อีเดน นิยาย บท 11

ไคเลอร์ คอร์ปอเรชัน กรุ๊ป เวลา 08 : 09 นาที (วันจันทร์)

“แกตื่นเต้นไหมอลิซ” มารียาถามหลังจากที่ขับมินิคูเปอร์เข้ามาจอดยังที่จอดรถของพนักงาน

“สุดๆ เลย แล้วแกล่ะรียา” อลิชาตอบก่อนจะหยิบยาดมขึ้นมาจ่อจมูกแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ

“มือฉันสั่นหมดเลยแกดูสิ” มารียาบอกพลางชูมือให้เพื่อนรักดู

อลิชาดึงเพื่อนสาวเข้ามากอดปลอบครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยชวน “พร้อมแล้วใช่ไหม”

“พะ... พร้อม” มารียาตอบเสียงสั่นอย่างไม่มั่นใจ

“สู้ๆ รียา” อลิชาให้กำลังใจด้วยน้ำเสียงเข้มๆ ทั้งที่ภายในใจนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากอีกฝ่ายเลย

“สู้ๆ อลิซ” มารียาพยักหน้าให้เพื่อนสาว ก่อนจะเปิดประตูออกจากรถ แล้วเดินเข้าไปด้านในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศด้วยความรู้สึก ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก กับก้าวแรกของชีวิตใหม่หลังจากที่เรียนจบมาได้หมาดๆ

ห้านาทีต่อมา... เรือนร่างบอบบางของสองสาว ที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงทรงเอสีดำเหนือเข่าเข้ารูป เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้ง ยืนอยู่ที่หน้าล็อบบี ทำเอาพนักงานหนุ่มๆ ต่างพากันหันมามองจนแทบจะลืมหายใจกันเลยทีเดียว

“สวัสดีค่ะคุณรียา คุณอลิซ” เอมอรเลขาใหญ่เอ่ยทักทายสองสาวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่เห็นทั้งสองมาเข้างานก่อนเวลา

“สวัสดีค่ะคุณเอมอร” มารียาและอลิชายกมือไหว้เลขาใหญ่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เชิญที่ลิฟต์ทางด้านนู้นเลยค่ะ” เอมอรบอกพลางผายมือเชิญไปที่ลิฟต์ของผู้บริหารระดับสูง

“ค่ะ” สองสาวตอบก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายไปด้วยท่าทีเขินอาย

สิบนาทีต่อมา... (ชั้นบนสุดของบริษัท)

“นี่คือโต๊ะทำงานของคุณทั้งสองค่ะ” เอมอรชี้ให้สองสาวดู หลังจากที่เดินออกลิฟต์มา

“ขอบคุณค่ะ” มารียาและอลิชายิ้มให้อีกฝ่ายบางๆ ก่อนจะมองโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างรู้สึกทึ่งๆ

“เดี๋ยวเราไปเดินดูห้องประชุมและห้องอื่นๆ กันก่อน แล้วค่อยกลับมาเรียนรู้งานค่ะ” เอมอรบอกก่อนจะออกเดินนำไปยังห้องของผู้บริหารด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพราะผู้ช่วยสาวทั้งสองสวยจนเธอเริ่มวางตัวไม่ถูก แถมนามสกุลยังไม่ธรรมดาอีก

“ค่ะ” สองสาวเอ่ยรับก่อนจะพากันเดินตามมาติดๆ

บริษัทไคเลอร์... (ในลิฟต์ผู้บริหาร)

“นี่พวกมันทำงานกันยังไงฮะ ผู้หญิงแค่คนเดียว ปล่อยให้เล็ดลอดสายตาไปได้ยังไงกัน” อีเดนสบถอย่างหัวเสียหลังจากที่เข้ามาในลิฟต์ได้เพียงครู่เดียว

“เอ่อ... ใจเย็นๆ ก่อนครับท่าน ผมคาดว่าอีกเดี๋ยวก็คงเจอ” ธนิน บอกด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เพราะว่าสองวันที่ผ่านมา ตนได้ยินคำพูดในทำนองนี้แทบจะทุกๆ สองชั่วโมง

“ให้จริงเถอะ! นี่ก็จะสามวันแล้วนะ ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่เจอ นายต้องไปเคาะประตูเรียกออกมาดูทีละห้องแล้วละ” อีเดนกราดเกรี้ยว

“ครับ” ธนินเอ่ยรับเบาๆ อย่างไม่รู้จะทำยังไง ไอ้ครั้นจะให้คนไปเอารายชื่อของคนที่พักในคอนโดก็ทำไม่ได้ เพราะคนที่พักอยู่ล้วนแต่เป็นลูกหลานของคนรวยๆ ทั้งนั้น

ติ๊ง!

“สวัสดีค่ะท่าน สวัสดีค่ะคุณธนิน” กิ่งกาญ (ผู้ช่วยเลขา) เอ่ยทักทายประธานใหญ่และคนสนิทด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อเห็นทั้งสองเดินออกมาจากลิฟต์

“สวัสดีครับ แล้วคุณเอมล่ะ ยังไม่มาอีกเหรอ” อีเดนถามพร้อมกับหันมองไปรอบๆ อย่างสงสัย เพราะตนมีเรื่องสำคัญจะสอบถามอีกฝ่าย

“มาแล้วค่ะท่าน แต่พาพนักงานใหม่ไปเดินดูห้องต่างๆ อยู่ค่ะ” กิ่งกาญบอกเสียงหวาน

“ขอบคุณครับ” อีเดนตอบก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงานของตน

ขณะที่เลขาใหญ่วัยสี่สิบเจ็ดปีกำลังพาผู้ช่วยเลขาใหม่ทัวร์ห้องของท่านประธานอยู่นั้น อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา ทำเอาทั้งสามถึงกับสะดุ้งและหันไปมองพร้อมๆ กัน

“สวัสดีท่านประธาน” เอมอรทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“...” อีเดนยืนนิ่งไปราวกับถูกสาป เมื่อเห็นสาวเจ้าคนที่ทำให้ตนตามหาจนแทบจะเป็นบ้า...อยู่ตรงหน้า!

“คนที่เราเจอที่คลับคืนนั้นนี่รียา” อลิชาหันไปกระซิบเพื่อนสาว

มารียาสบตากับคนที่เป็นวันไนท์สแตนด์ ก่อนจะชาวาบไปทั้งตัว ‘บ้าจริง! ทำไมโลกมันถึงได้กลมแบบนี้นะ’

“เอมพาผู้ช่วยคนใหม่มาแนะนำสถานที่ค่ะ” เอมอรรีบบอกเมื่อเห็นผู้เป็นนายเงียบไป

“รบกวน...ทุกคนออกไปข้างนอกก่อนได้ไหมครับ” อีเดนเอ่ยพร้อมกับจ้องมองใบหน้างดงามที่ตราตรึงในหัวใจอย่างไม่วางตา

“ดะ...ได้ค่ะ” เอมอรหันไปพยักหน้าให้สองสาวออกจากห้องไปด้วยกัน

“ฉันเมา คุณก็เมา แล้วคุณจะให้ฉันเรียกร้องอะไรล่ะ ต่างคนต่างไปน่ะดีแล้ว”

“แต่ผมเป็นผู้ชายคนแรกของคุณนะ” อีเดนบอกสาวมั่นที่ทำท่าโนสนโนแคร์อย่างไม่อยากจะเชื่อหูเชื่อตาตัวเอง

“ทุกคนต้องมีครั้งแรกเสมอ” เธอกัดฟันบอกทั้งๆ ที่ความคิดและความรู้สึกภายในใจกำลังสับสน

“แล้วถ้าคุณท้องขึ้นมาล่ะ” อีเดนปล่อยหมัดฮุกใส่อย่างไม่รอช้า

“อ้าว คืนนั้นคุณไม่ได้ป้องกันหรอกเหรอ” มารียารู้สึกเหมือนถูกลากไปตบกลางสี่แยกไฟแดง

“ไม่ได้ป้องกันเลยสักครั้งเดียว” อีเดนเชิดหน้าขึ้นราวกับคนที่ถือไพ่เหนือกว่า

“บ้าจริง! นี่ฉันจะติดเอดส์หรือเปล่า” มารียาสบถเสียงดังอย่างหัวเสีย เมื่อรู้ว่าตัวเองทำเรื่องผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ลงไป

“ให้ตายสิ ผมไม่ได้สำส่อนนะ ผมป้องกันทุกครั้ง” อีเดนกลอกตา ก่อนจะต่อว่าคนที่ทำท่าจะสติแตก

“โกหก! แล้วทำไมคืนนั้นคุณไม่ป้องกันล่ะ” เธอหันไปตอกกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ‘โลกนี้จะมีใครโชคร้ายเหมือนเราอีกไหมนะ โดนคู่หมั้นนอกใจ เมาแล้วยังเสียตัวให้คนแปลกหน้า แถมไอ้บ้านี่ก็ไม่ได้ใส่ถุงยางอีก’

“ผม...” อีเดนอึกอักไม่รู้จะตอบยังไงเพราะตนก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมถึงได้ปล่อยตัวในคืนนั้น

“ฉันต้องรีบไปตรวจเลือด” เธอบอกพร้อมกับเตรียมจะเดินไปที่ประตูห้อง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายเข้ามาขวางเอาไว้ซะก่อน

“รียา! ผม-ไม่-ได้-เป็น-เอดส์-โอเค้” อีเดนกัดฟันข่มอารมณ์ให้เย็นเมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็นโรคร้ายแรง

“คุณร่านออกขนาดนั้น ฉันจะมั่นใจได้ยังไง” มารียาถามด้วยสีหน้าตึงเครียด

“ผม-ไม่-ได้-ร่าน” อีเดนเน้นช้าๆ ชัดๆ ทีละคำอย่างโมโห ‘พระเจ้าทำไมต้องส่งผู้หญิงที่คิดอะไรเพี้ยนๆ แบบนี้มาเป็นเมียเราด้วยวะ!’

“ฉันไม่เชื่อ” มารียามองร่างสูงร้อยเก้าสิบกว่าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะส่ายหน้าไปมาเบาๆ

“งั้นไปตรวจด้วยกัน” อีเดนบอกก่อนจะคว้าข้อมือให้ออกเดิน

“ไม่ ฉันจะไปตรวจเอง” มารียาสะบัดข้อมือของอีกฝ่ายออกด้วยสีหน้ารังเกียจ ‘อีตานี่มือเร็วชะมัด’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน