เรื่องที่เกี่ยวกับเย่เทียน ข่าวนี้ย่อมจะส่งมาถึงตรงหน้าของเย่เทียนเป็นธรรมดา
“ไอ้หนุ่มตระกูลกู้คนนี้ก็ไหวพริบดี” เฝิงเจิ้นเหอดูเหตุการณ์ของคดีแวบหนึ่งพูดจาแบบหัวเราะชอบใจ
ถ้าไม่ใช่มองเห็นอันจื้อเจี๋ยชื่อนี้เข้า เย่เทียนยังคิดจริงว่าเรื่องนี้มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง แน่นอนว่า ถึงแม้จะไม่มีใครเย่เทียนก็ยินยอมเชื่อว่าเบื้องหลังนี้มีคนบงการ
แต่หลังจากฟังความคิดเห็นสุดท้ายนั้นของกู้ฉางอันแล้ว เย่เทียนตัดสินใจจะไม่สนใจเรื่องราวอันนี้อีก
เป้าหมายขู่ขวัญที่เขาอยากทำให้สำเร็จก็บรรลุแล้ว นี่ก็เป็นการโจมตีอย่างแรงต่อสมาพันธ์นักบู๊โบราณแล้ว อีกอย่างหนึ่งตระกูลบู๊โบราณเล็กๆ พวกนี้ไม่มีของอะไรคุ้มค่าให้เขารีดไถจริงๆ
ช่างเถอะ ควรใจกว้างให้อภัยคนอื่น เขาขี้เกียจลงมือเช่นกัน
หลังจากเดวิลปรากฏตัว องค์กรต่างๆ ของวงการมากมายล้วนมาหาเย่เทียนถึงที่
คนเหล่านี้กลับฉลาดหลักแหลม รู้ว่าใครที่เป็นคนที่ตัดสินใจให้พวกเขาเข้าสู่แดนลึกลับได้บ้าง แทบจะไม่ต้องให้เย่เทียนแสดงฝีมืออะไร คนเหล่านี้ก็เอา“ค่าผ่านทาง”ของพวกเขาออกมาแล้ว
เฝิงเจิ้นเหอนั้นดีใจจนไม่อาจเก็บซ่อนเอาไว้ได้ เดิมทียังคิดว่าก่อนหน้างานชุมนุมต้องเกิดเรื่องวุ่นวายแน่นอน แต่ตอนนี้ดูแล้วตนเองว่างงานแบบคิดไม่ถึงเลยทีเดียว
ไม่มีทางเลือก ครั้งก่อนเย่เทียนลงมือฆ่าโหดเหลือเกิน ทำเอาคนพวกนี้ล้วนกลัวโดนฆ่ากัน จึงรู้สึกหวาดกลัวแบบสุดขั้วหัวใจ ไม่เช่นนั้นคนพวกนี้คงไม่เอาอกเอาใจขนาดนี้
“เตรียมตัวหน่อยเถอะ งานชุมนุมพรุ่งนี้ก็เปิดฉากขึ้นแล้ว ผมต้องไปดูคนเหล่านั้นของกองกำลังพิเศษหน่อยว่าฝึกฝนเป็นอย่างไรบ้าง”
เย่เทียนโบกมือให้เฝิงเจิ้นเหอแล้ว จากนั้นเพียงก้าวเดียวข้ามผ่านจากด้านข้างเขาไปถึงหน้าประตูโดยตรง
วิธีการนี้ทำเอาเฝิงเจิ้นเหอตกใจยกใหญ่
“อะไรวะเนี่ย นี่เพิ่งสองวันเองก็เรียนได้แล้ว? นี่ยังเป็นคนอีกเหรอ?”
วิชาหดพื้นที่สั้นลงก็ไม่ใช่วิชายุทธ์พิเศษอะไร ฝึกฝนขึ้นมากลับไม่ได้ยากถึงขั้นที่ทำให้คนเข้าใจมานานแล้วก็ไม่มีทางเข้าถึงแก่นสารได้ แต่ก็ไม่อาจใช้งานคล่องแคล่วภายในสองวันได้มั้ง!
เย่เทียนกลับรู้สึกว่าเวลาสองวันมากไปหน่อย
วิชาหดพื้นที่สั้นลงอันนี้จะบอกว่าเป็นวิชายุทธ์ไม่สู้บอกว่าเป็นวิธีโคจรของชี่ทิพย์อย่างหนึ่งดีกว่า
จากระดับการควบคุมชี่ทิพย์ของเย่เทียนนั้น ฝึกฝนขึ้นมาย่อมเร็วมากแน่นอน เพียงแต่บนรากฐานของการฝึกฝนเย่เทียนจะปรับปรุงใหม่นิดหน่อย นี่ถึงใช้เวลาสองวัน
เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ก็พูดออกมาไม่ได้ มิฉะนั้นจะโจมตีคนอื่นมากเกินเหตุแล้ว
กลับมาถึงสนามฝึกซ้อมของสำนักชิงหนัง นักพรตเหอหัวเราะชอบใจนั่งบนเบาะนั่งฝึกฝนอยู่ สำหรับค่ายกลของสนามฝึกฝนยังคงปิดไว้ และตอนนี้สำนักชิงหนังร่ำรวยมาก ใช้หินทิพย์ส่วนหนึ่งก็ไม่รู้สึกเสียดายมิเช่นนั้นเปลี่ยนเป็นสำนักเล็กๆ ให้มาเปิดค่ายกลสักสามวัน การใช้สอยหินทิพย์อันนี้คือจำนวนมหาศาลเลย
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
เย่เทียนถามอย่างสงสัย
นักพรตเหอหัวเราะแต่ไม่ตอบ “นายไปดูด้วยตัวเองสักหน่อยจะดีกว่า”
เย่เทียนลูบคางหน่อยแล้ว ยกเท้าขึ้นมาแล้วก้าวเข้าไปด้านในค่ายกลแล้ว
การกระทำนี้ทำให้นักพรตเหอรู้สึกตกใจทันใด อะไรของแม่งวะเนี่ย เจ้าหมอนี่ยังเป็นคนอยู่เหรอ? นี่เพิ่งไม่เจอกันสามวัน วิธีเคลื่อนไหวนี้ก็บรรลุถึงระดับที่น่าสยองขวัญเช่นนี้เลย? เจ้าหมอนี่คงไม่ใช่กินยาบรรลุแล้วฝึกฝนมั้ง!
“โอ๊ย! เบาหน่อยสิ! สู้มาอีกฉันจะสู้กลับแล้วนะ!”
“ทีมหนึ่งเป้าหมายสำเร็จ ทีมสองตามไป! ทีมสามเตรียมตัว!”
พอเข้าสู่สนามฝึกฝน เสียงบัญชาการดังกังวานและเสียงน่าสังเวชของเฉิงชิ่งตะโกนออกมาผสมปนเปด้วยกัน
แตกต่างจากตอนที่เพิ่งเริ่มต้น ลักษณะของเฉิงชิ่งค่อยๆ ถูกทำให้อ่อนแรง เวลานี้เสื้อผ้าเขาขาดลุ่ย ดูขึ้นมากระเซอะกระเซิงอย่างยิ่ง ยังมีลักษณะท่าทางจองหองแบบไม่ยอมรับอย่างในช่วงเริ่มต้นอยู่ที่ไหน
“พี่ใหญ่! ในที่สุดนายก็มาสักที!”
วิธีเคลื่อนไหวของเฉิงชิ่งสามารถพูดได้ว่าฝึกฝนถึงขั้นสูงสุดแล้ว แทบจะกลายเป็นเงาแล้วมาถึงด้านหลังเย่เทียนได้โดยตรง
“พี่ใหญ่! ไม่ต้องทำขนาดนี้มั้ง! ไม่ต้องโหดขนาดนี้ก็ได้มั้ง!”
เฉิงชิ่งอยากร้องไห้แล้ว
ไม่ต้องพูดว่าเขาไม่ใช้ดาบ ถึงแม้ใช้ดาบก็ไม่อาจเอาชนะการต่อสู้ของภรรยาตนเองได้
เรื่องที่อนาถที่สุดคือหงหลัวซ่าเลื่อมใสต่อเย่เทียนอย่างมากเลย ถ้าเย่เทียนสั่งไป งั้นเธอจะทำให้สำเร็จอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแน่ แม้ว่าตนเองเป็นสามีของเธอก็จะไม่มีโอกาสอ่อนข้อให้สักนิด
โอ้มายก๊อด วันเวลาต่อไปนี้แค่คิดดูก็รู้สึกถึงความมืดมนแล้วจริงๆ
มืดมิดไร้แสงสว่างเลย
เผชิญหน้าเสียงตะโกนอ้อนวอนอันน่าเวทนาของเฉิงชิ่ง เย่เทียนไม่หวั่นไหว ถูฮุยนั่งอยู่บนเก้าอี้หินแบบท่าทางอ่อนโยน ในมือลูบถุงหอมอันหนึ่งอยู่
“อยากกลับไปดูหน่อยหรือเปล่า?”
เย่เทียนนั่งอยู่ด้านข้างเขาแล้วถามขึ้น
“ไม่ล่ะ! ตอนนี้กลับไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ตอนที่เข้าสู่แดนลึกลับฝูหลิงก็จะไปด้วย ถึงตอนนั้นพอจะได้เจอกันได้แน่!”
พูดจบถูฮุยเก็บถุงหอมในมือเอาไว้แล้ว “ใช่แล้ว ครั้งนี้นายต้องระวังคนหนึ่งเอาไว้”
“ใคร?”
เย่เทียนสงสัยอยู่บ้างจริงๆ ในเมื่อถูฮุยพูดออกมาแล้ว งั้นคนนี้จะต้องคุ้มค่าให้เขาระวัง
“หลี่ชื่อหาวของสำนักเฉิงเทียน”
“สำนักเฉิงเทียน? สำนักนั้นที่เสนอรางวัลนำจับฉันนะเหรอ?” เย่เทียนยักคิ้วขึ้นแล้ว “สำนักเฉิงเทียนกับสำนักตงฝูมีความสัมพันธ์อะไรกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...