กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 462

แต่ถึงยังไง หลังจากผ่านไปสองสามนาที คนที่ปรากฏมาตรงหน้าของคุณย่าศิริจันทร์กลับเป็นเจ้าเด็กน้อยที่เหมือนกับปัณณ์อย่างกับแกะคนหนึ่งเท่านั้น!

อรัลนิสัยเงียบๆมีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้ร่าเริงเหมือนกับปัณณ์ แต่ว่ามีดวงตาดำแววใสแป๋วเหมือนกับลูกกวางหนึ่งคู่ ตอนที่เขาจ้องมองมาที่คุณ ทำให้จิตใจรู้สึกรักเอ็นดูอยู่ไม่น้อย

อรัลปล่อยมือของเวธัส เดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าของคุณย่าศิริจันทร์ โค้งคำนับให้กับคุณย่าศิริจันทร์อย่างรู้เรื่องรู้ราว พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหน่อมแน้ม“คุณทวด”

คุณย่าศิริจันทร์รู้สึกช็อกตกใจ!

ถึงเธอจะรู้ก่อนแล้วว่าลูกที่ณิชาคลอดออกมาเป็นฝาแฝดที่น่ารักสองคน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะ……เหมือนกันขนาดนี้

ว่ากันโดยทั่วไปแล้ว ต่อให้ฝาแฝดจะเหมือนกันขนาดไหนแต่ก็จะมีความแตกต่างเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าง

แต่คุณย่าศิริจันทร์จ้องมองเด็กน้อยที่ดูขาวนวลมีออร่าตรงหน้านี้ ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเจอกับปัณณ์มาก่อน รู้ว่าปัณณ์เป็นเด็กที่ร่างเริงแจ่มใส ก็อาจจะคิดว่าน้องอรัลที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นปัณณ์ไปแล้ว

สองพี่น้องเหมือนกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเลยจริงๆ……

คุณย่าศิริจันทร์เก็บความตื่นตัวเอาไว้ในใจ ไม่ให้เวธัสเห็นท่าทางเสียอาการของเธอ พูดถามขึ้นอย่างรู้เท่าทัน“นี่นายหมายความว่ายังไง?”

“ณิชารักและเอ็นดูปัณณ์กับอรัลมาก ผมมาส่งพวกเขา เธอก็น่าจะดีใจมากๆ”แน่นอนว่าเวธัสไม่มีทางบอกว่าเขาเอาลูกมาเพื่อสร้างความรู้สึกดีๆอยู่แล้ว

ปัณณ์ก็เป็นเด็กที่ปรับตัวไปตามสถานการณ์คนหนึ่ง ณิชามีที่พึ่งพาแล้ว เขาก็ไม่สนพ่อแท้ๆของตัวเองอีก

แต่อรัลคาดหวังที่สุดว่าเขาจะได้อยู่ด้วยกันกับณิชา

คุณย่าศิริจันทร์ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้กับการที่จะให้เหลนมาอยู่ข้างกายของตัวเอง จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันกลายเป็นครอบครัวอย่างแท้จริง

เธอให้ตุ๊กพาเด็กน้อยไปหาณิชา ถือโอกาสไปเข้าชมคฤหาสน์ตระกูลรุ่งโรจน์ด้วย

ตอนที่เด็กน้อยจากไปแล้ว คุณย่าศิริจันทร์จึงได้พูดขึ้นมาอย่างช้าๆไม่รีบไม่เร่ง“น้องอรัลฉันให้อยู่ต่อ แต่พวกนายถ้าไม่มีธุระแล้วก็กลับไปซะ”

“มีสิครับ จะไม่มีได้ยังไง?” ประเสริฐพูดฉีกหน้าขึ้นมาด้วยความลนลาน “จันทร์ ผมมาขอโทษคุณแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมสับสน เข้าใจสถานการณ์ไม่ละเอียดดีพอ ก็เลยไปทำร้ายณิชา แต่เด็กทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันมาก พวกเราอย่าจับพวกเขาแยกจากกันเลยนะ”

พอในอนาคตกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว การที่เขาจะมาถึงที่นี่อีกครั้งก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว

คุณย่าศิริจันทร์เม้มปากเบาๆจิบชาไปหนึ่งคำ “ประเสริฐคุณนั้นยิ่งใหญ่เกรียงไกร แค่กระทืบเท้านิดเดียวก็ส่งผลกระทบไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ฉันก็แค่หญิงชราคนหนึ่งเท่านั้น จะไปกล้ารับคำขอโทษจากคุณได้ที่ไหนล่ะ? คุณเอาของที่รกรุงรังพวกนี้ของคุณกลับไปเถอะ”

ประเสริฐมาพบกับเธอ แน่นอนว่าไม่ได้มามือเปล่าอยู่แล้ว

เขาให้คนขับรถเอาของขวัญกองใหญ่โตมาด้วย นอกจากพวกของกำนัลก็เป็นพวกเครื่องประดับอัญมณีที่เหมาะกับวัยของหญิงชรา แต่คุณย่าศิริจันทร์แทบจะไม่แยแสสนใจเลยสักนิด

“จันทร์ ผมรู้ว่าผมทำเรื่องที่น่าละอายต่อคุณ แต่คุณจะเอาอคติที่มีต่อผม ไปทำให้ณิชากับเวธัสต้องทุกข์ยากลำบากไปด้วยไม่ได้นะ”

“ฉันบอกไปแล้ว ว่าฉันไม่เห็นด้วยกับเรื่องแต่งงานนี้ คุณฟังไม่รู้เรื่องหรือไง?”คุณย่าศิริจันทร์วางถ้วยชาลงบนโต๊ะเสียงดังปึง“ก่อนหน้านี้คุณบีบบังคับให้เวธัสกับณิชาของฉันหย่ากัน ฉันเตรียมทนายความไว้เรียบร้อยแล้วพอดี คุณนัดเวลามาสักวันจะได้ไปที่กรมกิจการพลเรือนด้วยกัน”

“ผมพูดเรื่องหย่าเมื่อไรกันล่ะ? ไม่หย่า!ไม่หย่าเด็ดขาด!”ประเสริฐหน้าคอแดงไปหมด

คุณย่าศิริจันทร์ก็สีหน้าเริ่มโมโหขึ้นมาแล้ว“อีกหน่อยหลานชายของคุณก็จะตายแล้ว ถ้าเกิดไม่หย่า จะให้หลานสาวของฉันเป็นหม้ายหรือไง? ฉันไม่ยอมถูกกลั่นแกล้งรังแกง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!”

“เอ่อ……”ประเสริฐอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกทันที

ถ้าเป็นคนอื่นมาบอกว่าเวธัสใกล้จะตายแล้วแบบนี้ เขาจะต้องทำให้อีกฝ่ายพูดไม่ได้อีกตลอดชีวิต แต่ผู้หญิงคนนี้ดันเป็นคุณย่าศิริจันทร์ เขาไม่สามารถหักล้างได้

เกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรมของตระกูลสนธิไชย คุณย่าศิริจันทร์ก็รู้มาตั้งแต่แรกแล้ว

ประเสริฐหมดหนทางทำอะไรไม่ได้ รู้สึกอุดอู้อยู่สักพักก่อนจะเค้นประโยคพูดออกมา“คุณต้องเชื่อการพัฒนาทางการแพทย์ในสมัยนี้สิ แถมธัสก็ยังช่วยสนับสนุนทีมแพทย์ไว้ตั้งมากมาย จะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องเอาชนะโรคนี้ได้แน่นอน”

“เป็นแบบนั้นดี แต่ถ้าเกิดโรคพวกนั้นของตระกูลสนธิไชยของพวกคุณติดต่อมาสู่เหลนของฉันขึ้นมา เหอะ……”คุณย่าศิริจันทร์ไม่ได้พูดเปิดเผยออกมา เจตนาข่มขู่ของเธอไม่บอกก็เข้าใจได้

ในขณะเดียวกันภายในใจก็แอบรู้สึกเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย

โต๊ะอาหารขนาดที่รองรับได้ยี่สิบคน ปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีเรียบ บนโต๊ะมีการจัดดอกไม้อย่างหรูหรา ดอกเบญจมาศสีชมพูกับดอกกุหลาบสีขาวดูเข้ากัน เสริมด้วยใบไม้สีเขียว สีไม่จัดมาก กลิ่นก็หอมกำลังพอดี

คุณย่าศิริจันทร์นั่งอยู่บนตำแหน่งอำนาจสูงสุดเหมือนอย่างเคย แต่ไหนแต่ไรก็เป็นพิภพกับพสิษฐ์สองพี่น้องนั่งขนาบข้างของคุณย่าศิริจันทร์มาโดยตลอด

แต่วันนี้ ทางด้านซ้ายของหญิงชราเป็นณิชากับปัณณ์ คนที่นั่งอยู่ทางด้านขวาคือชาลีกับอรัล

พิภพกับพสิษฐ์สองพี่น้องกลับอยู่แถวหลัง ทำให้บรรยากาศรอบโต๊ะอาหารมันดูผิดแปลกไปอย่างบอกไม่ถูก

ชาลีพอเห็นปลากะพงนึ่งจานหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าของพิภพ นึกขึ้นมาได้ว่าณิชาชอบกิน ก็เลยลุกขึ้นเอาปลากะพงนึ่งไปไว้ตรงหน้าของณิชา“พ่อครัวของตระกูลรุ่งโรจน์ฝีมือดีกว่าพ่อครัวของโรงแรมห้าดาวอีกนะ เธอลองชิมดูสิ”

ณิชาพยักหน้า จากนั้นก็รู้สึกว่าสายตาของพิภพเพ่งมาที่ตัวเองอย่างมืดมน

“ชาลีนายนี่ช่างเอาอกเอาใจสาวๆ เหลือเกินนะ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเอาใจใส่คุณย่าบ้างเลย”พิภพพูดขึ้นอย่างคลุมเครือคาดเดาความหมายไม่ได้

ชาลีกับณิชากลายเป็นจุดสนใจของเหล่าผู้คนอีกครั้ง

“ลุงคงจะไม่ได้รู้สึกหึงหวงหลานสาวหลอกใช่ไหม?”

พสิษฐ์มองน้องสองที่ถูกพูดจิกกัดอย่างเพลิดเพลินใจ ไอกระแอมก่อนจะพูดขึ้นด้วยท่าทางที่น่าเกรงขามในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่“ณิชาเพิ่งจะกลับมาที่ตระกูลรุ่งโรจน์น้องสองทำไมนายถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย? น้องเล็กไม่อยู่แล้ว พวกเราก็ต้องช่วยกันน้องดูแลลูกสาวของเธอให้ดีๆสิ”

พิภพยกมุมปาก อาหารมื้อนี้เริ่มรู้สึกไม่มีความอยากจะกินแล้ว

หญิงชรามองพวกคนที่อยู่ตรงกันข้าม ไม่อยากจะแยแสสนใจ ถามชาลีออกมาตรงๆ“ชาลี เมื่อไรหลานจะพาเจนนี่กลับมา? คนในตระกูลอยู่พร้อมหน้ากันหมดแล้ว เหลือเธอที่เป็นหลานสะใภ้แค่คนเดียวเท่านั้น”

“ละครออนไลน์ของเธอเริ่มถ่ายแล้ว ช่วงสองสามวันนี้ยังกลับมาไม่ได้ครับ”ชาลีพูดอธิบายออกมาทันเวลา

คุณย่าขมวดคิ้ว“เธอท้องแล้วยังไปถ่ายละครอีกเหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊