขินอาย “ดูสุนัขตัวนี้สิ มันกำลังดูถูกมนุษย์อยู่เชียว คิดว่าคนอย่างข้าจะไปแย่งกระดูกงั้นหรือ”
เขาพูดพร้อมกับสะอึกสองสามครั้ง
คุณชายน้อยหมิงที่ยืนอยู่ข้างหลังได้แต่เอามือปิดหน้า เขาคือน้องชายของหมิงหลาง
ผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหน้าแดงด้วยความร้อนใจและเขินอาย ใครจะคิดว่าสุนัขของลู่เจาเจาได้กินของดีถึงเพียงนี้
ผู้ใดกันที่เล่าลือว่าเป่ยเจาทั้งยากจนและบ้านนอก
ในสายตาของชาวแคว้นใต้ เป่ยเจาเป็นดั่งสัญลักษณ์ของความยากจนข้นแค้นมาตลอด
“วันนี้กระหม่อมถือวิสาสะมาเข้าเฝ้าองค์หญิงเจาหยางเช่นนี้ หวังว่าองค์หญิงจะให้อภัย” ขุนนางเก่าแก่หลายคนโค้งคำนับอย่างสุภาพ
ลู่เจาเจาโบกมืออ้วนๆ ของนางอย่างไม่ใส่ใจนัก
“ตรงไหนไม่สบายใจหรือ” ลู่เจาเจาเห็นท่าทางลำบากใจของใต้เท้าหมิง จึงเดาได้ว่าเขามาที่นี่เพราะเรื่องเทพเจ้าอย่างแน่นอน
ใต้เท้าเย่ว์พลันเอ่ยขึ้นก่อน “ขอบพระทัยของขวัญพบหน้าขององค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ ศิลาวิญญาณชั้นเลิศช่วยต้นหญ้าเซียนของตระกูลได้เป็นอย่างดี”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลายคนแทบอยากตีอกชกหัวตนเอง
แค่ของขวัญพบหน้า! ใครจะคิดว่ามีศิลาวิญญาณชั้นเลิศอยู่ข้างใน
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่ของล้ำค่าอะไรหรอก” ท่าทางไม่เดือดร้อนของลู่เจาเจาดูทำให้หลายคนมองแล้วรู้สึกอิจฉาตาร้อน
ราชวงศ์รู้หรือไม่ว่าท่านหยิ่งยโสถึงเพียงนี้
“ตระกูลเสิ่นเชื่อในฉงเย่ว์เทพเจ้าแห่งกาลเวลา ทว่าท่านเทพฉงเย่ว์ไม่ตอบรับการอัญเชิญมาหลายปีแล้ว เพลานี้กระหม่อมไม่อาจสัมผัสได้ถึงเทพเจ้าแล้ว... วันนี้กระหม่อมขอบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากองค์หญิง โปรดช่วยตระกูลเสิ่นของพวกเราด้วยเถิด” ดวงตาใต้เท้าเสิ่นเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ขณะคุกเข่าลงตรงหน้าลู่เจาเจา
ใต้เท้าเย่ว์ที่อยู่ข้างหลังลอบถอนหายใจและคุกเข่าลงเช่นกัน
“ตระกูลเย่ว์เชื่อในกานถังเทพเจ้าสี่ฤดู ทุกๆ ปีตระกูลเย่ว์จะนำคนไปสักการะท่านเทพกานถังเทพเจ้าสี่ฤดู”
“แต่บัดนี้เทพเจ้ากานถังทอดทิ้งพวกเราไปแล้ว”
“องค์หญิงได้โปรดช่วยตระกูลเย่ว์ของพวกเราด้วยขอให้ท่านเทพคุ้มครองชาวบ้าน พืชสวนไร่นาอุดมสมบูรณ์และเก็บเกี่ยวพืชผลได้ดี”
ลู่เจาเจานั่งบนเก้าอี้ ขาอ้วนๆ แกว่งไกวไปมาเบาๆ
โดยมีความกังวลบนใบหน้าเล็กน้อย
ฉงเย่ว์?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...