"อึก" น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลเป็นสายอาบสองแก้มสากเมื่อไพลินเดินออกไปแล้ว ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่จนไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ ราวกับหัวใจถูกเธอพรากไปด้วย ทั้งที่สมองมันสั่งให้วิ่งออกไปเหนี่ยวรั้งเธอไว้ แต่ร่างกายมันกลับหมดเรี่ยวแรงที่จะเดินออกไป
"อึก" บดินทร์ค่อยๆซบหน้าลงบนฝ่ามือสั่นเทา ปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาตอกย้ำความเจ็บปวดที่เกินจะรับไหว ใช้หัวใจคิดทบทวนการกระทำและคำพูดของตัวเองเมื่อสักครู่ เขาถามตัวเองซ้ำๆว่าเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ของไพลินมากพอรึยัง มากพอที่จะเป็นฝ่ายเดินกลับไปร้องขอความซื่อสัตย์จากเธออีกครั้งรึเปล่า
มันจริงอย่างที่ไพลินว่า เขาตัดสินเธอไปแล้วจากภาพที่เห็น ไม่แปลกที่เธอจะตัดพ้อขอความซื่อสัตย์ของเธอคืน แต่ในขณะเดียวกันความเชื่อใจที่เขามีให้เธอมันก็ลดน้อยลงจากการกระทำของเธอและสิ่งที่เขาเห็น เธอกำลังเรียกร้องความเชื่อใจจากเขา ในขณะที่เขากำลังเรียกร้องความซื่อสัตย์จากเธอ
"อึก" บดินทร์เงยหน้าขึ้นมาเจอกับความว่างเปล่าอีกครั้ง เสียงสะอื้นไห้ของไพลินที่หายไปตอกย้ำว่าเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว มือสองมือที่เคยจับกันแน่นมันกำลังคลายออกจากกัน
บางครั้งการหันหน้าคุยกันก็ไม่ใช่ทางออกของทุกปัญหา บางทีการเว้นระยะห่างสักพักอาจจะทำให้เขาและเธอเข้าใจความรู้สึกของกันและกันมากยิ่งขึ้น ทั้งเขาและเธอคงต้องทบทวนตัวเองอีกครั้งหากจะกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เมื่อการคุยกันไม่ใช่ทางออก การถอยคนละก้าวก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขาและเธอ
"เฮียยังเหมือนเดิมนะ" บดินทร์ก้มหน้าพูดกับตัวเอง แม้จะเจ็บปวดแต่ความรู้สึกยังคงเดิม เขายังรักเธอเหมือนเดิมแม้จะโดนทำร้ายความรู้สึก หรือบางทีไพลินอาจจะไม่ได้ทำร้ายความรู้สึกของเขา แต่เป็นเขาเองที่ทำร้ายมัน
@คอนโดของไพลิน
ไพลินเดินเข้ามาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนอนที่คุ้นเคยอย่างหมดเรี่ยวแรง นับตั้งแต่ที่น้ำตาหยดแรกร่วงหล่นมันก็ยังคงรินไหลเป็นสาย ยิ่งพยายามกลั้นเท่าไร มันก็ยิ่งไหลออกมาตอกย้ำความเจ็บปวด
"อึก..ฮือออ" เธอค่อยๆยกมือสั่นเทาขึ้นมาปิดหน้าหวังปกปิดคราบน้ำตา แต่ยิ่งพยายามปกปิดมัน ก็เหมือนกำลังหนีความอ่อนแอของตัวเอง
เธออ่อนแอเกินกว่าจะแบกรับความเจ็บปวดครั้งนี้ที่ไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน เหนื่อยล้าที่จะเดินต่อ หมดเรี่ยวแรงที่จะพยายามเพื่อใครสักคน ตอนนี้ความเข้มแข็งมันแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนแอ เธอไม่พร้อมจะพยายามเพื่อใคร หรือแม้แต่พยายามเพื่อตัวเอง
เปลือกตาบางปิดลงช้าๆขณะที่น้ำตายังคงรินไหล เธอบอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็งกว่านี้ แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันที่เธออ่อนแอที่สุดก็ตาม
@วันต่อมา
"ลิน!" นาร์เนียเอ่ยเรียกเพื่อนรักเสียงหลงเมื่อเห็นไพลินเดินเข้ามาในลานใต้ถุนของคณะฯด้วยสภาพอิดโรยราวกับคนอดหลับอดนอนมาทั้งคืน รอบดวงตาคู่สวยที่เธอเคยมองว่ามีเสน่ห์ตอนนี้แดงก่ำและบวมเป่ง บ่งบอกได้ว่าไพลินผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
"ลินทะเลาะกับพี่บดินทร์เหรอ" เด็กสาวถามหน้าเครียดเมื่อเห็นสายตาเหม่อลอยของเพื่อนรักในตอนที่ไพลินเดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม เธอรีบย้ายตัวเองไปนั่งข้างๆไพลิน
"ลินโอเคไหม" นาร์เนียถามด้วยความห่วงใย สีหน้าของเธอเป็นกังวล "เมื่อวานเนียไม่ได้บอกพี่บดินทร์นะ แต่ตอนที่ลินเดินออกไปพี่บดินทร์เขาเดินมากับเฮียเหมพอดี เฮียเหมบอกว่าอาจารย์ยกคลาสเพราะติดประชุม พี่บดินทร์เลยเดินมาเห็นพอดี"
"..." ไพลินเพียงแค่นั่งฟังเงียบๆ แม้จะมีสติรับฟังแต่แววตาของเธอว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึก
"เนียอยากโทรบอกลินก่อนว่าพี่บดินทร์เห็นแล้ว แต่เฮียเหมบอกว่าให้ลินกับพี่บดินทร์เคลียร์กันเอง เมื่อวานเนียกลัวลินทะเลาะกับพี่บดินทร์มากเลย แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย"
"..."
"ลินโอเคไหม"
"ดินไม่ฟังฉัน..อึก..เขาไม่พร้อมจะรับฟังอะไรเลย เขาตัดสินฉันจากสิ่งที่เขาเห็น..อึก..แต่เขาไม่เคยมองเห็นว่าฉันพยายามเพื่อเขาขนาดไหน"
"..." นาร์เนียลูบหลังเพื่อนรักเบาๆเมื่อไพลินเริ่มสะอื้นไห้แรงขึ้นราวกับจะขาดใจ
"ฉันตั้งใจจะบอกความจริงกับเขาอยู่แล้ว..อึก..แต่ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว...ฉันเหนื่อยที่ต้องพยายามเพื่อเขาแล้ว..ฮือออ"
"ลินใจเย็นๆนะ เนียว่าตอนนี้พี่บดินทร์อาจจะพร้อมรับฟังลินแล้วก็ได้นะ"
"อึก..."
"พี่บดินทร์เขาไม่เคยมีแฟน แล้วเขาก็หวงลินมาก เขาเห็นลินไปกับผู้ชายคนอื่นก็ต้องหึงเป็นธรรมดา ตอนนี้พี่บดินทร์คงใจเย็นลงแล้ว เนียว่าคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่าไหม"
"ฉันพอแล้ว ฉันเหนื่อย..อึก..บางทีอาจจะเป็นฉันเองก็ได้ที่รักเขาไม่มากพอ เลยยอมปล่อยมือจากเขาง่ายๆ"
"..."
"แต่ฉันไม่อยากทำร้ายตัวเอง..อึก..ถ้าตรงนั้นมันไม่ใช่ความสุขของฉันแล้วฉันจะเดินออกมา..กลับมาอยู่ในที่ๆตัวเองมีความสุขเหมือนเดิม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กำราบรัก 20+