หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง นิยาย บท 1

มีคนเตะเธอเข้าที่ท้องอย่างแรง ร่างกลม ๆ ของถูซินเยว่กลิ้งหลุน ๆ อยู่สองทีบนกระดานไม้ก่อนที่จะหยุดอย่างไม่เต็มใจ หน้าผากของเธอกระแทกด้านข้างอย่างแรงจนมีก้อนสีแดงแข็ง ๆ บวมนูนขึ้น ความเจ็บปวดทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เธออยากจะลืมตาขึ้นเหลือเกิน

ถูซินเยว่ยกเปลือกตาหนัก ๆ ด้วยพละกำลังทั้งหมดของเธอขึ้นอย่างยากลำบาก...

เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ข้างหูของเธอดังและชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภาพเงาผู้คนรอบตัวที่เลือนลางก็เริ่มปรากฏชัดขึ้น

“เรื่องนี้ ตระกูลถูต้องมาคุยกับตระกูลซูให้รู้เรื่อง!”

หือ?

นี่มันที่ไหนกัน?

คนพวกนั้นพูดเรื่องอะไรกันอยู่นะ?

หัวของเธอเจ็บมากเสียจนถูซินเยว่ทำได้เพียงมองดูผู้คนที่แต่งตัวประหลาดเหล่านั้นและพึมพำอยู่ในใจ แต่ไม่สามารถพูดอะไรสักคำออกมาได้ เธอหลับตาลงอย่างอ่อนแรงและฟังผู้คนโต้เถียงกันต่อไป

"ลูกสะใภ้คนใหม่ของข้าอยู่ดี ๆ กลายเป็นนางอัปลักษณ์นี่ได้อย่างไรกัน?"

“คนตระกูลถูพูดจาเชื่อถือไม่ได้เลยจริง ๆ อยากกลั่นแกล้งพวกข้าอย่างนั้นรึ เอาคนอัปลักษณ์มาเล่นตลกกับพวกข้า ถูหมิงซวนอยู่ที่ไหน รีบพาตัวนางออกมาให้พวกข้าเดี๋ยวนี้ ข้าไม่เอานังอัปลักษณ์นี่!”

บุตรสาวคนโตของบ้านตระกูลซูและลูกชายคนเล็กซูฟาเสียงตะโกนเสียงอึกทึกอยู่นอกประตู มีเกวียนวัวผูกอยู่ใต้ต้นพุทราที่ประตูทางเข้า ข้างในเกวียนนั้นมีเสื่อกกเก่าขาดพันรอบตัวหญิงอ้วนในชุดแต่งงานสีแดงสด

หญิงอ้วนที่ตัวเปียกชุ่มก็คือถูซินเยว่ที่กำลังตัวสั่นจากความหนาวเย็น

ขณะที่ตระกูลซูกำลังทำสงครามน้ำลายและกำลังจะผลักประตูไม้เปิดออกนั้น จู่ ๆ ประตูไม้เล็กโทรมก็เปิดออกด้วยเสียงดังเอี๊ยด ศีรษะของหญิงชราโผล่ออกมาจากข้างใน

หญิงชรามองไปรอบ ๆ ข้างนอกหนึ่งครั้ง ดวงตาขุ่นเคืองแต่กลับดูเฉียบแหลม "พวกเจ้าจะทำอะไร ดึก ๆ ดื่น ๆ จะมาพังบ้านตระกูลถูของข้าอย่างนั้นรึ มีอะไรก็ไปเรียกหัวหน้าหมู่บ้านมา ข้าไม่อยากมาเสวนาเรื่องไร้สาระกับพวกเจ้า”

"แม่เฒ่าถู เจ้าหมายความว่ายังไงกัน" บุตรสาวคนโตของตระกูลซูแผดเสียงสูง "ใครอยากจะมาทะเลาะกับดินโคลนอย่างพวกเจ้า เจ้าคิดว่าข้าอยากจะมาเหยียบบ้านผุ ๆ พัง ๆ ของพวกเจ้าอย่างนั้นรึ”

"เข้าเรื่องเถอะ" เมื่อเห็นว่าลูกสาวคนโตของตระกูลซูกำลังจะนอกเรื่อง ชายแก้มตอบปากยื่นท่าทางน่าเกลียดก็กระตุกชายแขนเสื้อของนาง

ท้องฟ้าเริ่มดูน่ากลัว ถ้าฝนเกิดตกขึ้นเรื่องราวจะยิ่งยากจะแก้ไข

ฝ่ายบุตรสาวคนโตของตระกูลซูถลึงตาใส่ชายคนนั้นและยิ้มหยัน "ตระกูลถูของพวกเจ้าทำเรื่องงามหน้าจริง ๆ ตระกูลซูของพวกข้ามาสู่ขอถูหมิงซวนหลานสาวจากบ้านลูกคนรองของพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับพานังอัปลักษณ์สติไม่ดีมาให้พวกข้าอย่างส่งเดช คิดว่าตระกูลซูรังแกได้ง่าย ๆ อย่างนั้นรึ”

พูดจบ นางก็เดินมาที่เกวียนและกระชากเสื่อเก่าขาดเปิดออกเผยให้เห็นถูซินเยว่ร่างอ้วนกลมที่ใบหน้ามีรอยเลือดซิบจากการถูกหนามไม้ไผ่บาดกรอกตาขาวไปมาด้วยความเจ็บปวด

บุตรสาวคนโตของตระกูลซูกำลังยุ่งอยู่กับการโต้เถียงกับแม่เฒ่าตระกูลถู จึงไม่มีเวลามองเธอ นางเตะร่างอ้วนกลมของถูซินเยว่ตกลงมาจากเกวียน ถึงแม้จะเนื้อเยอะ แต่เธอก็ไม่สามารถทนต่อแรงเตะแบบนี้ได้ เธอตกลงมากระแทกลงกับพื้นอย่างน่าสังเวช ถูซินเยว่รู้สึกเพียงแค่ว่าความเจ็บปวดที่กะโหลกศีรษะที่เกิดจากแรงกระแทกนั้นเกือบทำให้วิญญาณเธอหลุดออกจากร่าง

เธอนอนราบอยู่บนพื้นไม่สามารถขยับตัวได้ ไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้น

บุตรสาวคนโตของตระกูลซูเดินไปหาแม่เฒ่าของบ้านตระกูลถูด้วยท่าทางดุร้ายพร้อมกับยิ้มหยัน"ดู ดูเสียให้เต็มตา เจ้าเอานางอ้วนอัปลักษณ์สติไม่ดีของตระกูลถูของเจ้ามาเล่นตลกกับพวกข้างั้นรึ? วันนี้เป็นวันมงคลของจื่อหัง ตระกูลซูของพวกข้าไม่ต้องการทำให้เป็นเรื่องใหญ่ รีบไปพาตัวถูหมิงซวนลูกสะใภ้ของตระกูลซูออกมาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นก็เอาสินสอดทองหมั้นมาคืนพวกข้าให้หมด!”

พูดจบ นางก็แบมือออกกว้าง

แต่แม่เฒ่าตระกูลถูซึ่งอยู่ข้างในประตูก็อ้าปากแล้วพ่นเสมหะออกมาใส่กลางฝ่ามือของบุตรสาวคนโตของบ้านตระกูลซู

"ถุ๊ย หมิงซวนเป็นหลานคนโต ส่วนนางสติไม่ดีนั่นเป็นหลานคนเล็ก วันนี้นางทั้งสองคนเข้าพิธีแต่งงานด้วยกันทั้งคู่ บ้านเจ้าจับผิดตัวไป แล้วยังจะมาถามหาความยุติธรรมอะไรจากพวกข้าอีก รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้!"

"แล้วนางอ้วนนี่ล่ะจะทำยังไง" บุตรสาวคนโตของตระกูลซูลังเลเล็กน้อย หญิงอ้วนนี่ทั้งสติไม่ดีและตัวหนัก ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพาตัวนางมาจากบ้านตระกูลซู ตอนนี้ยังต้องมาลากกลับ... และที่สำคัญที่สุดคือถ้าลากนางสติไม่ดีนี่กลับไป ต่อไปถ้าจะพากลับมาก็คงไม่ง่ายแล้ว

ถูซินเยว่ที่อยู่บนพื้นรู้สึกใจสั่น หลังจากนอนอยู่บนพื้นเป็นเวลานาน บวกกับความทรงจำต่าง ๆ ที่ยุ่งเหยิงอยู่ในหัว ในที่สุดเธอก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ไม่เพียงแต่เดินทางย้อนอดีตมาเท่านั้น แถมยังเข้ามาอยู่ในร่างของหญิงอ้วน ตอนนี้พ่อแม่ของหญิงอ้วนคนนี้ไปสังสรรค์อยู่ในเมือง ดูท่าทางแล้วแม่เฒ่าถูคนนั้นคงไม่สนใจใยดีเธอเป็นแน่ ถ้าคนตระกูลซูกลับไปแบบนี้ ตัวเธอเองคงถูกทิ้งไว้นอกบ้านทั้งคืนแน่

ฝนตกหนักปานนี้ อีกทั้งตนเองตอนนี้ก็อ่อนแอมาก ถ้าต้องถูกทิ้งไว้ที่นี่จริงๆ ต้องตายแน่!

แม้ว่าจะข้ามภพมาเข้าร่างของหญิงอ้วน แต่ถูซินเยว่ก็ยังไม่อยากตาย

เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนวางแผนที่จะทิ้งเธอไว้ข้างหลัง ถูซินเยว่ก็ยื่นมือออกอย่างสุดกำลังและคว้ากางเกงของบุตรสาวคนโตของตระกูลซูเอาไว้ บุตรสาวคนโตของตระกูลซูกรีดร้องลั่นด้วยความตกใจ นางก้มศีรษะลงและเห็นใบหน้าที่อ้วนกลมของถูซินเยว่ ดวงตาสีเข้มกำลังจ้องมองตน นางอยากจะสะบัดออกไปด้วยความรังเกียจเมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงอ่อนโยนดังมาจากไม่ไกล

“พานางกลับไปด้วยเถอะ ไม่เช่นนั้นนางคงตายอยู่ที่นี่”

หลังจากที่ต้องฟังเสียงวิวาทราวกับสงครามปีศาจระหว่างบุตรสาวคนโตของตระกูลซูกับแม่เฒ่าถู เวลานี้เสียงหยาดน้ำฝนที่กระทบต้นใบหญ้านั้นช่างไพเราะเสนาะหูของถูซินเยว่เสียเหลือเกิน

เธอหันไปด้วยความงุนงงสับสน เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งแต่งตัวในชุดเจ้าบ่าวยืนถือร่มกระดาษเคลือบน้ำมันอยู่ท่ามกลางสายฝน

ขณะที่เธอหันไปมองดู ดวงตาเย็นชาของชายหนุ่มก็สบกันกับเธอ

จู่ ๆ หัวใจของถูซินเยว่ก็เต้นผิดจังหวะ หล่อเหลือเกิน!

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดเข้ามาในใจ ถูซินเยว่ก็หมดสติไป ก่อนที่เธอจะหมดสติ ก็ได้ยินเสียงแว่วอันประหลาดใจของบุตรสาวคนโตของตระกูลซู "จื่อ...จื่อหัง เจ้ามาทำอะไรที่นี่"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง