สภาพจิตใจของมรุเดชได้ค่อย ๆ ดีขึ้น เขามองครรชิตสักพัก จากนั้นได้หันตัวเดินไปทางห้องICU
ในห้องได้เต็มไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อ มรุเดชก็ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเดินไปที่เตียงเบญญาทีละก้าวมองใบหน้าที่ขาวซีดจนแทบไม่มีชีวิตชีวา
ในห้องเงียบมาก ความเงียบได้แผ่กระจายออก ความรู้สึกที่ว่างเปล่านั้นได้ต่างจากที่บ้าน ไอกลิ่นของความตายทำให้คนที่อยู่นานไปรู้สึกหงุดหงิด มรุเดชนั่งลง เงยหน้าไปมองสายน้ำเกลือที่กำลังหยดลง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความกลัว
กลัวอะไรละ?
กลัวว่าเบญญาจะนอนอยู่แบบนี้ไปตลอด จะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก
จมูกของมรุเดชเริ่มตัน เพราะปวดใจเกินไป ขนาดน้ำตาก็ได้ไหลออกมา เขาได้กุมไปที่มืออันเล็กของเบญญาด้วยความสั่น
เสื้อคนไข้นั้นเป็นไซซ์ที่เล็กที่สุดแล้วแต่พอเบญญาสวมมันก็ใหญ่อยู่ดี ยกมือขึ้นเล็กน้อย แขนเสื้อก็ได้ถกลงไป เห็นลอยเข็มหลายรอยบนแขนที่ขาวนั้น วงที่ม่วงแดงกับยาสีเหลืองที่แห้งแล้วรอบรอยเข็ม
“เบญญาฉันไม่รู้ว่าเธอป่วย แล้วยังป่วยหนักขนาดนี้”
อยู่ๆ เขาก็นึกถึงวันที่เขาได้พาเบญญาไปขังไว้ที่ห้องนอนในคืนนั้น เบญญาได้เคาะประตูตะโกนออกมาว่าเธอใกล้จะตายแล้ว
ตอนนั้นเขาก็แค่ขำในลำคอ ไม่สนใจ คิดว่านี้เป็นแผนกลของเธอ
เขาไม่เคยเห็นเบญญาป่วยมาก่อน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่มีทางป่วยและก็ตาย
ตอนนั้นทำไมเขาไม่ตั้งใจฟังที่เธอพูดให้จบ แล้วปล่อยเธอออกมา?
“เบญญา... เบญญา...” น้ำตาก็ได้บดบังการมองเห็นของเขา เขาได้กุมมือของเบญญาแล้วยื่นหน้าเข้าไป เรียกชื่อของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า หมายที่จะปลุกเธอให้ฟื้น
...
เวลาก็ได้ผ่านไปทีละนิด ระหว่างนั้นครรชิตได้เข้ามาเช็คร่างกายเบญญา ชีพจรบนร่างกายของเธอนั้นค่อนข้างที่จะคงตัว ต้องดูแล้วว่าในสี่สิบบแปดชั่วโมงนี้จะสามารถฟื้นขึ้นมาไหม
อายุแค่นั้นก็ต้องแบกรับภาระที่มากมาย คนแทบที่จะไม่ทันสังเกตเลยว่าเธอก็แค่คนที่อายุไม่ถึงยี่สิบสี่
พยาบาลก็ได้เข้ามาเปลี่ยนยาให้เบญญาอีกครั้ง มรุเดชมองท่าทางที่คล่องแคล่วของเธอก็อดถามออกไปไม่ได้ “เธอมีโอกาสฟื้นขึ้นมาไหมครับ”
พยาบาลแขวนยาเสร็จก็ได้หันมามอง ก็ได้มองไปที่ตาอันแดงของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ พึ่งสองวัน ชายหนุ่มก็ได้เปลี่ยนไปมาก ดวงตาที่แดง ใต้ตาที่ดำคล้ำ แล้วหนวดที่เริ่มยาว พอมองแล้วก็รู้ว่าไม่ได้นอนมาสองวันแล้ว
พยาบาลหันกลับไป เธอเดาความรู้สึกของมรุเดชไม่ออก คลิปและรูปภาพที่เบญญาคุกเข่าต่อหน้านักข่าวเมื่อสองวันก่อนได้ติดแฮชแท็ก
เกรงว่าคนในเมืองไทรไม่มีใครที่ไม่รู้ เธอเห็นคนที่เดินผ่านเป็นคนถ่ายคลิปลง ตอนนั้นมรุเดชก็ได้ยืนอยู่ตรงที่ที่ไม่ห่างจากคล่องแคล่วมาก สีหน้าเย็นชา เหมือนว่าไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าไปช่วยเลย ก็แค่ยืนมองเบญญาจากด้านหลังอย่างเย็นชา ปล่อยให้เธอนั้นได้เจอกับคำถามที่กดดันอยู่คนเดียว เผชิญกับการเหยียดหยาบของครอบครัวของคนที่ได้ผลกระทบตามลำพัง
จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือนั้น ตอนนั้นเบญญาได้คุกเข่าอยู่ภายใต้ฝนที่ตกกระหน่ำกว่าครึ่งชั่วโมง
คนธรรมดาทั่วไปคุกเข่าครึ่งชั่วโมงก็ทนไม่ไหวแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงใต้ฝนที่ตกหนักเลย อีกอย่างร่างกายแบบนั้นของเบญญา...ก็ไม่แปลกที่จะกระอักเลือดในวันนั้น มะเร็งกระเพาะกำเริ่ม ตอนนี้ที่ได้มีลมหายใจอยู่ ก็ได้เป็นความโชคดีในความโชคร้ายแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน