ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1098

เย่เทียนไม่นึกไม่ฝันว่าคนที่มาหาตนจะเป็นแวมไพร์ตัวหนึ่ง!

แถมอีกฝ่ายยังเข้ามาถึงในศูนย์บัญชาการใหญ่ของมนุษย์หมาป่าด้วย ร่างกายที่สั่นเทาราวกับแค่แตะก็จะล้อมแล้ว

“นึกไม่ถึงว่าตาแก่โมปัสซองต์จะออกเคลื่อนไหว ดูท่าครั้งนี้พวกเผ่าเลือดคงถึงคราววิกฤทธิ์แล้วสินะ!” พอเชคอฟเห็นเขาก็อดที่จะพูดเยาะเย้ยไม่ได้ พร้อมกับสีหน้าที่ดูถูก คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเขาจะลงมือตอนนี้แล้ว

“คนเราแก่แล้ว ก็ต้องคิดเผื่ออนาคตบ้าง คุณว่าใช่มั้ย?” ถึงโมปังซองต์จะตอบเชคอฟ แต่สายตากลับมองมาที่เย่เทียนแถมยังเผยรอยยิ้มที่เด่นชัดออกมา เห็นแล้วก็ทำให้รู้สึกขนลุกขึ้นมา

“ผมไม่ค่อยเข้าใจ” เย่เทียนต้องไม่เชื่อใจตาแก่หนังเหี่ยวอย่างพวกแวมไพร์อยู่แล้ว ความจริงตาแก่นี่ให้ความรู้สึกที่อันตรายกับเขา!

อย่าคิดว่าเหมือนจะล้มเอาง่ายๆ แต่เย่เทียนมีเหตุผลที่จะเชื่อว่า ในตอนที่เขาคิดจะลงมือ มือที่เหมือนกับเถาวัลย์คู่นั้นต้องเข้ามาล็อกอยู่ที่คอเขาอย่างรวดเร็วแน่นอน!

ความรู้สึกแบบนั้นเย่เทียนไม่มีทางอยากรู้แน่นอน

“บอกความต้องการของคุณมา!” เย่เทียนก็ไม่ใช่คนที่ชอบต่อรอง จึงได้ถามไปตรงๆ

โมปัสซองต์ขำออกมาเบาๆ แล้วพูดออกมาเบาๆ สามพยางค์ว่า “ออนนีฮาน!”

เย่เทียนหรี่ตาลง จากนั้นก็หันไปส่ายหน้าให้ออนนีฮาน สุดท้ายก็พาโมปัสซองต์เดินเข้าไปในห้องโถง

ไม่มีใครรู้ว่าเย่เทียนคุยอะไรกับเขาในนั้น แต่ตอนที่โมปัสซองต์ออกมาแล้วจากไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“นี่คุณเชื่อใจตาแก่นั่นจริงๆ เหรอ? ถ้าจะให้เปรียบเทียบจริงๆ ตาแก่นี่ก็คืองูพิษที่ฉลาดที่สุดในเผ่าเลือดแล้ว คนที่เสียท่าให้เขามีมากมายนับไม่ถ้วนแล้ว!” เชคอฟพูดพร้อมขมวดคิ้ว

เย่เทียนตบๆ ไหล่เขา “ความจริงแล้วเผ่าเลือดร้อนรนกว่าที่เราคิดอีก!”

“เพราะเรื่องของออนนีฮาน สันตะปาปาได้ทำการกวาดล้างพวกเขาด้วยเลือดแล้ว ในตอนที่ทุกคนคิดว่าสิ้นสุดแล้ว ออนนีฮานกลับแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ คุณคิดว่าพวกเขายังมีหนทางให้ดิ้นรนอีกเหรอ?” เย่เทียนทำเสียงฮึดฮัด “อย่าลืมว่าคนที่หนุนหลังออนนีฮานคือสันตะปาปา!”

ถึงแฟลิกส์จะอยากควบคุมออนนีฮาน แต่ตอนที่ออนนีฮานเตรียมจะลงมือเขาก็ยังจัดครูเสด สันตะปาปาให้เขาทีมหนึ่ง

“คนพวกนี้ฉันยกให้แก อย่าสร้างปัญหาให้ฉันอีก!” แฟลิกส์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจจากนั้นก็ออกไป ออนนีฮานหันไปมองเหล่าทหารม้าที่อยู่ข้างๆ รอยยิ้มที่มุมปากก็เด่นชัดขึ้น หลังจากที่พยักหน้าอย่างพอใจ เขาก็ค่อยๆ ยกแขนขึ้นมา

“ออกเดินทาง!”

การที่ครูเสด สันตะปาปาเคลื่อนไหวอีกครั้งมันก็ดึงดูดสายตาของคนได้ไม่น้อย ส่วนออนนีฮานก็รู้จักที่ซ่อนตัวของเผ่าเลือดดีจนไม่รู้จะดียังไงแล้ว หลังจากที่ลอบโจมตีไปหลายครั้งเขาก็ต้องขมวดคิ้ว

คนที่อยู่ที่นี่มีแต่พวกลูกกระจ็อกทั้งนั้น ไม่มีพวกตาแก่ที่ใกล้ลงโรงขององค์กรอยู่เลยสักคน!

ส่วน โถงบาปกำเนิดนั้น…โอเค ต่อให้รู้ว่าตาแก่พวกนั้นหลบอยู่ที่นั่น ออนนีฮานก็ไม่กล้าคิด โถงบาปกำเนิดไม่ใช่สถานที่ที่จะไปอาละวาดตามใจชอบได้ ถ้าไปทำอะไรโดยพลการนั่นก็อาจถึงตายได้!

มาถึงอย่างดุดัน แต่กลับฆ่าลูกกระจ็อกได้ไม่กี่คนมันไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้ แต่สายข่าวของสันตะปาปาที่อยู่ตรงนี้ค่อนข้างยิ่งใหญ่

ออนนีฮานไม่เคยเจอเย่เทียน แต่การที่วันนี้ออนนีฮานต้องตกอยู่ในสภาพนี้เขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนกัน ตอนนี้พอเห็นเย่เทียนทำหน้ายิ้มแย้ม ออนนีฮานก็หรี่ตาลง

“นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าคนที่ทำลายแผนการของฉันครั้งแล้วครั้งเล่าจะเป็นแก!”

เย่เทียนยักไหล่ “ผมเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าคนอย่างคุณจะกลายเป็นหมาตัวหนึ่งของสันตะปาปา!” คำพูดขอเย่เทียนทำให้ใบหน้าของเชคอฟที่อยู่ข้างๆ กระตุกขึ้นมาทันที ตีคนไม่ตีหน้า น้องเย่นี่กำลังเอารองเท้าแตะไปฟาดหน้าออนนีฮานเลยนะเนี่ย!

ประเด็นคือคำพูดนี้มันได้ผลมาก ใบหน้าของออนนีฮานเริ่มเบียดเบี้ยวขึ้นมาแล้ว? สะใจโว้ย! นี่สิความรู้สึกที่เขาจินตนาการไว้!

พอคิดถึงตรงนี้มุมปากของเขาก็ยิ้มออกมา ยังไงศึกในครั้งนี้ก็เลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อต้องสู้ มันก็ต้องสู้อย่างสะใจสิ! นี่แหละคือหลักในหารใช้ชีวิตของมนุษย์หมาป่า

“โห่!”

คำรามออกมาเบาๆ ร่างกายของเชคอฟก็ขยายใหญ่ขึ้น ฉีกเสื้อบนตัวออก แสดงขนอันน่ากลัวและกล้ามเนื้อที่กำยำออกมา

“ออนนีฮาน เข้ามา!”

เชคอฟคำรามออกมา จากนั้นก็ก้าวไปอย่างแข็งแกร่ง พุ่งกระโจนเข้าใส่ออนนีฮาน

เย่เทียนไม่อาจปฏิเสธว่าเชคอฟในตอนนี้ดูแข็งแกร่งและน่าเกรงขามมาก แต่ติดนิดหนึ่ง แบบนี้มันเปลืองเสื้อผ้าเกินไปแล้ว พอระเบิดพลังก็ฉีกทิ้งตัวหนึ่ง ครอบครัวทั่วไปรับไม่ไหวหรอก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่