ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1104

ปีศาจเลือดแม้ว่าอยู่ในสภาพสติสัมปชัญญะที่ย่ำแย่ แต่จากการทดลองด้วยตัวเองหลายครั้งแล้วก็เข้าใจได้ว่า การที่คิดจะทะลวงผ่านกลุ่มแท่งแสงนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยาก

ตอนนี้ที่เขาต้องทำให้ได้มีอยู่อย่างเดียว ก็คือฆ่าเย่เทียน

เมื่อตะกี้โดนเย่เทียนเล่นงานเสียสะบักสะบอม ตอนนี้เขาได้กระตุ้นกระบวนยุทธที่แข็งที่สุดของเขาขึ้นมาแล้ว--ปีศาจเลือดกลืนเรียบ

สำหรับส่วนประกอบในการกลืนเรียบนั้นก็เป็นพลังชั้นยอดที่มีการสนับสนุนให้มาจากกองกำลังครูเสด ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองรวดเร็วได้อย่างทันด่วนขนาดนี้ ในเมื่อหนีไม่ออก ก็ต้องสู้ตายแล้ว!

หลังจากพลิกกลับตัวของปีศาจเลือดครั้งนี้ เย่เทียนถูกสายตาที่จ้องมาก็ทำเอารู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมาอยู่

“เข้ามา!” เย่เทียนกวักมือไปที่ปีศาจเลือด ท้าทายกวนอารมณ์เต็ม ๆ

อารมณ์เดือดดาลที่คั่งค้างอยู่ของปีศาจเลือดโดนท้าทายแบบนี้เลยยิ่งพาเข้าถึงสภาวะบ้าระห่ำ คำรามเสียงลั่นแล้วพุ่งโถมตรงเข้าใส่เย่เทียน

“บรึม!” จุดที่ทั้งสองปะทะกันเกิดเป็นหลุมใหญ่ขึ้นมาในทันที พื้นยุบลึกลงไปทั้งผืน

จากการกระแทกใส่กันอย่างรุนแรงนี้ เย่เทียนถึงกับทำปากแบะ ก่อนหน้านี้ที่ฟื้นคืนพลังกลับมาได้นั้นล้วนอาศัยเคล็ดวิชาลับ ตอนนี้โดนแรงกระแทกที่แข็งแกร่งขนาดนี้เข้า บาดแผลในตัวของเย่เทียนก็เริ่มออกอาการ

ตรงข้ามกับปีศาจเลือดที่ไม่เห็นจะรู้สึกเป็นอะไร!

ตามตัวของปีศาจเลือดทะลักออกมาเป็นเลือดจำนวนมาก เลือดที่ไหลออกมานั้นอยู่ในสภาพเป็นกรดกัดกร่อน พอหยดลงถูกพื้นก็เกิดเป็นเสียงฟู่ ๆ และกัดกร่อนจนพื้นผุเป็นรูเล็ก ๆ

เห็นสภาพแบบนี้เข้า เย่เทียนอดไม่ได้ต้องหยีตาลง

ตรงมุมปากปีศาจเลือดเริ่มมีเลือดเยิ้มไหลออกมา คงด้วยเพราะกลิ่นคาวเลือด ปีศาจเลือดเริ่มหายใจฟืดฟาดแรงขึ้น มองไปที่เย่เทียนในอารมณ์เพียบด้วยความโหดเหี้ยม

“เข้ามาอีก!” เย่เทียนรู้สึกได้ว่าพลังปราณในตัวของเขามีอาการติดขัดอยู่บ้าง ทำให้เขารู้ตัวเองได้ว่าเวลาที่จะระดมพลังทั้งหมดของตัวเองออกมาใช้มีเหลืออีกไม่มากแล้ว จึงขยับถีบปลายเท้า พุ่งตรงเข้าใส่ปีศาจเลือด

“รนหาที่....ไปตายซะ”

ปีศาจเลือดก็พร้อมลุยเต็มที่ ประกายแสงแดงเลือดแผ่ออกจากภายในกายกระจายสาดออกมา ความรู้สึกถึงอันตรายขั้นที่สุดทำเอาเย่เทียนหน้าถอดสี นึกอยู่ในใจว่าแย่แล้ว

ไอ้บ้านี่มันกำลังจะระเบิดตัวเอง!

นี่เป็นเรื่องที่เย่เทียนไม่เคยคิดได้มาก่อน พลังในตัวของปีศาจเลือดที่วางเห็นอยู่ตรงนั้น ถ้าระเบิดตัวเองขึ้นมาในระยะที่ใกล้มากขนาดนี้ เย่เทียนคิดขึ้นมาแล้วก็ทำเอาขนหัวลุก

ห่างไกลออกไปที่นายแฟลิกส์ในห้องตัดสินคดีความห้องตัดสินคดีความเกิดรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ฝ่ามือ ทำให้ตาทั้งคู่ที่ปิดสนิทอยู่เบิกโพลงขึ้นมา ติดตามด้วยการทะลึ่งยืนขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน หันมองไปตามทิศทางของหุบเขา

ให้ตายสิ ของทดลองที่สำคัญที่สุดของเขา กำลังถูกบีบบังคับกันไปถึงขนาดนี้!ไอ้พวกมดปลวกกระจอกพวกนี้มีฝีมือเหมือนกันนี่!

ในอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน แขนเสื้อเสื้อคลุมยาวของแฟลิกส์ขยับพลิ้วทั้ง ๆ ที่ไม่มีลม แต่ก็สยบลงอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาทอแสงเย็นหนาว ไม่รู้ความในใจจริงกำลังคิดอะไรอยู่

ในค่ายกลเก้าเลี้ยวหลอนวิญญาณ ที่ขังไว้ไม่เฉพาะแต่ปีศาจเลือด ยังมีตัวของเย่เทียนเองด้วย!

อยู่กับความรู้สึกในอันตรายขนาดหัวใจจะถูกบีบจนยับขนาดนี้ เย่เทียนไม่สนใจกับอื่นใดอีกแล้ว เร่งขับเคลื่อนญาณทิพย์ของตัวเอง ซึ่งความจริงนั้นจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่มากถึงขนาดทำให้รู้สึกได้ว่าสมองเขาวูบลง มุมขอบตาก็มีเลือดซึมออกเห็นเป็นเส้นใย

แต่ทว่าเย่เทียนในขณะนี้ไม่มีอารมณ์ไปคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว ในใจของเขามีแต่จะเร่งเร้า “เร็ว เร็วเข้าซี่!”

เจ้าสำนักแห่งสำนักหมอเทพมีปฏิกิริยาที่เร็วที่สุด วิ่งเข้าไปหาเย่เทียนที่อยู่ในสภาพแขนขาแทบจะฉีกขาดแล้วและรีบจัดการตรวจ

ตอนแรกที่เห็นสภาพของเย่เทียนก็ทำเอาใจหาย แต่พอได้ใช้นิ้วทาบไปที่คอของเย่เทียนก็ร้อง เอ๋ออกมาเบา ๆ อย่างอดไม่ได้

“เป็นยังไงบ้าง?” ปรมาจารย์ไร้เจตสิกถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม วงการยุทธภพกว่าจะปะติดปะต่อเลือกผู้นำขึ้นมาจนได้คนหนึ่ง คงไม่ถึงกับต้องเสียหายไปเพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้นะ!

คิดถึงสถานการณ์ผันผวนด้วยมรสุมของวงการยุทธภพ จิตวิญญาณเมตตากรุณาของปรมาจารย์ไร้เจตสิกบังเกิดขึ้น

“อาการของท่านผู้นำดีกว่าที่ข้าคิดไว้มาก!” เจ้าสำนักแห่งสำนักหมอเทพลูบขยี้หนวดของตัวเอง และแล้วก็รีบล้วงเอาเข็มเงินออกมารีบจัดการช่วยพยาบาลเย่เทียนอย่างเร่งด่วน

สำหรับคนประเภทยอดมนุษย์แล้วเรื่องแขนหักขาหักนั้นไม่ใช่เรื่องร้ายแรง โดยเฉพาะร่างกายแข็งแกร่งที่ผ่านการฝึกฝนอย่างเย่เทียน เพียงใช้เวลาพักฟื้นหน่อยก็ใช้ได้แล้ว

ส่วนเส้นเอ็นเส้นประสาทที่ถูกท่านจ้าวปรับแต่งที่ดูเหมือนจะมีการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่มีผลถึงชีวิต

ได้ยินผลวิเคราะห์ของเจ้าสำนักแห่งสำนักหมอเทพ พวกปรมาจารย์ไร้เจตสิกค่อยรู้สึกโล่งใจ

“ตอนนี้จะเอายังไงดี?พวกคนของกองกำลังครูเสดคงจะไม่ยอมตายใจ” ปรมาจารย์ไร้เจตสิกได้ยินเสียงการฆ่าฟันกันยังแว่วมาอยู่ก็ขมวดคิ้วย่นแล้วถาม

“เฮอะ ๆ ถ้างั้นก็ให้ไอ้พวกกองกำลังครูเสดบัดซบพวกนั้นเจอความร้ายกาจของพวกเราบ้าง!” ท่านจ้าวสะบัดเสียงฮึ “ภาระที่ท่านผู้นำต้องทำก็ได้ทำเสร็จลุล่วงแล้ว ที่เหลือก็แน่นอนว่าต้องให้คนอื่นจัดการแทน ตอนนี้ท่านผู้นำก็บาดเจ็บสาหัสอยู่ ต้องรีบทำการรักษาโดยเร่งด่วนถึงจะถูก!”

ด้วยตามนี้ เย่เทียนที่ยังสลบไสลอยู่ก็ถูกหามออกไปจากสนามรบนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่