“เย่ซา! ปล่อยเขาไปเถอะ!” เฉินหวั่นชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เกือบจะเรียกชื่อของเย่เทียนผิด
สีหน้าของหลี่ฮวนหยุนเต็มไปด้วยความบ้าระห่ำ “ทำไม? ตอนนี้กลัวแล้วเหรอ? คุณเชื่อหรือไม่ว่าผมยิงเพียงแค่นัดเดียว.....”
ก่อนที่เขาจะกล่าวจบ เย่เทียนก็เคลื่อนไหวแล้ว เขาใช้นิ้วหัวแม่มือกดไกปืนอย่างแม่นยำ ไม่ว่าหลี่ฮวนหยุนจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถดึงมันออกมาได้
“ดูเหมือนว่าคุณชายหลี่นั้นมีความโกรธแค้นผมมาก!”
เย่เทียนหัวเราะ แล้วมือของเขาก็ค่อย ๆ เพิ่มความแข็งขึ้น ฝ่ามือของหลี่ฮวนหยุนเริ่มบิดเบี้ยว และเขาก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ผมจะฆ่าคุณ!” หลี่ฮวนหยุนยังคงดื้อดึงอยู่ภายใต้ความเจ็บปวด
“ฮึ่ม?” เย่เทียนพ่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา เขาเพิ่มความแรงขึ้นอีก “คุกเข่าลง!”
หลี่ฮวนหยุนเป็นใคร? แม้แต่ในเยี่ยนจิงจะมีสักกี่คนที่กล้าทำกับเขาแบบนี้! ตอนนี้เจ้าหนูที่รนหาที่ตายคนนี้บีบบังคับให้ตนเองคุกเข่า?
เมื่อมองดวงตาที่ไร้ความรู้สึกของเย่เทียน สุดท้ายหลี่ฮวนหยุนก็ยอมจำนน
“จำเอาไว้ มีคนบางคนที่คุณไม่สามารถยั่วยุได้! ครั้งนี้ผมจะปล่อยคุณไป แต่ไม่มีครั้งต่อไป!”
เย่เทียนเอนตัวและกระซิบอยู่ข้างหูของเขา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เย่เทียนพบเจอคนประเภทนี้ ตามนิสัยของพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่ยอมรามืออย่างแน่นอน
เย่เทียนต้องการถอนรากถอนโคน แต่ตระกูลที่ใหญ่แบบนี้ไม่สามารถลงมืออย่างเปิดเผยได้
“ไสหัวออกไป!”
เย่เทียนไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจเขา ยึดปืนพกแล้วก็ปล่อยให้เขาจากไป
สีหน้าของหลี่ฮวนหยุนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่เขาทำได้เพียงก้มหน้าลงและไม่กล้าแสดงออกมา ซึ่งก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าความโกรธแค้นที่เขามีต่อเย่เทียนนั้นมาถึงระดับที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
“มักจะมีคนที่ชอบคิดแต่เรื่องของตนเอง” เฉินหวั่นชิงรู้สึกปวดศีรษะและใช้มือนวดหน้าผากของตนเอง เอนตัวพิงโต๊ะและรู้สึกหมดหนทาง
เย่เทียนเดินไปกอดไหล่ของเธอ ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงอุทานด้วยความตกใจดังมาจากด้านข้าง
“ฉัน ฉันแค่เข้ามาดูเท่านั้น ห๊ะ! ไม่ถูก ฉันไม่เห็นอะไรเลย!” เยว่หยาเกือบจะร้องไห้ออกมา จากนั้นเธอรีบเดินออกไปด้วยใบหน้าแดงระรื่น
“เป็นสาวน้อยที่น่าสนใจจริง ๆ!” เย่เทียนหัวเราะ
“คุณอย่ามีความคิดชั่ว ๆ น่ะ!” เฉินหวั่นชิงมองเขาด้วยความโมโห “ตระกูลสวีส่งคนมาติดต่อฉันแล้ว ต่อไปควรจะทำอย่างไรดี?”
“ให้พวกเขาติดต่อผม” เย่เทียนนึกถึงเรื่องที่พบนักรบตงอิ๋งเมื่อคืน ตระกูลสวีมีอะไรน่าสนใจ จนสามารถทำให้คนตงอิ๋งสนใจพวกเขา?
“โอเค! ยาที่คุณให้ฉันซื้อ ตอนนี้ฉันซื้อให้คุณเรียบร้อยแล้ว ต้องการสำรองไว้ไหม?” หลังจากเฉินหวั่นชิงกล่าวจบ เธอเดินไปที่ตู้ที่อยู่ด้านข้าง แล้วหยิบยาออกมา
อย่ามองว่ายาเหล่านี้เป็นแค่กองเล็ก ๆ แต่มีมูลค่าหลายสิบล้าน
“พอแล้ว! ต่อไปผมจะเป็นคนหายาเอง”
เย่เทียนรู้ถึงมูลค่าของยาเหล่านี้อย่างชัดเจน ด้วยทรัพยากรทางการเงินของเฉินหวั่นชิง การซื้อรอบเดียวนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าซื้อหลายรอบเธอคงไม่ไหวเช่นกัน
บริษัทแซ่เฉินไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เห็นผิวเผิน เพราะภายในของตระกูลเฉินนั้นมีเรื่องขัดแย้งกันมากมาย ประธานหญิงอย่างเฉินหวั่นชิงที่ดูแล้วน่าเกรงขาม แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องที่ง่าย
คิดว่าการเป็นประธานนั้น เดินไปเดินมาและกินดื่มเที่ยวเล่นเหรอ? ซึ่งการจัดการกับความสัมพันธ์ทุกประเภทก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้รู้สึกปวดหัว
นอกจากนี้ จะให้เย่เทียนเกาะผู้หญิงกินได้อย่างไร? สำหรับเขาแล้วการหาเงินนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
เฉินหวั่นชิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ตระกูลสวี!”
“ไปรักษาอาหารป่วยของสวีย่า ผมเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น!”เย่เทียนโบกมือแล้วเดินออกไปจากบริษัทแซ่เฉิน
ที่ตลกกว่านั้นคือเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องทำงานของเฉินหวั่นชิงแล้ว เขาได้พบกับเยว่หยา แต่อีกฝ่ายกลับหลบซ่อนเหมือนหนูเห็นแมว เธอเป็นคนซื่อและน่ารัก ซึ่งใช่ว่าจะได้พบเห็นกันง่าย ๆ ทำให้เย่เทียนรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
หลังจากวางสายแล้ว สวีหลินหยุนนิ่งเงียบสักครู่
“หรือว่าเถ้าแก่สวีไม่วางใจ? หวางยี่ซานศิษย์พี่ของผมนั้นเป็นยอดฝีมือระดับดำสูงสุด เขาอยู่ห่างจากระดับดินเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น จัดการนักบู๊ระดับดำนั้นเพียงพอแล้ว!”
ปรมาจารย์หลี่ไม่แยแส เขาหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ
“ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินชื่อเย่เทียนหรือเปล่า!”
“เย่เทียน? คุณหมายถึงคนที่เสียชีวิตพร้อมกับสมเด็จพระสันตะปาปาหรือ?” ปรมาจารย์หลี่กล่าวเบา ๆ “ก็แค่คนตายเท่านั้น อีกอย่างเขาได้ล่วงเกินคนไว้มากมาย ตอนนี้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเย่เทียนที่ยังอยู่ดีมีสุขนั้นจะมีสักกี่คน?”
“ผมมักจะรู้สึกว่าเย่ซาคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับเย่เทียน”
“ฮ่า ๆ! เถ้าแก่สวี คำพูดของคุณช่างน่าขบขันจริง ๆ ผู้ทรงอิทธิพลในโลกบู๊รวมตัวกันประกาศการตายของเย่เทียนแล้ว มิเช่นนั้นญาติของเย่เทียนจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นได้อย่างไร”
“สำหรับคนที่ชื่อเย่ซา คาดว่าเป็นแค่รสนิยมที่น่าขยะแขยงของเฉินหวั่นชิงเท่านั้น เธออาจเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยลืมความหลัง แล้วเจตนาหาคนที่แซ่เย่?”
ปรมาจารย์หลี่แสดงสีหน้าไม่เห็นด้วย จากนั้นก็เผยให้เห็นถึงความปีติยินดี
หลังจากหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เขาก็หัวเราะเสียงดังลั่น “เถ้าแก่สวี ศิษย์พี่ของผมมาถึงแล้ว คราวนี้จะปราศจากเรื่องราวที่น่าวิตกกังวลอย่างแน่นอน!”
“เช่นนั้นมันจะเป็นการดีที่สุด!” สวีหลินหยุนยังคงดูถูกเหยียดหยามปรมาจารย์หลี่อยู่ในใจ เพราะผู้ชายคนนี้ทำงานหละหลวม แต่คนของสำนักตงหัวยังคงมีความสามารถมาก ซึ่งเขาได้รับการช่วยหลือจากสำนักตงหัว ถึงทำให้เขามีวันนี้ได้
แล้วเขาจะไม่ให้ความสำคัญได้อย่างไร?
“ตอนนี้ผมจะไปเชิญปรมาจารย์หวางมาทันที!” ตระกูลสวีกลับมาคึกคักอีกครั้ง รถยนต์ขับออกไปเป็นแถว ทำให้ผู้คนต่างมอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...