กำลังจะเชิญราชครู ทันใดนั้นก็เห็นภายในวิหารหลัก ปุโรหิตทุกคนต่างตกใจกลัวคุกเข่าลงกับพื้น โขกหัวอย่างบ้าคลั่งจนหัวแตกเลือดไหล
“เกิดเรื่องแล้ว! รีบไปทูลฝ่าบาท เชิญท่านราชครู! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” ไม่เคยเห็นมหาปุโรหิตตื่นตระหนกเช่นนี้มาก่อนเลย
“ภายในศาลเจ้า รูปปั้นเทพเจ้าทั้งหมดแตกละเอียดหมดแล้ว”
“ดอกไม้บูชาเบื้องหน้าเทพเจ้าเหี่ยวเฉาหมดแล้ว...ปลาจิ่นหลี่ในสระหน้าวิหารก็ลอยตายเกลื่อน แล้วยัง... ภาพวาดของเทพเจ้าได้สูญเสียพลังเทพไปแล้ว มืดมัวลงไปหมด” ปุโรหิตน้อยพูดไปก็ร้องไห้ไป เขา... เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด…
ดอกไม้ที่ถวายเบื้องหน้าเทพเจ้า มีความศักดิ์สิทธิ์
ความศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่เทพเจ้าประทานให้
บัดนี้ ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์โรยราแล้ว
เขาตัวสั่นเทา ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ที่เกี่ยวกับเทพเจ้ากำลังถูกทำลายลงทีละน้อย
เมื่อราชครูและขุนนางทั้งหลายมาถึงวิหาร ก็พบว่าแม้แต่ภาพแกะสลักบนผนังก็ซีดจางลงแล้ว
ทุกสิ่งรอบตัวเหี่ยวเฉา ไร้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าล้วนสูญเสียความงดงามที่เคยมีไปจนหมดสิ้น
ราชครูหน้าซีดเผือด มือที่ถือกระจกศิลาก็แทบจะจับไม่มั่น เป็นไปได้อย่างไร ที่ภายในตำหนักไม่มีกลิ่นอายของเทพเจ้าเลย
ราวกับว่าเทพเจ้า ได้ทอดทิ้งพวกเขาไปแล้ว
“ท่านราชครู นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไม... ทำไมถึงได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเช่นนี้? ที่นี่คือศาลเจ้า พวกมารร้ายกล้าบุกมาสร้างความวุ่นวายถึงที่นี่เชียวหรือ?” เหล่าขุนนางต่างคิดว่าเป็นฝีมือของเหล่ามารร้ายที่ทะลุผ่านเขตแดนเข้ามา ก่อความวุ่นวายในโลกมนุษย์
ราชครูไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของท่านเคร่งเครียดอย่างยิ่ง
ลู่เจาเจาพอจะเดาเรื่องนี้ได้บ้างแล้ว
พลังชั่วร้ายในโลกมนุษย์กำลังทวีความรุนแรงขึ้น ราวกับว่าพลังด้านมืดทั้งหมดจากสวรรค์และโลกกำลังมุ่งหน้ามาสู่โลกมนุษย์
แดนเทพ กำลังทอดทิ้งโลกมนุษย์
“เกิดเรื่องนอกวังแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” ขันทีวิ่งหน้าตั้งจนเหงื่อท่วมตัว เมื่อเห็นบรรยากาศในท้องพระโรงตึงเครียด ก็ได้แต่กัดฟันเดินเข้าไป
“ฝ่าบาท นอกวังเกิดความวุ่นวายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ในตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากกำลังรวมตัวกันอยู่บนถนน พวกเขากำลังทำลายรูปเคารพที่พวกเขานำมาจากบ้านของพวกเขาเอง ดูเหมือนว่าความสงบสุขของผู้คนกำลังจะพังทลายลง”
“สาเหตุเนื่องมาจากวันนี้มีหมอดูตาบอดคนหนึ่งได้เผยแพร่ข่าวลือในท้องถนนว่า...เทพเจ้าต้องการสังเวยชีวิตมนุษย์หลายหมื่นคน เพื่อแลกกับความสงบสุขในสามดินแดน”
“บังเอิญที่เหล่าเทพเจ้าได้ละทิ้งโลกมนุษย์ไปพอดี โลกมนุษย์ก็รับรู้ได้อย่างเลือนราง จึงเกิดความวุ่นวายขึ้น”
ลู่เจาเจาก้าวเท้าออกจากตำหนัก ไปยืนอยู่บนกำแพงเมือง
ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะวุ่นวายไปหมดแล้ว
โชคดีที่พวกเขาดูเหมือนจะมีความหวังริบหรี่หลงเหลืออยู่ หรือบางที อาจจะไม่กล้าเชื่อก็ได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...