นางฝืนทนกล้ำกลืนทีละน้อย ใช้ชีวิตทนมาสามเดือน ใครจะไปรู้ว่ากู้หลิงยิ่งจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ ...
ครั้งนี้มัดนางเอาไว้จากนั้นก็ทุบตีนางจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล
ไม่ง่ายเลยที่จะหนีออกมาได้
“พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ข้าผิดไปแล้ว ล้วนเป็นหว่านอี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี หว่านอี้ทำลายความเมตตาของท่าน หว่านอี้รู้ผิดแล้ว” เหมือนหว่านอี้คุกเข่าอยู่ตรงเท้านาง ไหนเลยจะมีท่าทีเหมือนดังวันก่อน ที่ทิ้งข้อความอย่างเย่อหยิ่งถึงสวี่ซื่อ
“กู้หลิงคนนั้นเป็นคนบ้า ต่อหน้าเป็นสุภาพบุรุษ แต่ลับหลังเป็นคนบ้า เมื่อไปข้างนอกและได้รับความโกรธ ได้รับความอยุติธรรมมา กลับมาก็ทุบตีผู้หญิง เจ้าสาวที่ถูกเลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่เด็กของเขาก็ถูกเขาทุบตีจนตาย ท่านแม่ เขาต้องตีข้าถึงตายแน่!” ลู่หว่านอี้นึกถึงท่าทางที่ดุร้ายของเขาก็ขนลุกไปทั้งตัว
ครั้งนี้นางหนีออกมาแล้ว นางไม่อาจกลับไปตระกูลกู้ได้อีกแล้ว!
พอเป็นเช่นนี้นายหญิงใหญ่ถึงนึกถึงสวี่ซื่อขึ้นมา “อวิ๋นเหนียง ให้พวกเขาหย่ากันเถอะ ให้พวกเขาหย่ากัน! นี่เป็นการทรมานหว่านอี้ถึงตายเลยนะ!” นายหญิงใหญ่เจ็บปวดใจจนทนไม่ไหว
“ผู้ชายที่ทุบตีผู้หญิงต้องทิ้งไป ต้องหย่าเดี๋ยวนี้!”
[สองมาตรฐานชัด ๆ ทีพ่อเลวตีท่านแม่ของข้า ยังให้ท่านแม่ข้าคิดสำนึกผิด...ตอนนี้พอลูกสาวโดนทุบตีบ้าง ก็มาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และยังเรียกร้องที่จะหย่า...]
[สมควรแล้ว ๆ ๆ ตีให้ตายไปเลย!]
สวี่ซื่อถอนหายใจออกมา และก็ทำสีหน้ากังวลใจ “ท่านแม่ เรื่องนี้ไม่ควรพูดเช่นนี้นะเจ้าคะ”
“สองสามีภรรยาทะเลาะกัน ไหนเลยจะเอามาเป็นเรื่องจริงจังได้ สามีภรรยาทะเลาะขัดแย้งกันเดี๋ยวก็ดีกัน คำพูดที่โกรธกันชั่วขณะไม่ควรเก็บมาจริงจังนะเจ้าคะ”
“อีกอย่างลูกเขยก็เป็นลูกผู้ชาย ลูกผู้ชายได้รับความอารมณ์กดดันจากขุนนางในราชสำนักมา เราเป็นผู้หญิงก็ควรจะช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง อีกอย่าง...” สวี่ซื่อเงยหน้าขึ้นมาพลางมองไปที่ลู่หว่านอี้ที่ตอนนี้กลายเป็นหินไปแล้ว
“เจ้าใจร้ายมาก เหตุใดถึงพูดเช่นนี้ออกมาได้?”
“เจ้าดูบาดแผลบนร่างของหว่านอี้สิ ทำไมเจ้าถึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้?! เจ้าอยากทรมานนางให้ตายใช่หรือไม่? มีใครเป็นสะใภ้เช่นเจ้ากัน?” นายหญิงใหญ่โกรธจนดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ แล้วรู้สึกว่าสวี่ซื่อมีเจตนาร้าย
แต่สวี่ซื่อกลับพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ท่านแม่ นี่ไม่ใช่หว่านอี้เป็นคนพูดเองหรอกหรือ?”
“ผู้ชายตบผู้หญิง จะตบอย่างไม่มีเหตุไม่มีผลได้อย่างไรกัน? จะต้องเป็นเพราะว่าผู้หญิงทำอะไรผิดไป จึงสมควรถูกตบ ท่านแม่ นี่เป็นคำพูดที่หว่านอี้บอกกับข้าเอง หรือจะบอกว่าที่ข้าถูกตบเพราะสมควรโดน แต่พอมาเป็นหว่านอี้ก็ไม่สมควรแล้วงั้นหรือ” สวี่ซื่อทำสีหน้าขืนข่มใจออกมา
“เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด พอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ จะอย่างไรก็ไม่เหมือนกัน”
“ตอนที่ข้าแต่งเข้ามา ท่านแม่บอกเองว่าจะเลี้ยงดูข้าเหมือนลูกสาวแท้ ๆ ที่แท้ก็โกหกข้า” สวี่ซื่อเช็ดน้ำตา และท่าทางเหมือนได้รับความเจ็บปวด ก่อนจะปิดหน้าแล้วรีบวิ่งออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...