กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 470

เวธัสตอบอื้อกลับมาอย่างลวกๆหนึ่งที

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปซื้ออาหารหมากันตอนนี้เลยไหม?”ณิชาพูดเสนอขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจอีกครั้ง

เวธัสสีหน้าดำมืดเหมือนปกคลุมไปด้วยความมืดมิด“เดี๋ยวให้ลุงชัยซื้อแล้วกัน ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านก่อน ดึกมากแล้ว”

“ถ้าลุงชัยซื้อแต่มันก็ไม่ใช่ด้วยมือของฉันเอง แถมของที่มันก็ต้องการก็ยังมีอีกเยอะแยะ พวกเราไปเดินเลือกดูสักหน่อย ก็ถือว่าได้เดินเล่นด้วยกันกับฉันด้วย”

ณิชานอกจากความรู้สึกแปลกใหม่ที่จะได้เลี้ยงลูกหมาแล้ว ก็ไม่อยากกลับไปบ้านเร็วๆด้วยเหมือนกัน

รอยายหลับไปแล้ว เธอค่อยกลับไปยิ่งดี

เวธัสเห็นว่าเธอดีกับหมาจรจัดขนาดนี้ ก็เกิดความรู้สึกหึงหวงขึ้นมา“คุณตื่นเต้นกับการเลี้ยงหมามากกว่าออกไปทานข้าวกับผมอีกนะ”

ณิชาไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด ยิ้มแหะๆ“เพราะว่านี่คือประสบการณ์ที่แปลกใหม่ยังไงล่ะ ก็เหมือนกับปัณณ์กับน้องอรัลตอนที่ปลูกต้นไม้ครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นดีใจ จดบันทึกการรดน้ำต้นไม้แทบทุกวัน……”

เวธัสเงียบสงบ เขามีลูกแต่ยังไม่เคยไม่ซื้อของใช้ประจำวันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมาให้เป็นพิเศษเลยด้วยซ้ำ

ก็อิแค่หมาจรจัดตัวเดียว? ยุ่งยากวุ่นวายจริงๆ

ณิชาถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความสิ้นหวัง“ก็ได้ ให้ลุงชัยซื้อก็แล้วกัน แต่ต้องจำไว้นะว่าจะต้องซื้ออาหารสุนัขที่มีโภชนาการนะ ลูกหมาร่างกายอ่อนแอมาก”

เวธัสจ้องมองลงไปที่ผมดำเงาของหญิงสาว ในใจเหมือนมีอะไรมาขีดข่วน

……

ตอนที่ออกมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต เวธัสสีหน้าก็ยิ่งเย็นชา แต่ในมือกลับถืออาหารสุนัขหนึ่งถุง

ณิชาซื้อของมาอีกตั้งมากตั้งมาย แต่ของเหล่านั้นก็ล้วนแต่ไม่ใช่ของที่ต้องรีบใช้ เวธัสทิ้งที่อยู่ของคฤหาสน์สนธิไชยเอาไว้ให้พนักงานของซุปเปอร์มาร์เก็ตไปส่งถึงที่

เขาไม่มีทางเอาหมาตัวนี้ไปไว้ที่Martin Modernแน่นอน นั่นเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของพวกเขา ไม่ต้องการให้มันสอดแทรกเข้ามายุ่ง

รอยยิ้มตรงมุมปากของณิชากลับไม่ได้จางหายไป

ในแต่ละครั้งเขาเอาแต่ดูชั่วร้ายอยู่ตลอด ในความเป็นจริงแล้วเขาก็ยอมประนีประนอมเพื่อเธอ รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา จ้องมองเงาหลังของเขา รู้สึกเย็นสบายไปทั่วร่างกาย

เวธัสไปส่งเธอที่ คฤหาสน์ตระกูลรุ่งโรจน์ รถจอดห่างจากประตูทางเข้าคฤหาสน์ประมาณครึ่งกิโลเมตร

ก่อนที่ณิชาจะลงจากรถ ยื่นมือออกมาคล้องคอของเวธัสเอาไว้ เข้าไปจูบที่ริมฝีปากของเขา ตอนที่เดินเล่นอยู่ท่ามกลางสายฝนเมื่อตะกี้นี้ ก็อยากจะทำแบบนี้

ต่อมาเขาก็“ยอมอ่อนข้อ”ให้กับตัวเองอยู่ตั้งหลายครั้ง เธอก็ยิ่งอยากมากขึ้นไปอีก

ลิ้นชอนไชเข้าไป ตวัดในปากของเขาไปทั่วทุกตารางนิ้ว ลมหายใจของเขาเริ่มถี่มากขึ้น กัดริมฝีปากของเธอ มันทำให้เธอร้องครางออกมาเบาๆด้วยเสียงอู้อี้

เลือดเริ่มสูบฉีดพุ่งพล่านอย่างช้าๆ เวธัสเปลี่ยนมาเป็นผู้กระทำแทน ปรับพนักพิงเก้าอี้เอนลงไปข้างหลัง ร่างกายที่สูงใหญ่ขึ้นมาคร่อม เลื่อนริมฝีปากที่อ่อนนุ่มลงมา หยุดตรงลำคอที่ขาวเรียว

ณิชาพันเขาเอาไว้แน่นราวกับงูน้ำ ขึ้นๆลงๆภายในโลกแห่งประสาทสัมผัสที่เขานำพาเข้าไป สองมือจับเสื้อเชิ้ตของเขาเอาไว้แน่นจนเป็นรอยยับเต็มไปหมด

แต่ถึงยังไงที่นี่ก็ห่างจากคฤหาสน์ตระกูลรุ่งโรจน์ไปแค่สองสามร้อยเมตรเท่านั้น คนขับรถติดตามทั้งสองคนอยู่ตลอดเวลา

พอเห็นรถจอดนิ่ง แต่ยังไม่เห็นคุณณิชาลงมา คนขับรถก็นึกถึงคำสั่งของคุณย่าศิริจันทร์ขึ้นมา อารมณ์ซับซ้อนทันที เขาจะเข้าไปขัดจังหวะ? หรือจะรอถูกคุณย่าศิริจันทร์ไล่ออก?

สุดท้ายเหตุผลก็อยู่เหนือความรู้สึก คนขับรถเดินไปอยู่ตรงหน้ารถ

เขากำลังกะที่จะเคาะประตูรถเตือนทั้งสองคนว่าให้แยกจากกันได้แล้ว เสียงปึงก็ดังขึ้นมาก่อน ประตูรถมีคนเปิดออกมาจากข้างใน ชนเข้าหับปลายจมูกของคนขับรถ

คนขับรถเอามือกุมจมูกถอยหลังไปสองสามก้าว เงยหน้าขึ้น รู้สึกเหมือนเลือดจะไหล

เวธัสลงมาจากรถเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จูงณิชามือเดียว ถือร่มบังร่างกายที่ผอมบางของเธอเอาไว้อย่างระมัดระวัง

ณิชายังไม่ทันได้ดึงสติกลับมาจากความสนิทชิดเชื้อเมื่อตะกี้อย่างสมบูรณ์ แก้มแดง หูร้านผ่าว แล้วก็ไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางอับอายของคนขับรถด้วยเหมือนกัน

ก่อนที่จะไป ณิชาหันมองลูกหมาด้วยความรู้สึกเป็นห่วง นอนขดเป็นก้อนขนนุ่มฟู ดูเหมือนจะกำลังหลับอยู่ เธอเอามือไปลูบๆอย่างไม่กลัวสกปรก

“เป็นเด็กดีนะ หายไวๆ”

แม้ว่าลูกหมากำลับนอนหลับอยู่ แต่ก็ยังมาถูที่ฝ่ามือของณิชาอยู่หลายครั้งอย่างไม่ได้ตั้งใจ แถมยังแลบลิ้นออกมาด้วย……

จู่ๆเวธัสก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ยื่นมือข้างหนึ่งมาคว้าลูกหมาขึ้นมา แหวกขาทั้งสองข้างของมันออกแล้วมองดูโดยอาศัยแสงจากไฟถนน

ณิชามองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ด้วยความตกใจ

“คุณทำอะไร?”

เวธัสเส้นเสียงหนา“จะดูสักหน่อยว่ามันเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย”

“คุณณิชาครับ คุณท่านบอกเอาไว้แล้วว่า คุณต้องรักษาระยะห่างจากคุณเวธัสไว้นะครับ”

ณิชาเหลือบมองคนขับรถ ความตัวเล็กน่ารักเมื่อตะกี้นี้หายไปหมดแล้ว เหลือบมองท่าทีที่คับข้องใจถลึงตาโตจมูกแดงของคนขับรถ ทั้งรู้สึกตลกแล้วก็รู้สึกโมโห

“นายจะไปบอกกับยายก็ได้นะ ว่านายทำงานได้ไม่ดี ปล่อยให้ฉันกับคุณเวธัสแอบสนิทชิดเชื้อกันตั้งหลายครั้งหลายหน”

คนขับรถนิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออกทันที

“ฉันกับคุณเวธัสไม่มีทางหย่ากันแน่นอน แล้วในอนาคตเขาก็จะเป็นลูกเขยของตระกูลรุ่งโรจน์ด้วย นายทำงานอยู่ที่ตระกูลรุ่งโรจน์มานานหลายปีขนาดนี้ คงจะอยากทำงานต่อไปสินะ?”

นี่มันกำลังขู่กันชัดๆ!คนขับรถเผยให้เห็นถึงสีหน้าอึดอัดใจ“คุณณิชาพวกเราก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้นเองนะครับ”

ณิชาตบหัวแล้วลูบหลัง เลิกคิ้วพูดขึ้น“ขอแค่นายยอมปิดตาข้างเดียว ฉันก็จะให้พ่อบ้านเพิ่มเงินเดือนให้กับนาย รับประกันว่าตลอดทั้งชีวิตของนายไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องงานอย่างแน่นอน”

เดิมทีนึกว่าระบุความสัมพันธ์กับยายแล้ว เธอก็จะสามารถพูดโน้มน้าวท่านประเสริฐ ให้ได้อยู่ด้วยกันกับเวธัสได้สักที

แต่ตอนนี้ยายก็ดันมาขัดขวางเธอกับเวธัสอีก

ทำไมพวกเขาถึงเป็นอุปสรรคขัดขวางชีวิตขนาดนี้กัน?

……

เวธัสพาเจ้าหมาขนยุ่งตัวนี้กลับไปยังคฤหาสน์สนธิไชย ยิ่งมองก็ยิ่งขัดตา พยายามอดกลั้นความต้องการที่อยากจะขุดหลุมฝังมันเอาไว้ ฝากไว้ให้ลุงชัยดูแล

ลุงชัยอยู่ที่คฤหาสน์สนธิไชยมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นว่าเวธัสพาหมากลับมา ช็อกตกใจจนอ้าปากค้างอยู่นานสองนาน

“คุณเวธัส ลูกหมานี้คือ……”

“เอาไปขังไว้ที่ลานหลังบ้าน เลี้ยงดีๆ อย่าให้มันวิ่งเถลไถลไปไหน”เวธัสรังเกียจสุดๆ ไม่แม้แต่จะชำเลืองตามอง

ลุงชัยตอบรับอย่างมีความสุข รู้สึกว่าน่าประหลาดใจมาก คิดในอีกแง่มุมไม่แน่ก็อาจจะเป็นเจตนาของคุณหญิงก็ได้ ก็ยิ่งใส่ใจในการเลี้ยงดูลูกหมามากขึ้น

ในเวลานี้ เอกมาที่คฤหาสน์สนธิไชย นำผลที่เวธัสสั่งให้เขาไปตรวจสอบมาด้วย

ผลลัพธ์นี้ทำให้เอก……รู้สึกขนลุกซู่!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊