ในเวลานี้ความอบอุ่นอ่อนโยนในตาของเวธัสก็จางหายไปจนหมดแล้วเหมือนกัน จมดิ่งอยู่ในความชั่วร้าย“นี่เป็นคำพูดจากใจจริงของคุณ?”
“ต่อหน้าคนตาย ฉันไม่พูดโกหก”
“เยี่ยม เยี่ยมไปเลย!”เวธัสก็ไม่ได้ไล่ถามต่อ ยิ้มออกมาด้วยความโมโหสุดๆ“ถ้านี่เป็นสิ่งที่คุณปรารถนา ผมก็จะทำให้สมดั่งความปรารถนาของคุณ”
ณิชารู้สึกหนาวเหน็บไม่น้อย พยายามบังคับให้ตัวเองยืนให้นิ่ง“ขอบคุณ”
เวธัสแทบอยากจะผ่าสมองของเธอออกมาดูว่าข้างในมันมีอะไรอยู่กันแน่ กวาดสายตามองเธออย่างเยือกเย็น พูดเตือนทิ้งท้ายเอาไว้“ต่อไปอย่ามาโผล่ให้ผมเห็นอีก ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาคุณจะรับไม่ไหวแน่นอน!”
พูดจบ เวธัสก็จากไปอย่างไม่หันกลับมาอีก
เขาจะไม่เสนอหน้ามาให้อัปยศอีกต่อไป
พูดให้ถูกก็คือ ก่อนที่จะหาสาเหตุเจอต่อให้ถามอะไรเธอต่อไปก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
เงาหลังของเขาไกลขึ้นเรื่อยๆ ณิชาเอามือปิดปากพยายามที่จะไม่ร้องไห้อย่างสุดชีวิต แต่ความปั่นป่วนในใจกลับไม่หยุดแม้แต่นาทีเดียว เธอทำได้แค่กัดหลังมือของตัวเอง ฝืนไม่ให้เสียงร้องของตัวเองเล็ดลอดออกไปทำให้เขาตกใจ……
ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่สุสานตามลำพังคนเดียวแบบนี้มานานเท่าไร ตอนที่เจนนี่วิ่งมาหาเธอ เธอถึงได้ดึงสติกลับมา
เวธัสเป็นคนไปแจ้งให้เจนนี่มา
ณิชายิ้มขอโทษตอบกลับไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“ขอโทษที่ให้เธอเป็นห่วง”
“ที่สำคัญที่สุดคือเธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เล่นเอาฉันตกใจแทบแย่ ต่อไปห้ามวิ่งหนีออกมาโดยไม่บอกไม่กล่าวสักคำแบบนี้อีกนะ มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าฉันตามหาเธอจนแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว……”เจนนี่ถอนหายใจออกมาอย่างแรง คืนโทรศัพท์ให้กับเธอ
ณิชาสไลด์เปิดหน้าจอ เห็นว่ามีสายโทรเข้ามาไม่น้อย นอกจากเจนนี่กับปัณณ์แล้ว ก็มีสายจากทางโรงพยาบาลด้วย
จะต้องเป็นผลการตรวจสอบตัวยาที่อยู่ในเข็มฉีดยาแน่นอน
เจนนี่ขับรถไปส่งณิชาที่ห้องแล็บโรงพยาบาล
หมอของแล็บปฏิบัติการเรียกณิชาเข้ามาในห้องทำงานตามลำพัง หยิบเข็มฉีดยาที่หักอันนั้นออกมาด้วยท่าทางเข้มงวดจริงจัง จ้องมองณิชา“คุณผู้หญิง คุณไปเอาสิ่งนี้มาจากที่ไหน?”
“เพื่อนของฉันฝากให้ฉันเอามาตรวจสอบน่ะค่ะ มีปัญหาอะไรเหรอคะ?”
พอหมอเห็นว่าเธอก็ไม่เหมือนคนร้ายอะไร ก็พูดขึ้นมาต่อ“ของเหลวสีเขียวที่อยู่ในนี้ พวกเราตรวจสอบดูแล้ว พิสูจน์แล้วว่าเป็นยาพิษชนิดร้ายแรงชนิดหนึ่ง ถ้าฉีดเข้าไปในร่างกายของคนจะทำให้สมองขาดอ็อกซิเจนเป็นระยะเวลาสั้นๆ แล้วกลายเป็นสภาพผัก กรณีรุนแรงก็ถึงขั้นทำให้สมองตายได้เลย”
สภาวะสมองขาดอ็อกซิเจน สภาพผัก สมองตาย?
คำพวกนี้ พอรวมเข้ากันแล้ว ทำให้ณิชารู้สึกตกใจไม่น้อย“นี่เป็นยาพิษ? ผิดพลาดอะไรตรงไหนหรือเปล่าคะ?”
“รายงานผลการตรวจสอบเท่านี้ ไม่เชื่อคุณก็ไปดูด้วยตัวเองได้นะแม่หนูน้อย ยาพิษประเภทนี้มันร้ายแรงมาก ต้องระวังดีๆล่ะ”หมอยื่นรายงานที่หนาเป็นปึกให้กับณิชา ตอนที่ณิชารับมา มือก็ยังสั่นกระส่ายอยู่ไม่น้อย
พอเจนนี่เห็นว่าเธอสีหน้าดูผิดแปลกไป ก็จูงเธอมาอยู่ข้างๆ พูดถามขึ้น“ไปเอายานี้มาจากไหน?”
“……หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับแม่ของฉัน ฉันกลับไปนั่งที่หมู่บ้านออเรนจ์อยู่สักพัก แล้วบังเอิญไปเก็บขึ้นมาจากพื้นน่ะ”
โชคดีที่เธอรู้สึกว่ามันแปลกมากๆก็เลยนำมาตรวจสอบที่โรงพยาบาล
ไม่อย่างนั้นความจริงที่เกิดเรื่องขึ้นกับสิดาจะต้องถูกฝังกลบไปตลอดชีวิตแน่นอน……
“หา? ในบ้านของคุณป้ามีของแบบนี้ได้ยังไง?”เจนนี่ถลึงสองตาโตด้วยความเหลือเชื่อ“คงจะไม่ใช่มีใครคิดที่จะวางยาพิษเธอหลอกใช่ไหม?”
คำว่าวางยาพิษคำนี้สะกิดเข้ามาที่ใจของณิชา เธอสั่นสะดุ้งไปทั้งตัว
“ฉันนึกออกแล้ว ก่อนที่แม่ของฉันถูกรถของ‘เวธัส’ชน เธอวิ่งออกมาข้างนอกด้วยความหวาดกลัว เหมือนกับมีคนวิ่งไล่ตามเธอมาจากข้างหลัง อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้ว่าคนคนนั้นวางแผนที่จะฉีดยาพิษเธอ ก็เลยวิ่งออกมาข้างนอกก็เป็นได้……”
“เป็นไปได้!ในกล้องวงจรปิดถ่ายติดไว้ไหมว่าใครเป็นคนไล่ตามคุณป้า?”
ณิชาส่ายหัว สีหน้าซีดขาว“ไม่มี แต่หลังจากที่เกิดเหตุรถชน คนที่แจ้งความพาแม่ของฉันไปส่งโรงพยาบาลเป็นคนแรกก็คือก้อย……”
“ฉันดูเธอก็ไม่เหมือนคนดีอะไรอยู่แล้ว นี่มันต่างอะไรจากการฆาตกรรม? แถมยังให้คุณเวธัสมารับผิดอีก”
ณิชากำรายงานผลการตรวจสอบไว้แน่น ความเย็นชาที่มืดมนแผ่ซ่านเข้ามาในตา
ท้องตอนที่เธออยู่ด้วยกันกับเวธัสในคืนนั้น!
เวธัสป่าเถื่อนขนาดนั้น ก็เลยไม่ทันได้ทำการคุมกำเนิด
พูดแบบนี้แล้วแสดงว่าเธอตั้งท้องลูกของเวธัสอย่างนั้นเหรอ?
เธอก็เลยรีบมาตรวจครรภ์โดยละเอียดที่โรงพยาบาลเอกชน ถือโอกาสมาสังเกตอาการของสิดาด้วยเลย
เธอถามกับหมอมาก่อนแล้ว โอกาสที่สิดาจะฟื้นขึ้นมานั้นมีไม่สูง ดังนั้นเธอก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษ
พอเธอกับเวธัสแต่งงานกัน คลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว ถึงตอนนั้นต่อให้สิดาฟื้นขึ้นมามันก็ไม่มีผลอะไรแล้ว
เธอจะเตรียมส่งคนไปดูแลเธอตลอดทั้งชีวิต ให้เธอได้สบายใจไร้ความกังวล
ทั้งสองฝั่งก็มาเจอหน้ากันในสถานการณ์แบบนี้
ก้อยท่าทางหยิ่งทะนง แม่บ้านสามคนช่วยกันพยุงอยู่ข้างๆ ณิชากับเจนนี่สีหน้าหดหู่ ไม่ได้แต่งหน้าก็ยิ่งดูสลดหดหู่ขึ้นไปอีกไม่น้อย แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ใบหน้าของณิชากับเจนนี่ก็นำห่างก้อยไปตั้งหลายขุม
ก้อยตอนที่เห็นณิชา แววตาก็สว่างวาบขึ้นมา หยิบการ์ดเชิญสีแดงออกมาจากกระเป๋าหนึ่งใบก่อนจะยื่นออกไป ป้องปากยิ้มกรุ้มกริ่ม……
“นี่ อย่าว่าฉันล้ำเส้นเลยนะ ถึงยังไงเธอก็เคยช่วยฉันไว้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันได้กลับมาเจอกับคุณยายแล้ว อาทิตย์หน้าคุณยายก็จะจัดงานเลี้ยงนับญาติที่ใหญ่โตให้กับฉัน เธอก็มาร่วมงานได้นะ”
การ์ดเชิญสีแดงปักด้วยด้ายสีทอง มีสัญลักษณ์มงคลของพิธีแต่งงาน ถ้าเกิดไม่รู้ก็นึกว่าเป็นการ์ดงานแต่งซะอีก
ณิชาเห็นแล้วรู้สึกขัดตาไม่น้อย
“งานเลี้ยงนับญาติ? เพื่อนบ้านที่ชนบทของเธอบอกว่า แม่ของเธอทิ้งเธอไปอยู่กับคนเมืองที่ฐานะร่ำรวยไม่ใช่เหรอ แล้วเธอจะเป็นลูกสาวของตระกูลรุ่งโรจน์ได้ยังไง? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีความเข้าใจผิดอะไรอยู่นิดหน่อยกันนะ?”เธอพูดเยาะเย้ย
รูม่านตาของก้อยหดลง เกิดความระแวดระวังและตื่นตระหนกขึ้นมา“เธอไปตรวจสอบฉันมาแล้ว?”
“แม่ของฉันเลี้ยงดูเธอดุจดั่งอัญมณีล้ำค่า แม้แต่ชีวิตของตัวเองก็ยังมอบให้กับเธอ ตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยไม่รู้ว่าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไร ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงยังยิ้มได้อย่างมีความสุขขนาดนี้อยู่? เธอช่วยสอนฉันหน่อยได้ไหมว่าทำยังไงถึงจิตใจด้านชาได้ขนาดนี้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...