“5ล้านดอลลาร์สหรัฐมันไม่พอ สิบล้านได้นะ ถ้าสิบล้านยังไม่พออีก ผมจะเอาเช็คเงินสดเปล่าๆ ให้คุณไปเขียนตัวเลขเอาเองก็ได้! ธนา ตราบใดที่คุณพาเธอไปทำแท้งด้วยตนเอง ผมสามารถตอบตกลงคุณได้ทุกเงื่อนไข! นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณแล้วนะ!”
เวธัสรีบเอ่ยปากพูดก่อนที่คนทั้งสองจะเดินจากไป รอจนเขาพูดจบ ถึงได้ค้นพบว่าอารมณ์ของตนเองไร้การควบคุมแล้ว!
คำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ถือว่าทำร้ายคนอื่น แถมยังสร้างความบาดหมางระหว่างกัน....
ธนาอดใจไม่ไหวจนพุ่งหมัดหมายลงมือกับเวธัส แต่ณิชากลับดึงชายเสื้อของเขาเอาไว้ทันที
จากนั้น...
เพี๊ยะ
พลันเกิดเสียงตบหน้าที่ดังอย่างชัดเจนอย่างสุดแรงเกิดบนใบหน้าเวธัส
ณิชาตบหน้าเวธัสไปหนึ่งฉาด ฝ่ามือยังเจ็บอยู่เลย
เวธัสถูกฝ่ามือนี้ตบจนมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งตรงบริเวณมุมปาก
สายตาของเขามุ่งมั่น จับจ้องมองณิชาอย่างดุดัน แม้จะมีแสงจันทร์ปกคลุมอีกชั้น เขามองเห็นเบ้าตาแดงแจ๋ของเธอ ถัดจากนั้นก็ได้ยินเธอพูดเน้นย้ำทุกคำ “เหยียดหยามผู้หญิงก็ช่างเถอะ แต่กลับเหยียดหยามความเป็นคนของคนอื่น การทำแบบนี้ยิ่งทำให้คนอื่นรังเกียจมากขึ้น”
คำพูดอันเฉยเมยไม่กี่ประโยค คล้ายเหมือนถูกค้อนหนักๆ เคาะตรงหัวใจของเขา
กระเดือกเคลื่อนไหวเล็กน้อย เขาจ้องมองเบ้าตาแดงระเรื่อของเธอ ริมฝีปากบางรูปกระจับเม้มปากไว้ปิดสนิท ราวกับความรู้สึกนับไม่ถ้วนมันตีพลุ่งพล่านขึ้นมา
แต่สุดท้ายแล้วก็กลับคืนสู่ความปกติ
ยิ่งทำให้รังเกียจมากกว่าเดิม?
ที่แท้เธอก็รังเกียจเขามากถึงเพียงนี้เลยเหรอ...
ก็ใช่ เธอเคยชอบเขาจริงๆ ซะที่ไหนกันเล่า?
“คุณเวธัสครับ ว่าที่ภรรยาของผมพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำแล้ว จากนี้ยังหวังว่าคุณคงไม่ต้องมายุ่มย่ามกับชีวิตอันสุขสงบของพวกเราอีก! รอวันที่พวกเราจัดงานแต่งงาน คุณก็ไม่จำเป็นต้องไป!”
ธนาฝืนทำตาเหลือกใส่เวธัส จากนั้นก็จูงณิชาให้เดินออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
สองทางเดินมีเงาต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม ไฟข้างทางก็ห้อยอยู่บนต้นไม้ใหญ่
ช่องแสงส่องลงมาอย่างหนาแน่น
ณิชาถูกธนากุมมือไว้ และค่อยๆ เดินออกจากสายตาของเขาไปเรื่อย…
สายลมพัดเบาๆ กระทบเข้ามา ซึ่งมันทิ่มแทงกระดูกกว่าลมหนาวในฤดูหนาวเสียอีก เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ นัยน์ตาดำขลับลึกซึ้งจนไม่เห็นก้น พลันควานหากล่องแหวนสีดำอันประณีตบรรจงขึ้นมากระเป๋า
เมื่อเปิดกล่องดู พลันมีแสงประกายระยิบระยับดังพลุของแหวนอันงดงามวงหนึ่ง
เธอมีลูกกับธนาแล้ว
เมื่อครู่เขาจัดการฆ่าความเป็นไปได้เพียงน้อยนิดทิ้งไปแล้วหรือเปล่า?
ทั้งๆ ที่ควรจะทิ้งความรู้สึกไม่แยแสออกไป แต่เขากลับทำผิดซ้ำสอง ทนเห็นเธอมีความสุขไม่ได้ และทนเห็นเธอปฏิบัติตัวดีกับธนาไม่ได้อีก ทำร้ายเธอและทำร้ายตนเองในเวลาเดียวกัน...
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ยอมวางมือ ไม่มีทางเป็นอันขาด
……
ธนาพาณิชาเดินหนีออกมา
สายลมยามดึกพัดเอื่อยๆ ทั้งสองคนต่างไม่มีใครพูด ต่างรักษาความเงียบงันระหว่างกันอยู่นาน
เมื่อมาถึงแถวๆ ชายหาดแล้ว เกมล่าหาสมบัติก็เพิ่งจบงานลง พิธีกรได้ประกาศคนที่ได้รางวัลและของรางวัลที่จะได้รับ ตอนนี้ต่างมีเสียงครื้นเครง โดยที่ระหว่างทั้งสองคนต่างเงียบสนิทไม่ร่วมหัวจมท้ายกับคนอื่น
“ขอโทษนะ...” ณิชาสูดหายใจเข้าลึกๆ พลันพูดเบาๆ “ที่ต้องลากคุณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”
เสียงเธอเบามาก ท่ามกลางในสถานการณ์อันครื้นเครงเช่นนี้ เมื่อพลาดไม่ระวังก็จะไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
ธนาเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น และถามไถ่อย่างหมดแรง “เวธัสเป็นพ่อของเด็กในท้องคุณใช่มั้ย?”
เด็ก?
อ้อ ณิชานึกออกแล้ว พวกเขาต่างคิดว่าเธอกำลังท้องอยู่
เธอส่ายหน้าทันที “ไม่ใช่”
……
ณิชามาถึงที่พักที่ทางบริษัทได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ และรีบอาบน้ำอาบท่าทันที
เธอยืนอยู่ในห้องน้ำ เมื่อมองผ่านกระจกจรดพื้นจึงเห็นรอยแผลถลอกที่โดนขูดขีดทางด้านหลังทั้งหมด ตอนนี้ไม่มียา เธอจึงไม่มีกะจิตกะใจไปคิดมากมาย พลันนำเสื้อคลุมคลุมทับ และเดินไปโทรศัพท์หาลูกสองคนตรงระเบียงด้านนอก
พวกเขาใจเย็นกว่าเธอมาก ส่วนเธอพลิกตัวไปมาตลอดทั้งคืนจนนอนไม่หลับ
ตอนฟ้าเริ่มสาง เธอจึงผล็อยหลับไป
แต่กลับฝันร้ายแทน
ถึงขนาดเก็บไปฝันในความฝันเวธัสบังคับเอาลูกสองคนไป ถึงขนาดฝันว่าเธอยืนอยู่ตรงแท่นบัลลังก์เพื่อรอฟังคำพิพากษาจากศาล ผู้พิพากษาได้พิพากษาให้เวธัสมีสิทธิ์เลี้ยงดูเด็กทั้งสองคน ส่วนเธอไม่มีสิทธิ์เลี้ยงดูและไม่สามารถเข้าใกล้ลูกทั้งสองคนได้เลย
เมื่อตื่นจากความฝันร่างกายชุ่มเหงื่อไปทั้งตัว
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งนั้น ทางด้านนอกโรงเรียนอนุบาลในแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส
มีรถเบนท์ลี่ย์สีดำที่ซ่อนตัวลับๆ จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนอย่างเงียบๆ
ตอนนี้เป็นเวลาวิชาพลศึกษาของยามเช้า เนื่องจากโครงสร้างของโรงเรียน มีราวกันสีดำล้อมรอบเอาไว้
เมื่อผ่านราวกั้น ก็สามารถมองเห็นวิวสนามหน้าได้อย่างง่ายดาย
เวธัสนั่งอยู่เบาะหลังของรถยนต์ บนหัวเข่ายังวางNotebookสีดำพาดเอาไว้ ส่วนนิ้วมือก็เคาะอย่างรวดเร็วราวกับเริงระบำ และจัดการงานได้อย่างคล่องแคล่ว
“คุณเวธัสครับ คุณหนูอรัลมาถึงสนามหญ้าแล้วครับ” เสียงเอกดังเตือนมาจากที่นั่งข้างคนขับรถ
เวธัสปิด Notebook ลงอย่างสง่างามทันที สายตาลึกซึ้งมองผ่านกระจกรถ พลันเห็นฝาแฝดคู่หนึ่งกำลังเล่นสนุกอยู่บนสนามหญ้า
พวกเขาใส่ชุดเครื่องแบบโรงเรียนสีฟ้าอ่อนและมีรองเท้าคู่เล็กๆ ที่แสนจะน่ารักเหมือนๆ กัน
ท่ามกลางแสงอาทิตย์สอดส่องลงมา เมื่อมองแบบตั้งใจก็ไม่เห็นว่ามีความแตกต่างตรงไหน หน้าตาเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว สูงเท่าๆ กัน ขนาดเสียงก็คล้ายกันมาก สิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือการแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขา...
ปัณณ์ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขมาก ไร้ความวิตกกังวลใดๆ ส่วนอรัลเป็นพวกไม่แสดงออก ค่อนข้างนิ่งขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...