เห็นได้ชัดว่าน้ำตาลโมโหเพราะความอับอาย เธอชี้หน้าณิชาด้วยความโกรธเคือง “แกหุบปากไปเลยนะ!ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะแกทั้งนั้น มันเป็นเพราะว่าฉันปัดแกตกในรอบแรก บอกว่าแกคัดลอกผลงานคนอื่นมาไม่ใช่เหรอ……”
“คนที่ควรจะหุบปากก็คือคุณ”แววตาที่กระหายเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาที่เย็นชาของเวธัส
น้ำตาลใจสั่นเพราะแววตาของเวธัส ราวกับว่ามีบางอย่างจับขาเธอและลากเธอไปลงนรก
ความหวังสุดท้ายของเธอเหลือเพียงแค่คุณย่าศิริจันทร์แล้ว
“คุณย่าคะ คุณย่าต้องช่วยหนูนะ หนูอยู่ข้างกายคุณย่ามาตั้งหลายปี หนูจะทำเรื่องบ้าๆ บอๆ แบบนั้นได้ยังไงกัน……”
เธอเดินมาหาคุณย่าศิริจันทร์ แล้วก็ร้องไห้เหมือนใจจะสลาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้กลับไม่ได้เกิดขึ้น คุณย่าศิริจันทร์ไม่ได้ปลอบใจน้ำตาล แถมยังสะบัดมือออกด้วยความเย็นชา
แล้วก็มองเธอด้วยสายตาราวกับมองคนแปลกหน้า
“น้ำตาล เธอทำให้ย่าผิดหวังมาก”
น้ำตาลยืนเป็นอัมพาตอยู่ตรงนั้นเลย ใบหน้าของเธอแข็งที่ยังอธิบายไม่ถูก เต็มไปด้วยความตื่นตกใจ “คุณ……คุณย่าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
“คุณน้ำตาล ไม่ต้องเถียงข้างๆ คูๆ อีกแล้วค่ะ เมื่อวานท่านได้ให้ฉันไปสืบเรื่องเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของคุณในช่วงนี้ แล้วก็พบว่าคุณได้ส่งพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งออกไปจากเมืองพรอย่างลับๆ แล้วก็ได้ให้คนหยุดพนักงานคนนั้นไว้ทันที อยากให้เธอมาเผชิญหน้ากับคุณไหม?”ตุ๊กจ้องหน้าเธออย่างอารมณ์ไม่ดี
“อะ……อะไรนะ?”น้ำตาลแข็งทื่อไปทั้งตัว
ถูกสกัดไว้ได้เหรอ!
ไม่ ไม่มีทาง
วันนั้นเธอเห็นกับตาว่าเครื่องบินลำนั้นบินขึ้นไปแล้ว แล้วพวกเขาจะหยุดไว้ได้ยังไงล่ะ?
คุณย่าศิริจันทร์เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยการคำนวณแผนของน้ำตาลก็รู้ว่าเธอยังไม่ยอมแพ้ “ตุ๊ก พาเธอเข้ามา”
ตุ๊กโค้งคำนับ แล้วก็ทำตามความต้องการของคุณย่าศิริจันทร์ ส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดพาเธอเข้ามา
ไม่นาน บอดี้การ์ดก็จับผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา
ผู้หญิงคนนั้นถูกโยนลงกับพื้น ผมเผ้ายุ่งเหยิงตัวลงมาปิดหน้า รูม่านตาหดตัวด้วยความกังวล เหมือนกับว่าได้ผ่านเรื่องที่น่ากลัวมา แต่ตัวของเธอก็สั่นเล็กน้อย
ตอนที่เธอเห็นหน้าน้ำตาลนั้น เธอก็รีบเข้าไปร้องขอวิงวอน “คุณน้ำตาลคะ ฉันได้ใส่ยาถ่ายให้คุณณิชาตามที่คุณสั่งแล้ว คุณต้องช่วยฉันนะคะ ช่วยฉันด้วย……”
น้ำตาลตัวสั่นในทันที ไม่คิดเลยว่าพนักงานหญิงคนนี้จะถูกจับตัวกลับมาจริง!
มิน่าล่ะคุณย่าศิริจันทร์ถึงไม่ได้ดูรักเธอเหมือนก่อน……
“ฉันไม่รู้จักเธอ แล้วก็ไม่รู้เรื่องยาถ่ายอะไรนั้นด้วย”
เธอรู้ว่าเธอสิ้นหวังแล้ว แต่เมื่อเธอปล่อยมือ หมายความว่าเธอหันหลังกลับไม่ได้อีก
ทำได้เพียงแค่ต้องยื้อเอาไว้……
พนักงานสาวคนนั้นได้ยินน้ำตาลพูดแบบนี้ สีหน้าก็ดูอาฆาตแค้นขึ้นมาในทันที
“คุณ……คุณพูดออกมาได้ยังไงว่าไม่รู้จักฉัน? ตอนนั้นที่คุณแพรส่งแบบร่างมา แล้วคุณเห็นว่ามันเหมือนกับของคุณณิชาเป๊ะ คุณก็เลยให้ฉันเปลี่ยนเวลาที่เธอมาส่งงาน แล้วให้ทุกคนคิดว่าคุณณิชาเป็นคนลอกเลียนผลงาน!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณบอกว่าคุณณิชาเป็นแค่บุคคลล้มละลาย ต่อให้ฉันจะมีความกล้ามากแค่ไหน ก็ไม่กล้าวางยาถ่ายเธอหรอก……”
“ใช่สิ คุณให้เช็ค 2,500,000 ให้ฉันด้วย ซึ่งฉันไม่ได้ขึ้นเงิน ถ้าเกิดว่าไม่เชื่อ ไปตรวจดูในกระเป๋าเดินทางฉันก็ได้ มันคือหลักฐานว่าคุณล่อซื้อฉัน……”
น้ำตาลไม่คิดเลยว่าพนักงานสาวคนนั้นจะบอกทุกอย่างออกมาจริงๆ ใบหน้าของเธอซีดเซียวลงในทันที ได้แต่บ่นพึมพำ แล้วก็รู้สึกยืนไม่ค่อยจะอยู่เท่าไหร่นัก
“ไม่……มันไม่ได้เป็นแบบนั้น……”
คุณย่าศิริจันทร์หลับตาทั้งสองข้าง แล้วก็พูดกับตุ๊กว่า “ไปหามา”
พอบอดี้การ์ดได้รับคำสั่ง ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร ลากกระเป๋าเดินทางของพนักงานสาวเข้ามาในห้องผู้ป่วย แล้วก็เจอเช็คอยู่ด้านในหลังจากทำการค้นหา
จำนวน2,500,000 แล้วก็เป็นลายมือของน้ำตาลจริงๆ
คุณย่าศิริจันทร์โยนเช็คใบนั้นไปตรงหน้าของน้ำตาล “เธอยังมีอะไรให้พูดอีกเหรอ?”
ชาลีเหลือบตามองอย่างเย็นชา และดวงตาของเขาก็หรี่ลง“ถ้าเกิดว่าไม่ได้ ก็ทำให้สลบก่อนแล้วค่อยลากออกไป!”
ท่าทางดึงขาเก้าอี้ของเธอแข็งทื่อไปในทันที
ในท้ายที่สุดบอดี้การ์ดไม่มีทางเลือกจริงๆ ดังนั้นเขาจึงคว้าคอเสื้อเธอและลากเธอออกไป
ทำให้เกิดรอยตื้นๆ บนพื้น
ทันใดนั้นหูก็เงียบลง และภายในห้องก็สงบสุขลง
ณิชากับไม่ได้รู้สึกดีใจเลย ถึงกลับรู้สึกแปลกใจ ทั้งๆ ที่คุณย่าศิริจันทร์รักและห่วงน้ำตาลขนาดนั้น แล้วก็เห็นลูกหลานสามารถดูแลตัวเองได้ แต่ว่าตอนนี้……
เธอไม่ลังเลเลยที่จะทิ้งน้ำตาล
นึกย้อนกลับไปตอนที่เธอเคยเจอคุณย่าศิริจันทร์เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ว่าตอนนั้นที่น้ำตาลจะให้คนขับรถขับมาชนเธอ คุณย่าก็ไม่ได้ห้ามอะไร
สิ่งที่ทำให้ณิชาเหมือนมีหนามทิ่มแทงในใจ ก็คือตอนนั้นเห็นได้ชัดว่ารถดับเครื่องแล้ว คนขับรถก็สตาร์ทขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เพียงพอที่จะบอกว่าคุณย่าศิริจันทร์ก็รู้เรื่องรู้ราวเหมือนกัน เธอเอาชีวิตคนมาล้อเล่นอย่างนั้นเหรอ?
“คุณณิชา ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันไม่ได้สั่งสอนน้ำตาลให้ดี ถึงได้ทำร้ายคุณอย่างหนัก”ตอนที่คุณย่าศิริจันทร์มองไปที่ณิชานั้น สายตาของเธอกลายเป็นอ่อนโยน แม้แต่มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนซ่อนอยู่ในดวงตาของเธอ “แต่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวฉันจะชดใช้ให้คุณเอง”
เวธัสได้แต่ยืนเงียบตรงนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ สายตาลึกซึ้ง “คุณท่าน พวกเราขอบคุณน้ำใจของท่าน แต่ว่าผู้หญิงของผม ผมจะชดใช้ให้เอง”
คุณย่าศิริจันทร์ขมึงตาจ้องมองอย่างไม่เกรงกลัว สายตาดูคมกริบ “ฉันกำลังพูดกับณิชาอยู่”
ความหมายก็คือ ไม่ได้มีพื้นที่ให้นายเข้ามาแทรก
คุณย่าศิริจันทร์จ้องเขม็งไปที่ณิชา แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะให้คุณณิชาชนะการประกวดของเอสพี จิวเวลรี่ครั้งนี้”
มือของณิชาที่กำผ้าห่มอยู่นั้นกำแน่นขึ้นกว่าเดิม
ผู้ชนะ……
ตอนนี้เกมยังไม่จบสิ้นทั้งหมด แต่ว่าคุณย่าศิริจันทร์กลับพูดกับเธออย่างชัดเจนว่า เธอคือผู้ชนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...