ช่วงบ่าย ณิชาได้รับโทรศัพท์จากเวธัส เขาต้องอยู่ทำโอทีที่บริษัท อาจจะกลับดึกหน่อย เลยไม่ได้อยู่ทานอาหารเย็นกับเธอ
ตั้งแต่ที่เจรจากันไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะเอาเด็กไว้ ช่วงก่อนหน้านี้ณิชาก็รู้สึกเป็นกังวลมากว่าเขาจะหลอกเธอ ช่วงเวลาปกติก็จะไม่กล้าออกไปกับเขาตามลำพัง แม้ว่าออกไปข้างนอกแล้วคุณยายส่งบอดี้การ์ดติดตามเธออยู่ตลอดเวลาก็ตาม
ดีที่ได้อยู่ด้วยกันมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความกังวลของเธอก็เลยไม่ได้มากขนาดนั้นแล้ว
เวธัสเป็นคนที่พูดอย่างไรทำอย่างนั้น ไม่ได้มีความคิดที่จะเอาลูกของเธอออกอีก
ช่วงเวลาเย็น ณิชาเปลี่ยนชุดนอนแล้วออกไปข้างนอก
“คุณผู้หญิง คุณจะไปไหนเหรอครับ?”คนขับรถพูดถามขึ้น
ณิชายิ้มอ่อน “พาฉันไปส่งที่สนธิไชยกรุ๊ป ฉันมีธุระที่ต้องไปเจอกับเวธัส”
“ครับผม”คนขับรถเปิดประตูรถออกอย่างเคารพนอบน้อม พยุงณิชาเข้าไปนั่ง ก่อนจะพูดหยอกล้อออกมา “ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายดีจริงๆนะครับ หวานหยดกันสุดๆเลย”
ณิชาเม้มมุมปากยกโค้งอย่างมีความสุข เข้าใจความหมายของเขา
“พอพวกคุณแต่งงานกัน คุณก็น่าจะย้ายออกไปสินะครับ?”ระหว่างทางที่ไปส่งณิขาที่สนธิไชยกรุ๊ป คนขับรถก็หาเรื่องพูดคุยเล่นกับณิชา “ถึงตอนนั้นคุณท่านจะต้องคิดถึงพวกคุณมากแน่ๆเลยครับ”
“ฉันจะกลับมาเยี่ยมคุณยายบ่อยๆ”
“แต่น่าเสียดายคุณเจนนี่นะครับ”คนขับรถทอดถอนใจ “ถ้าเธอตั้งท้องจริงๆ ปีหน้าคุณท่านก็จะมีเหลนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน คฤหาสน์ก็จะได้รื่นเริงมากขึ้น”
คนขับรถเพิ่งจะพูดถึงเจนนี่ เจนนี่ก็โทรวิดีโอคอลมาทันที สองตาดำเป็นหมีแพนด้า ดูเหมือนจะนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ สีหน้าดูเศร้าหมองและคับข้องใจ
ณิชาถือโอกาสนี้ถามเธอเกี่ยวกับข่าวของธามไท
เธอรู้อยู่แล้วว่า เมื่อก่อนเจนนี่มีธามไทเป็นไอดอล บางครั้งดึกๆดื่นๆนอนไม่หลับ ก็เปิดละครที่ธามไทเคยแสดงขึ้น ทำให้เคลิ้มหลับไป มุมปากเอาแต่พึมพำว่าสามีกล่อมฉันให้หลับ……
พอณิชาพูดถกขึ้นมา เจนนี่ก็หน้าแดงทันที “นั่นมันเป็นเรื่องกี่ร้อยปีมาแล้ว ฉันลืมไปหมดแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นผู้หญิงที่แต่งงานเรียบร้อยแล้วด้วย แล้วข่าวนั่นก็เป็นข่าวที่พวกนักข่าวเขียนขึ้นมามั่วซั่วทั้งนั้น”
“แล้วทำไมตาของเธอถึงแดงจากการอดหลับอดนอนล่ะ? สภาพเหมือนปล่อยตัวปล่อยใจสนองความใคร่จนเกินพิกัด หรือไม่ใช่ว่าพี่ชาลีวางอำนาจแสดงความเป็นเจ้าของใส่เธอหรอกหรือไง?”ณิชาลากโทนเสียงยาว น้ำเสียงตกใจ
“อุบ……”เจนนี่ถูกคำว่าปล่อยตัวปล่อยใจสนองความใคร่จนเกินพิกัดคำนี้ทำให้ตกใจจนสำลักน้ำลาย “ทำไมเธอแต่งงานแล้วถึงเปลี่ยนกลายเป็นคนลามกขนาดนี้กันนะ!ฉันก็แค่ถ่ายทำฉากตอนกลางคืนแล้วไม่ได้พักผ่อนเพียงพอก็เท่านั้นเอง……”
เธอปล่อยตัวปล่อยใจสนองความใคร่ของตัวเองชัดเจนเกินไปเหรอ……
คุณพระ!
“ถ้าอย่างนั้นรอยดูดที่คอของเธอก็ถูกยุงกัดอย่างนั้นสินะ?”ณิชาพูดแฉการเสแสร้งของเธออย่างไม่เกรงใจ
เจนนี่เขินอายจนรีบดึงคอเสื้อขึ้นมาทันที เอนโทรศัพท์ให้นอนราบลงไม่น้อย ให้กล้องเห็นแค่ใบหน้าของเธอเท่านั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายของณิชา “ก่อนหน้านี้ฉันยังเป็นห่วงอยู่เลยว่าเธอกับพี่ชาลีจะขุ่นเคืองใจกันเพราะว่าคุณยาย ตอนนี้ดีจริงๆ สามีภรรยารักใคร่กลมเกลียวกันดี ดูท่าอีกไม่นานฉันก็จะมีหลานแล้วสินะ ฉันจะบอกให้นะว่าพี่ชาลีใจอ่อนกับผู้หญิงมากๆเลยนะ เธอแค่พูดออดอ้อนเขาไม่กี่ประโยคเขาก็เชื่อฟังเธอทั้งหมดแล้ว……”
เชื่อฟังก็บ้าแล้ว!เจนนี่ต่อว่าอยู่ภายในใจ กำลังคิดว่าจะทำยังไงถึงจะขจัดรอยดูดไปให้โดยเร็ว?
พรุ่งนี้เธอยังต้องไปที่กองถ่ายอีกนะ……
ดังนั้น สิ่งที่ณิชาไม่รู้คือ ในคืนนั้นเจนนี่ให้พ่อครัวเอามะระมาทำเป็นอาหารจนเต็มโต๊ะ ผัดมะระ ยำมะระ มะระยัดไส้ มะระต้มเผือกเป็นต้น
เอามะระมาดับร้อน!
พอเห็นชาลีจ้องมองโต๊ะที่เต็มไปด้วยมะระด้วยสีหน้าดำมืดแล้ว เจนนี่ก็อารมณ์ดีสุดๆ
……
เนื่องจากณิชาตั้งท้อง คนขับรถก็เลยขับรถให้นิ่ง ตอนที่มาถึงสนธิไชยกรุ๊ปอย่างช้าๆนั้น ก็เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว
เธอโทรศัพท์ไปสั่งอาหารที่โรงแรมระดับสูงเอาไว้ล่วงหน้า จากนั้นก็เดินเข้าไปในตึก
เลขาที่อยู่หน้าห้องของท่านประธานพอเห็นณิชามาถึงแล้ว ก็เหมือนกับเจอคนที่มาช่วยชีวิตอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่สดใสที่สุด ต้อนรับเธออย่างกระตือรือร้น “คุณณิชา สวัสดีค่ะ!”
“สวัสดีทุกคน ทำงานลำบากกันแล้วนะ……”ณิชาตอบกลับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ไม่ลำบากหรอกค่ะ การที่สามารถทำงานให้กับบริษัทถือเป็นเกียรติของพวกเราแล้วค่ะ!”ทุกคนก็ยิ้มหรี่ตาพร้อมกับพูดออกไปตามมารยาทของการอยู่ในสังคม
“คุณเวธัสล่ะ ยังทำโอทีอยู่ในห้องทำงานเหรอ?”สายตาของณิชามองไปยังห้องทำงานของเวธัส จริงๆแล้วเธอไม่ได้มาที่บริษัทบ่อยมากนัก มีหลายครั้งที่ให้โทนี่กับเอกมาจัดการแทน
ก๊อกๆๆ
ณิชาเคาะประตูห้องทำงานของเวธัส ได้ยินเสียงของผู้ชายที่ไพเราะเสนาะหูน่าดึงดูด แต่กลับแฝงไปด้วยความกดขี่ข่มเหงดังออกมาจากข้างใน “เข้ามา!”
ณิชาสูดหายใจเข้าลึกๆ วางอำนาจบาตรใหญ่……
เธอเปิดประตูเข้าไป
รังสีที่ดุเดือดรุนแรงก็พุ่งถาโถมเข้ามา
เวธัสนั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้จันทร์ ถือโทรศัพท์มือเดียว ไม่รู้ว่าคนในสายคือใคร ได้ยินแค่น้ำเสียงของเขาที่เย็นชาถึงขนาดที่เกือบเยือกเย็นไร้ความเมตตา “ถ้าก่อนสิ้นปีนี้บริษัทยังไม่ได้รับเงินก้อนนั้น ก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายตามข้อตกลงเดิม ทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป”
ก่อนจะนิ่งเงียบไปสักพัก แล้วก็ได้ยินเขาพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันไม่มีอารมณ์จะไปเจอเขา ที่ดินหรือไม่ก็คืนเงิน ให้เขาเลือกมาหนึ่งอย่าง”
น้ำเสียงในลำคอที่ทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความหยิ่งทะนงและดูถูก ให้ความรู้สึกกดดันสุดๆ
หัวใจเหมือนหยุดเต้นกะทันหัน……
น่ากลัวสุดๆ!
ไม่แปลกที่แม้แต่โทนี่ก็ยังไม่กล้าเข้ามาตามอำเภอใจ!
“จะมัวยืนอยู่ตรงนั้นทำอะไร? รีบวางของแล้วก็ออกไปซะ”พอวางสายลง เวธัสก็จัดการเอกสารต่อโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว ริมฝีปากบางๆเม้มเอาไว้อย่างเย็นชา
ณิชาเดินตรงเข้าไปด้วยสีหน้าสงบนิ่ง วางเอกสารไว้บนโต๊ะทำงานของเวธัสไปทีเดียว
บนโต๊ะของเขามีเอกสารมากมายวางกองเอาไว้ ทำเอาเอกสารหลายสิบฉบับพวกนี้ก็ดูปกติธรรมดาไปเลย
พอเวธัสดูเอกสารฉบับหนึ่งเสร็จ ก็เซ็นชื่อลงไปที่หน้าสุดท้ายของเอกสาร พอเห็นว่าผู้หญิงที่มาส่งเอกสารยังไม่ได้จากไป คิ้วก็ขมวดขึ้นมา “ฉันให้เธอออกไป เธอหูหนวก……”
ตอนที่เห็นใบหน้าที่ใสสะอาดของณิชา ครึ่งประโยคหลังก็ค้างเอาไว้ทั้งอย่างนั้น “เป็นคุณไปได้ยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...