ปัณณ์กำลังคิดจะหยอกล้อกับป้าเจน พลันเห็นร่างกายสูงใหญ่ตัวยาวเหยียดเข้ากระบอกตาทันที
เมื่อมองตามกางเกงสแลคขึ้นไป ซึ่งเป็นแบบจำลองของความหล่อที่คล้ายกับเขาทุกอย่าง
รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเด็กน้อยหุบลงทันที
“ปีศาจกษัตริย์?!”
เขาปิดประตูทันควัน แต่เวธัสก็รวดเร็วกว่าเขามาก แขนข้างหนึ่งคอยค้ำยันประตูเอาไว้ เด็กน้อยสู้เขาได้ที่ไหน
อรัลเข้ามาช่วยเหลือตามสัญชาตญาณ
แค่มือเล็กๆ อันนุ่มเด้งทั้งสองข้างเตรียมจะยื่นออกอยู่กลางอากาศ ยังไม่ทันแตะถึงบานประตูด้วยซ้ำ จึงได้รับสารจากสายตาความเย็นชาของเวธัสทันที ราวกับเป็นการเตือนว่าไม่ให้เขาต่อด้าน
อรัลเม้มริมฝีปากที่แห้งผาก พร้อมทั้งร่วมหัวจมท้ายช่วยปัณณ์ในการยันบานประตูอย่างไม่ย่อท้อ
ณิชาไม่ได้ยินเสียงป้าเจน พลันสะบัดน้ำที่อยู่ในมือทั้งสองข้าง เมื่อออกจากห้องครัวมาก็เห็นเด็กน้อยสองคนกำลังพยายามดันบานประตูอย่างทุ่มเทเต็มสองตา
เพราะว่าใช้แรงมากเกินไป ใบหน้าเล็กๆ อันเกลี้ยงเกลาแดงระเรื่อ ฝ่ามือยังมีเส้นเลือดปูนขึ้นมา
เวธัสยืนอยู่นอกประตู พร้อมทั้งมองต่ำเพื่อดูการแข็งข้อของหนุ่มน้อยทั้งสองคนผ่านช่องแง้มประตู
เขาแสดงความรู้สบายมากบนใบหน้า
เมื่อหนุ่มน้อยทั้งสองคนพยายามใช้เรี่ยวแรงอย่างสุดกำลังดันบานประตูโดยแง้มเป็นช่องประมาณหนึ่งนิ้วโป้งนั้น เขาก็ใช้แรงอย่างเกียจคร้าน พลันเปิดแง้มให้ช่องว่างใหญ่เท่ากับกำปั้นทันที เด็กทั้งสองคนก็เริ่มดันออกมาทางด้านนอกอีก...
โดยทำซ้ำเช่นนี้อยู่หลายรอบ ให้ใครดูก็มองออก เขากำลังแกล้งลิงน้อยอยู่!
“น้องปัณณ์ น้องอรัล ปล่อยมือนะ” ณิชาเช็ดน้ำที่มือรอบๆผ้ากันเปื้อนจนแห้งสนิท พลางพูดกับเจ้าแฝดด้วยเสียงเข้ม
ปัณณ์กับอรัลไม่ยอมเอามาก “ให้ปีศาจกษัตริย์เข้ามาไม่ได้นะครับ! นี่เป็นบ้านของเรานะ!”
แต่เรี่ยวแรงแค่เพียงกระผีกยิบย่อยของพวกเขาเช่นนี้ จะไปเป็นคู่ต่อสู้ของเวธัสได้ยังไงกัน?
ณิชาเป็นห่วงว่าลูกชายจะเสียแรงเปล่า จึงใช้โทนเสียงเข้ม “ไม่เชื่อฟังกันแล้วใช่มั้ย?”
ปัณณ์กับอรัลสบตากันอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ จากนั้นก็นับ 1 2 3...
เจ้าแฝดจัดการปล่อยมือพร้อมๆ กัน!
เวธัสไม่ทันคิดในเวลานั้น บานประตูจึงถูกผลักเข้ามาทันที ร่างกายสูงใหญ่เซถลามาทางด้านหน้าอย่างไม่รู้ตัว โชคดีที่ศูนย์ถ่วงเขามั่นคงมาก ไม่มีสะดุด ได้แต่อาการซวนเซ และตกใจเล็กน้อย
ปัณณ์ถลึงตาใส่เวธัสอย่างโกรธเคือง นัยน์ตาทอประกายความเป็นอริศัตรูของสัตว์ตัวน้อยตามธรรมชาติ
“สวัสดีครับคุณหนูทั้งสอง ” เอกโผล่หน้ามาทางด้านหลังของเวธัส ในมือยังถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มากอีกใบหนึ่ง
อรัลชำเลืองมองเอกอย่างเงียบๆ อยู่แวบหนึ่ง ยังเป็นคนเริ่มเอ่ยทักทายก่อน “สวัสดีครับ คุณอาเอก”
“คนนี้คงเป็นคุณหนูอรัล คนนั้นน่าจะ...คุณหนูปัณณ์ใช่มั้ยครับ?” ทั้งสองคนแต่งตัวเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว เอกกลัวว่าตนเองจะจำผิดคน งั้นก็น่าอายมาก
ปัณณ์ส่งเสียงพึมพำในลำคออย่างจองหอง เชิดหน้าขึ้น “ใครเป็นคุณหนูของบ้านคุณ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับปีศาจกษัตริย์นี่นา!”
เอกยอมแพ้ พลางหันไปมองน้องอรัล “คุณหนูอรัลครับ?”
“ผมตัดสินใจว่าจะอยู่กับหม่ามี๊แล้วครับ” หนุ่มน้อยก็ตอบกลับอย่างเย็นชามาก ไม่มีความลังเลสักนิด
สายลมไซบีเรียตีพัดเข้ามา เอกเสียวสันหลังวาบ
เขาแอบเหล่ตามองสีหน้าของเวธัส คิดว่าเขาจะโกรธเคือง แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เดินเข้าไปในบ้านเอาเอง
เด็กน้อยทั้งสองคนยังอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ถูกณิชาห้ามเอาไว้
ณิชาขวางอยู่ด้านหน้าของเด้กน้อยทั้งสองคน พร้อมทั้งมองชายหนุ่มที่เดินก้าวฉับๆ เขาร่างกายสูงใหญ่ ในห้องนั่งเล่นที่คับแคบเช่นนี้ ราวกับทำให้ค้ำยันไปถึงเพดานห้อง จนทำให้คนรู้สึกกดดัน
สายตาคมกริบกวาดตามองสภาพแวดล้อมในห้องครัว โดยมีของเล่นชิ้นเล็กๆ มากมาย ตัวต่อและหนังสือต่างๆ อีกเล็กน้อย
“รองเท้าแตะล่ะ” เขาสั่งณิชา ซึ่งเป็นน้ำเสียงเอาแต่ใจเหมือนเคย
“ไม่ต้องหรอก เขาต้องกลับโรงแรม” คนที่ตอบณิชาไม่ใช่เอก แต่เป็นเวธัส
สีหน้าความสงสัยที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเอกพลางหายวับทันที พลันตอบตามน้ำตามคำตอบของเวธัสไป “ครับ คุณณิชา ผมต้องกลับไปโรงแรมแล้ว”
ณิชารู้ว่าเวธัสตั้งใจไล่เอกกลับไป
“คุณอาเอก ผมอยากให้คุณอาอยู่ด้วย!” ปัณณ์วิ่งส่ายก้นไปมายืนตรงหน้าเอก พร้อมทั้งใช้อุ้งมือเล็กๆ ดึงแขนของเขาไม่ยอมให้เขาไป โดยตั้งใจยิ้มเยาะเย้ยให้เวธัสด้วย “ไม่ต้องไปฟังปีศาจกษัตริย์หรอกครับ หม่ามี๊ทำกับข้าวอร่อยมาก วันนี้คุณอาลาภปากแล้วครับ”
เวธัสเหล่ตามองณิชาอย่างไร้ความรู้สึก ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างดูแคลน และหันไปถามณิชา “คืนนี้เขาต้องไปหาสาวที่โรงแรม คุณมั่นใจนะว่าต้องการทำเรื่องดีๆ ของเขาเสียอะ?”
“…” ณิชาหน้าแดงแปร๊ดทันที
เอกใบหน้าแผดเผาลุกไหม้มากกว่าเดิมทันที พลางพูดทิ้งท้ายอย่างสื่อความหมาย จากนั้นก็เตลิดหนีกลับทันที
ปัณณ์ฟังไม่เข้าใจว่าคำพูดนี้หมายถึงอะไร พลางจ้องมองณิชาอย่างสงสัย
“หม่ามี๊ ทำไมปีศาจกษัตริย์พูดจบ คุณอาเอกถึงได้เผ่นแน่บไปเลยล่ะครับ?”
“เพราะว่า...เขายังมีงานต้องไปทำนะสิครับ” ณิชารีบบอกปัดคำพูดคลุมเครือนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว พลางชี้ไปที่กระเป๋าสัมภาระ “จัดการลากกระเป๋าสัมภาระไปยังห้องของพวกลูกกับพี่ชายเสียนะ และเก็บให้เรียบร้อยด้วย”
แม้ว่าปัณณ์จะไม่เต็มใจว่าตนเองเป็นน้องชาย แต่ว่า... ณิชาก็ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้ว ว่าเขาเป็นน้องชายจริงๆ
เด็กหนุ่มทั้งสองคนใช้เรี่ยวแรงมหาศาลผลักกระเป๋าสัมภาระที่สูงกว่าพวกเขาเข้าไปในห้องอย่าง
เวธัสนั่งอยู่บนโซฟาอย่างสบายอกสบายใจ แววตาคมกริบเชือดเฉือนกวาดตามองทุกมุมภายในห้อง
บนโต๊ะมีกรอบรูปภาพอยู่จำนวนไม่น้อย ต่างเป็นรูปภาพเธอกับลูกสองคนถ่ายด้วยกัน
รอยยิ้มหวานหยดย้อยมาก โดยที่ไม่มีเขาเลย
หนึ่งในภาพนั้นก็มีธนาอยู่ด้วย!
แววตาเวธัสเย็นชาเล็กน้อย เมื่อได้ยินณิชาถามอย่างตำหนิ “ไม่ได้เชิญแต่ถือวิสาสะมาเองเลย ตกลงว่าคุณอยากจะทำอะไรกันแน่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...