กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 165

ไม่นาน สาวสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวทันสมัยและสวยงามเดินออกมาจากสนามบิน เธอถือกระเป๋าเดินทางขนาด 18 นิ้วด้วยมือเดียว และสวมหน้ากากสีดำเหมือนกัน ผมม้วนสีน้ำตาลปลิวเล็กน้อย สยายอยู่ระหว่างบ่า บวกกับดวงตาดุดันของเธอ ให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงแกร่ง…

แต่พออ้าปากพูด ภาพที่เห็นก็เปลี่ยนไป

“อ๊า น้องปัณณ์ของหม่ามี๊ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว…” เจนนี่วิ่งเหยาะๆ มาอย่างตื่นเต้น เธอดึงหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เหมือนตุ๊กตาของเธอ

เธอโยนกระเป๋าเดินทางทิ้งไว้ใกล้ๆ แล้วอุ้มกอดปัณณ์ขึ้นมา

เอาหน้าถูหน้าปัณณ์ไปมา และร้องอย่างดีอกดีใจ

“ทำไมน่ารักขนาดนี้!”

เพราะปัณณ์สวมหน้ากากอยู่ เธอจึงจุ๊บได้แค่บนหน้ากาก

ปัณณ์ถูกเจนนี่อุ้มไว้ในอ้อมอก สองมือก็เกาะหน้าอกเอาไว้ คิดในใจว่าการสวมหน้ากากก็มีประโยชน์อยู่บ้าง

ทุกครั้งที่เจนนี่กลับมาจากกองละคร ก็จะทั้งกอดทั้งจุ๊บปัณณ์อย่างตื่นเต้นดีใจตลอด…

“หม่ามี๊ครับ เสียงดังจังเลย” ปัณณ์แอบกลอกตาน่ารักของเขาแบบเท่ๆ

เจนนี่ไม่โกรธเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกว่าปัณณ์หน้าตาน่ารักแต่ทำตัวเท่ก็ดูน่ารักมากด้วย “หม่ามี๊ซื้อของมาฝากด้วย ชอบไหม?”

ปัณณ์ไม่คาดหวังอะไรมาก “เป็นจุกดูดนม หรือขนมถุงใหญ่ล่ะครับ?”

“ขนมถุงใหญ่จ้า!ปัณณ์นี่จริงๆ เลย ขนาดของขวัญยังเดาได้เลย ฉลาดเกินไปแล้วนะ ขนมพวกนั้นเป็นขนมที่มีแค่ในพื้นที่ที่หม่ามี๊ไปถ่ายละคร รสชาติดีมากเลยล่ะ” เจนนี่อดไม่ได้จึงหัวเราะออกมา รอยยิ้มนั้นช่างสดใสและหวานหยดย้อย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมถึงได้มีแอนตี้แฟนเยอะขนาดนั้น

ปัณณ์กลอกตาอีกครั้ง “เพราะทุกทีหม่ามี๊ก็ซื้อของกินมาตลอด ผมไม่รู้จริงๆ ว่าหม่ามี๊จะซื้ออะไรได้อีก”

“ห้ามพูดกับหม่ามี๊แบบนั้นนะ” ณิชายื่นมือไปดีดหน้าผากของปัณณ์

เจนนี่เป็นเพื่อนสมัยมหาลัยของณิชา

ตอนปีสอง บ้านณิชาล้มละลาย เพื่อนที่ดีๆ กันอยู่ก็เริ่มทำตัวห่างเหิน ตอนที่กำลังเผชิญกับปัญหาอยู่นั้น ก็ถูกเจ้าของตึกไล่ตลอด เลยต้องไปนอนตามถนน

มีเพียงเจนนี่ที่ไม่ได้สนใจเรื่องที่บ้านของเธอ แล้วยังเอาเงินที่ได้จากการถ่ายงานโฆษณาของตัวเองให้เธอยืมอีก

ถ้าไม่ได้เจนนี่ที่ช่วยเธอไว้ ณิชาก็ไม่กล้าคิดเลยว่า…

ตัวเองจะเลี้ยงดูสิดากับปัณณ์ได้ยังไง?

บวกกับตอนนั้นเธอท้องลูกอยู่ แถมยังเป็นแฝดด้วย ต่อให้ไปทำงานก็คงไม่ไหว

ปัณณ์ทำหน้ายิ้มอย่างไม่เต็มใจ “ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ”

“ไม่เป็นไรจ้า~”

เจนนี่ดีใจมาก กอดปัณณ์ไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเลย

ณิชาลากกระเป๋าเดินทางของเธอ และกลับบ้านด้วยกันสามคน

เจนนี่มีแอนตี้แฟนเยอะมาก มีคนไม่น้อยที่พยายามหาที่อยู่ของเธอ เธอจึงใช้ชื่อของณิชาซื้อบ้านในหมู่บ้านออเรนจ์เสียเลย และอยู่ติดบ้านณิชาพอดี ระเบียงเชื่อมกันอีกต่างหาก เวลาว่างๆ ก็มาอยู่เป็นเพื่อนกันได้

แต่เธอฟุ่มเฟือยมาก ซื้อสองหลังในคราเดียว

พอเชื่อมบ้านสองหลังเสร็จ ก็ให้ณิชาออกแบบภายในให้อีก ทำให้บ้านดูหรูหราขึ้นมาก

เวลาที่เจนนี่ออกไปถ่ายงาน ณิชามักจะมาช่วยดูเวลามีหม่ามี๊บ้านมาทำความสะอาดให้

คืนนี้ เจนนี่กลับมาทั้งที เดิมทีณิชาตั้งใจจะซื้อของมาทำหมูกระทะกินกัน แต่เจนนี่ยังเจ็ทแลคอยู่ พอถึงบ้านก็เข้าห้องแล้วนอนหลับเลย

เย็นวันต่อมา ณิชาคิดว่าเจนนี่น่าจะตื่นแล้ว จึงทำข้าวต้มไว้ แล้วเรียกเจนนี่ให้มากินด้วยกัน

กดกริ่งอยู่นานสองนาน แต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ

ณิชาสงสัย เวลาเช้าแบบนี้เธอไปไหนกัน?

พอโทรหาถึงได้รู้ว่า เธอเพิ่งตื่นจากนอนกลางวัน ผู้จัดการก็เรียกให้ไปที่อิมพิเรียลคลับ…

ณิชารู้ว่าเจนนี่ต้องดื่มเหล้าเยอะ จึงกำชับว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ

พอกดวางสาย ณิชาก็พูดพึมพำอยู่สี่คำ นั่นก็คืออิมพิเรียลคลับ

ใจเธอก็หล่นลงไปที่ตาตุ่ม

เมื่อวานที่น้ำตาลถามเรื่องของเวธัส ตัวเองก็บอกเธอไปว่าเวธัสชอบไปที่นั่น

ส่วนผู้หญิงพวกนั้น…

ณิชาก็เคยเห็นหน้าพวกเธอบนจอโทรทัศน์อยู่บ่อยๆ

ซึ่งทุกคนต่างก็เป็นหญิงงามอันดับต้นๆ เลย

และหนึ่งในนั้นก็คือมีมี่ เธอได้ยินเจนนี่บ่นถึงคนนี้อยู่บ่อยๆ

ผู้หญิงคนนั้นมักจ่ายเงินเพื่อจะได้เป็นข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงเจนนี่อยู่เสมอ

หลังจากที่ณิชาเปิดประตูเดินเข้ามา ทุกคนในห้องต่างก็มองมาที่เธอ โดยเฉพาะผู้หญิงใสสะอาดคนนั้น เธอมองมาด้วยสายตาริษยา เหมือนกำลังคิดว่า ผู้ชายคนไหนเรียกมาอีกล่ะเนี่ย?

“พวกเราเปิดห้องแบบส่วนตัว ใครให้เธอเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต? ออกไป!” มีมี่พูดพร้อมยกมือชี้ไปที่ณิชา

ณิชาไม่เห็นเจนนี่เลย

เลขห้องที่พนักงานบอกมาก็คือห้องนี้นี่นา และที่นี่ก็มีทั้งดารานักแสดงเต็มไปหมด ถ้าเจนนี่ไม่อยู่ที่นี่ แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน?

หรือว่ากลับไปแล้ว?

“นี่ ฉันพูดกับเธออยู่นะ ไม่ได้ยินหรอ!”

มีมี่เห็นว่าณิชาไม่ได้สนใจเธอ จึงทำตาเขม็งแล้วพูดกับณิชาอย่างไม่พอใจ

ณิชาถูกผู้คนมากมายจ้องอยู่ จึงทำตัวไม่ถูก

แต่ในเมื่อเจนนี่ไม่อยู่ที่นี่ เธอก็คงไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ

ในขณะที่ณิชาที่กำลังลังเลอยู่ เธอคิดว่าจะถามชาลีดีไหม ว่าเขาเห็นเจนนี่บ้างหรือเปล่า…

เวธัสก็มองมาที่เธอ

หญิงสาวที่ไม่แต่งหน้า และใส่เสื้อฮู้ดหมวกนกค้างคาวธรรมดา มัดผมทรงดังโงะ ใสซื่อเหมือนนักศึกษาที่เพิ่งเดินออกมาจากรั้วมหาลัย

เวธัสดับบุหรี่ที่คีบไว้ในมือ แล้วหันไปพูดกับนางเอกสาวที่กำลังโวยวายอยู่ว่า “นี่คือคนของฉัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊