@โรงพยาบาล
"อื้อ~" แสงสว่างจ้าจากหลอดไฟบนเพดานส่องกระทบลงมาบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ช่วยปลุกเขาให้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
บดินทร์เปล่งเสียงครางอื้อในลำคอเบาๆขณะขยับแขนขาเล็กน้อยเพื่อคลายความเมื่อยล้า อาการปวดศีรษะอย่างหนักตรงเข้าเล่นงานทันทีที่สมองเริ่มทำงานอีกครั้ง แต่สีหน้าของเขาก็ไม่ได้แสดงความเจ็บปวดออกมามากมายนัก
มุมปากหนายกยิ้มเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นใครบางคนนอนขดตัวหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาตัวยาว โดยใช้มือทั้งสองข้างของตัวเองเป็นที่หนุนนอน ใครบางคนซึ่งเป็นเจ้าของคำพูดสุดท้ายที่เขาได้ยินก่อนที่สติจะดับวูบไป
ไพลินยังอยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำของเมื่อคืน บอกได้ว่าเธอนอนอยู่กับเขาในห้องนี้ตลอดทั้งคืน เมื่อมองต่ำลงมายังเห็นรองเท้าส้นสูงกว่าห้านิ้วของเธอถอดวางอยู่หน้าโซฟา บนโต๊ะกระจกเล็กๆถูกใช้เป็นที่วางกระเป๋าสะพายข้างและโทรศัพท์เครื่องหรูของเธอ
"ลิน" เขาเอ่ยเรียกเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เมื่อเห็นว่าเธอยังนอนหลับสนิทจึงเรียกดังขึ้น
"ลิน!"
"อื้อ~" เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้ไพลินเริ่มขยับพลิกตัวไปมา เธอยืดแขนยืดขาบิดขี้เกียจทั้งที่เปลือกตาทั้งสองข้างยังปิดสนิท นานนับนาทีกว่าเธอจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา
ไพลินไม่ได้ชะงักไปที่มองเห็นบดินทร์นอนลืมตาอยู่บนเตียง และพยายามจะหยัดกายลุกขึ้น เธอนอนมองเขาเงียบๆพลางปิดปากหาวหวอดๆ ก่อนจะค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นทั้งที่ยังงัวเงีย แล้วเดินเท้าเปล่าเข้าไปปรับเตียงให้
"ชื่ออะไร"
"หือ?" บดินทร์ขมวดคิ้วมึนงงเมื่อจู่ๆไพลินก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาถามหน้าเครียด
"ถามว่าชื่ออะไร นายจำชื่อตัวเองได้ไหม"
"ควรเลิกดูหนังน้ำเน่าสักพักนะ" เขาหลุดยิ้มกับคำถามของไพลินเมื่อเริ่มเข้าใจการกระทำของเธอ พร้อมกับใช้หลังมือตีปลายจมูกเชิดรั้นเบาๆ
"เมื่อคืนนายโดนตีหัวแรงมาก ฉันกลัวว่ามันจะกระทบกระเทือนจนนายความจำเสื่อม" ไพลินเลื่อนใบหน้าออกห่าง พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ปวดแผลมากไหม" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความห่วงใย แล้วยกมือขึ้นมาสัมผัสผ้าพันแผลที่พันอยู่รอบศีรษะของเขาเบาๆ
"ปวดมาก" บดินทร์ทำหน้าเจ็บปวดจนไพลินที่มองอยู่รู้สึกเจ็บไปกับเขาด้วย แล้วค่อยๆซบศีรษะลงบนเนินอกอวบอิ่ม "แต่ถ้าแบบนี้ไม่ค่อยปวด"
"เรียกหมอมาดูอาการหน่อยดีไหม"
"ไม่ต้องเรียกเดี๋ยวมันก็เข้ามาเองนั่นแหละ"
"แต่ถ้าปวดมากฉันว่าเรียกหมอมาดูอาการหน่อยก็ดีนะ"
"มันปวดมาก แต่ก็พอทนไหว" เขาค่อยๆยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดเอวเธอไว้
"ฉันไลน์ไปบอกยัยนาร์เนียแล้วนะว่านายโดนทำร้าย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เดี๋ยวสายๆเฮียเหม พี่สหรัฐกับพี่ต้นน้ำคงแวะเข้ามา"
"แล้วเธอล่ะ จะอยู่ด้วยกันก่อนไหม"
"ฉันมีเรียนทั้งวัน นายฟื้นตอนนี้ก็ดีแล้ว ฉันต้องรีบกลับไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดก่อน" ไพลินค่อยๆดันศีรษะของบดินทร์ออกห่างจากเนินอกเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดลงมาถี่ๆ พร้อมกับใช้มือสางผมให้เขาอย่างลืมตัว
"เอ่อโทษที ลืมตัว" เธอรีบดึงมือกลับมาเมื่อฉุกคิดได้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นแล้ว
บดินทร์อมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะจับมือของไพลินขึ้นมาวางบนศีรษะอีกครั้ง
"เล่นสิ เธอเล่นได้อยู่แล้ว"
"ไม่ดีกว่า เดี๋ยวโดนแผลนาย"
"แผลแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก"
"ไหนเมื่อกี้บอกว่าปวดมากไง"
"แถสีข้างถลอกหมดแล้วไอ้ห่า" ต้นน้ำที่ยืนกอดอกฟังอยู่ใกล้ๆแดกดันอย่างนึกหมั่นไส้ "ไหนมึงลองบอกมาดิ๊ว่าทำไมมึงถึงยอมโดนฟาดฝ่ายเดียว ถ้าจะบอกว่าสู้ไม่ไหวมึงตอแหลไม่เนียนนะ กูเป็นเพื่อนมึงมาตั้งแต่เรายังใส่กางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน กูรู้สันดานมึงดีว่ามึงเป็นคนยังไง"
"ถ้ามึงโดนฟาดจนเลือดอาบขนาดนั้น นิสัยของมึงไม่ยอมจบที่โดนหามส่งโรงพยาบาลแน่ คนอย่างมึงมันบ้าเลือดจะตาย" สหรัฐหรี่ตามองอย่างจับผิด
"พวกมันเล่นทีเผลอ กูไม่ทันตั้งตัว"
"นั่นแหละที่จะทำให้มึงเลือดขึ้นหน้ามากกว่าเดิม มึงเกลียดพวกหมาลอบกัด ไม่ต้องเดากูก็รู้ว่ามึงต้องรีบลุกขึ้นไปกระทืบพวกมันคืนจนได้เลือดเหมือนกัน ยอมตายไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี กูรู้จักสันดานมึงดี" ต้นน้ำยื่นหน้าเข้าไปใกล้ "บอกมาว่ามึงคิดจะทำอะไร มึงตอแหลหมอกับน้องไพลินได้ แต่มึงตอแหลพวกกูไม่ได้"
"ทำไมพวกมึงไม่อยู่เงียบๆเหมือนไอ้เหมบ้างวะ" บดินทร์ชักสีหน้ารำคาญใส่เพื่อนรักทั้งสองคน
"แล้วใครที่มันทำมึงวะ" เหมราชถาม
"พวกห้าวตีนมั้ง กูไม่รู้จัก"
"แต่ดูๆแล้วก็น่าสงสารมึงนะ ลงทุนโดนกระทืบขนาดนี้น้องไพลินยังไม่สนใจเลย" ต้นน้ำหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะก้าวขึ้นไปนอนเบียดกับบดินทร์บนเตียง
"ถอยๆๆ กูจะนอน มึงไปนั่งกับไอ้เหมนู้นไป น้องไพลินมาเมื่อไหร่ค่อยเล่นละครใหม่"
"เพื่อนเหี้ย" บดินทร์กระแทกศอกใส่หน้าต้นน้ำเบาๆ ถึงอย่างนั้นก็ยอมลุกออกมา
"พวกมึงไม่คิดจะซื้ออะไรมาให้กูกินเลยเหรอวะ หิวฉิบหาย"
"อยู่กับพวกกูมึงไม่ต้องตอแหล ขอร้องกูไม่อยากดูมึงเล่นละคร" สหรัฐว่าให้ แล้วก้าวขึ้นไปนอนเบียดกับต้นน้ำ
"ไอ้เหมเอาเงินมาดิ๊ กูหิว" บดินทร์ดึงสายน้ำเกลือออกจากหลังมือ แล้วเดินเข้าไปแบมือขอเงินจากเหมราช ซึ่งเหมราชก็โยนกระเป๋าสตางค์ใบหรูให้อย่างว่าง่าย
"ซื้อมาเผื่อกูด้วย!" ต้นน้ำตะโกนบอกในตอนที่บดินทร์กำลังจะเดินออกไป แล้วหันความสนใจกลับมาที่หน้าจอมือถือเหมือนเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กำราบรัก 20+