ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1344

ตระกูลแรกที่เย่เทียนมาหาคือตระกูลบู๊โบราณที่ดีอกดีใจมากที่สุด ตระกูลฉี

ในตอนที่ตระกูลฉีเผชิญหน้ากับเย่เทียนยังปิดซ่อนการแสดงออกเอาไว้มาก แต่การกระทำเล็กน้อยของตระกูลฉีกลับมีมาไม่หยุด เพื่อรับผลประโยชน์จากเหลิ่งฉิงโฉวแล้ว ยังคอยชักชวนทั้งในกลุ่มพันธมิตรให้รู้จักกัน ปรนนิบัติต่อแต่ละฝ่ายแต่ละสำนักแบบเอาใจไปหมดทุกอย่าง

ถ้าไม่มีสามเซียนตงเหอผู้ซ่อนตัวอยู่ภายในแบบนี้ เย่เทียนคงยังไม่สังเกตเห็นพวกเขาจริงๆ

คนพวกนี้ดีใจกระโดดโลดเต้นเกินไปแล้ว สบายอกสบายใจจนเหมือนพวกเขาจะลืมไปว่าตนเองมีความสามารถต้านทานการโจมตีกลับของเย่เทียนไหวหรือเปล่า

ฉีหยู่เหิงเอาหยกอ่อนชิ้นหนึ่งมาเล่นในมือ แอบสัมผัสชี่ทิพย์ที่กระจายออกมาจากในนี้บำรุงร่างกายของตนเองไม่หยุด ลักษณะท่าทางพอใจอย่างยิ่ง

“ตอนนี้สำนักชิงหนังทางนั้นมีการเคลื่อนไหวอะไรหรือเปล่า?”

ฉีหยู่เหิงจับแก้วชาที่ข้างมือไว้ สูดหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง จากนั้นถอนหายใจยาวๆ อย่างพอใจ

“มีการเคลื่อนไหวแล้วครับ นักพรตเหอไปที่สำนักซ่วนเฮ่อคนเดียว”

“แล้วเย่เทียนล่ะ?”

“ยังไม่มีข่าวส่งมาชั่วคราวครับ แต่ว่าหัวหน้าเหลิ่งรีบพาคนเข้าไปแล้ว คิดว่าถึงตอนนั้นเย่เทียนน่าจะปรากฏตัวขึ้นเองครับ”

“อืม!” ฉีหยู่เหิงพยักหน้าแล้ว จากนั้นพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

“ไม่ว่าพูดยังไงนักพรตเหอก็เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม แถมยังมีความสามารถอีก น่าเสียดายติดตามคนผิดแล้ว!”

ฉีหยู่เหิงนั่งตัวตรงขึ้น นำหยกอ่อนในมือวางไว้บนถาด “นึกถึงตอนแรกพวกเราตระกูลไหนบ้างที่ไม่ได้เสนอราคาที่สูง แม้กระทั่งสามารถส่งเขาไปฝึกฝนในโลกบู๊โบราณได้ น่าเสียดายที่เจ้าหมอนี่ดื้อด้าน อยากจะไปกองกำลังพิเศษให้ได้”

“ตอนนี้ยิ่งใช้ชีวิตยิ่งถอยหลัง คาดไม่ถึงไปสำนักชิงหนังอีก แกว่าน่าตลกหรือเปล่า?”

ฉีหยู่เหิงพูดจบหัวเราะเสียงดังขึ้นมา แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจคือคาดไม่ถึงว่าลูกน้องไม่ได้หัวเราะตาม

ใจกล้านัก! ไม่เข้าใจเจตนาของเจ้านายยังจะมีคนรับใช้อย่างแกไว้ทำไม! กล้าดีเสียจริง!

เพียงแต่ตอนที่เขาหันหน้าเข้าไปมองก็ตะลึงค้างแล้ว

“ดูเหมือนผู้อาวุโสฉีมีปัญหาต่อสำนักชิงหนังของผมมากนะ!” เย่เทียนมองเขาเหมือนยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มแวบหนึ่ง จากนั้นถือโอกาสโบกมือ คนรับใช้โดนเหวี่ยงไปด้านนอกประตูโดยตรง กระแทกบนพื้นอย่างแรง

“เอ่อ...... เจ้าสำนักเย่!”

บนหน้าผากของฉีหยู่เหิงผุดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายภายใต้เสื้อผ้ายิ่งสั่นเทาขึ้นมาแบบคุมไม่อยู่ ในสายตาก็มีความรู้สึกตกใจกลัวเพิ่มขึ้นอีก

คาดไม่ถึงเย่เทียนมาหาถึงที่เลย? นี่เป็นไปได้อย่างไร! ทำไมเขาถึงปรากฏตัวที่นี่! เขาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!

ล่อเสือออกจากถ้ำ!

ในใจฉีหยู่เหิงเกิดความคิดอันนี้ขึ้นฉับพลัน เหงื่อบนหน้าผากผุดออกมาถี่ขึ้น

ในเมื่อเย่เทียนมาถึงที่นี่แล้ว จุดประสงค์นั้นแทบจะชัดเจนเสียยิ่งกว่าอะไรแล้ว นึกถึงเรื่องนี้เขายังอดกลืนน้ำลายลงไปโดยจิตใต้สำนึกไม่ได้

“ผู้อาวุโสฉีใช้ชีวิตดูสบายใจดีนี่!” เย่เทียนถือโอกาสมองสักหน่อย “คุณไม่ต้องตกใจกลัวไป ทุกคนส่งของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนั้นไปให้ผมในงานฉลองของสำนักชิงหนัง ถ้าผมเย่เทียนไม่มอบของขวัญตอบแทนคงจะไม่ค่อยดีนัก คุณว่าถูกไหม?”

ตรงปากเย่เทียนมีรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ในสายตากลับเย็นเยือก

เผชิญหน้ากับเย่เทียนแบบนี้ ต่อให้เป็นคนโง่ก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั่นคือถ้อยคำประชด พอนึกถึงเรื่องนี้ฉีหยู่เหิงรู้สึกว่าตนเองกำลังจะพังทลายแล้ว

เขาเคยคิดวิธีแก้แค้นของเย่เทียนนับไม่ถ้วนไว้ล่วงหน้า แต่เขากลับคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าเย่เทียนจะมาหาเขาเป็นคนแรก นี่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

“เจ้าสำนักเย่เข้าใจอะไรผิดแล้วรึเปล่า? การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรในครั้งนี้เป็นทุกคนเห็นด้วยหมด เจ้าสำนักเย่......”

คำพูดของฉีหยู่เหิงยังไม่ทันจบ เย่เทียนโบกมือขัดจังหวะทันที

สมาพันธ์นักบู๊โบราณและเขายิ่งใหญ่เกรียงไกร เบื้องหลังยิ่งมีสำนักระดับสูงนั่งบัญชาการด้วยตนเอง ดูจากขบวนสู้รบแบบนี้แล้ว แทบจะเป็นการมีอยู่ในระดับบดขยี้ สำนักชิงหนังมีทางรอดตายได้อย่างไร?

แต่ฉีเจิ้นนึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิง ความแข็งกร้าวของเย่เทียนไม่ใช่สิ่งที่การรวมกลุ่มของพวกเขาเหล่านี้พอจะควบคุมไว้ได้ ประเด็นสำคัญคือเขาคิดไม่ถึงว่าฉีหยู่เหิงที่เขาพึ่งพาและไว้วางใจจะทำจนโดดเด่นเช่นนี้ กลายเป็นเป้าหมายอันดับแรกที่เย่เทียนมาแก้แค้นโดยตรง

ฉีเจิ้นลนลานพอสมควร รีบเริ่มดำเนินการวิชาค่ายกลเตรียมป้องกันอันแข็งกร้าวที่สุดของตระกูลฉี ด้านหนึ่งให้คนไปแจ้งต่อเหลิ่งฉิงโฉว ด้านหนึ่งรีบเร่งพาผู้อาวุโสหลายสิบคนของตระกูลตนเองมายังที่พักของฉีหยู่เหิงทันที

นี่ยังเป็นครั้งแรกที่ฉีเจิ้นพบเจอเย่เทียน

ถึงแม้เขาไม่เคยเผชิญกับเหตุการร์ในงานฉลองสำนักชิงหนัง แต่ตอนที่เขามองเห็นเย่เทียนแวบแรกหัวใจกลับเต้นรัวทันใด

เป็นไปได้อย่างไรที่โลกข้างนอกยังมีคนที่แกร่งขนาดนี้ดำรงอยู่!

ในสายตาเขาคาดไม่ถึงเย่เทียนราวกับเป็นหลุมดำ เกือบจะกลืนกินทำลายล้างของทุกอย่างจนหมด ส่วนคนอื่นๆ ได้เพียงรู้สึกถึงพลังความสามารถทั่วไปของเย่เทียนเท่านั้น

เย่เทียนชายตามองฉีเจิ้นแบบสงสัยอยู่บ้าง เจ้าหมอนี่ยังมีของอยู่หน่อย

แต่ว่าก็แค่มีของอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง!

“เจ้าบ้านฉี นึกไม่ถึงว่าเจอกันครั้งแรกจะเป็นสถานการณ์แบบนี้ ทำให้รู้สึกหดหู่อยู่บ้าง”

เย่เทียนหัวเราะเบาๆ ชายตามองฉีเจิ้นแวบหนึ่ง

“เจ้าสำนักเย่บารมีน่าเกรงขามมากจริง! แต่ก็เข้าใจได้ โดยเฉพาะเป็นพวกสำนักเล็ก ไม่มีธรรมเนียมสักนิด!”

ฉีเจิ้นอาจจะพูดไม่กระจ่าง เย่เทียนเพิ่งพูดจบ ผู้อาวุโสผมหงอกคนนั้นที่ยืนอยู่ด้านหลังฉีเจิ้นพึมพำแบบเย็นชาอย่างเหยียดหยาม และคำพูดประโยคนี้ทำให้ฉีเจิ้นและฉีหยู่เหิงเหงื่อตกครั้งแล้วครั้งเล่า อะไรกันวะเนี่ย คนอื่นเขายื่นมีดออกมาแล้ว แกไม่หลบก็แล้วไป ทำไมยังยื่นคอเข้าไปให้โดนฟันด้วยล่ะ!

ความฉลาดทางปัญญาล่ะ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่