ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 229

“คุณชายเย่ คุณตื่นเต้นมั้ยครับ”

ลูกน้องของเย่เทียนสังเกตดูเย่เทียนจากกระจกมองหลังและพลันถามขึ้นมา

“นายตื่นเต้นมั้ย?”

เย่เทียนที่กำลังพักสายตาอยู่ลืมตาขึ้น และมองลูกน้อยที่ตัวสั่นเล็กน้อยทว่าสายตาเปล่งประกายตื่นเต้นดีใจ

ตื่นเต้นมั้ย?

คำตอบคือแน่นอน--ตื่นเต้น!

การไปฐานทัพใหญ่ของแก๊งมังกรด้วยตัวคนเดียวมีหรือที่เขาจะไม่ตื่นเต้น?

แต่ความตื่นเต้นเป็นเพียงส่วนน้อย ในใจของลูกน้องคนนี้รู้สึกดีใจมากกว่า!

คนที่นั่งอยู่เบาะหลังคือใคร?

คุณชายเย่! นั่นคือคนระดับสุดยอดที่แม้แต่พี่ใหญ่ยังต้องนอบน้อมเคารพนับถือ สุดยอดไอดอลของนักเลงเป็นพันเป็นหมื่น เขาจะไม่ดีใจได้ยังไง?

คิดมาถึงตรงนี้ ลูกน้องรีบตอบ "คุณชายเย่ครับ ผมไม่ตื่นเต้น ผมแค่ดีใจ"

ไม่รอให้เย่เทียนตอบอะไร ลูกน้องคนนั้นก็พูดด้วยท่าทีพะเน้าพะนอ "คุณชายเย่ คุณเป็นไอดอลของผม คุณช่วยเซ็นชื่อให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ"

เย่เทียนผงะ แล้วอดขำไม่ได้

นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย! นี่ตัวเองเป็นดาราไปแล้วหรือไง?

เอี๊ยดๆ!

และในตอนนั้นเอง รถตู้หลายคันพุ่งพรวดออกทางแยกกะทันหัน และขวางทางที่พวกเขาจะมุ่งหน้าไป

ลูกน้องตระหนักได้ทันที สีหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก และกำลังจะถอยรถกลับ

เอี๊ยดๆ!

แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป มีรถตู้หลายคันขับมาด้านหลังเช่นเดียวกันและปิดทางถอย!

"คุณชายเย่....."

สีหน้าของลูกน้องย่ำแย่ลงไปโดยสิ้นเชิง

ยังไงก็เป็นคนที่หาข้าวกินในยุทธภพนี้ บวกกับปฏิบัติการใหญ่ในคืนนี้ อนุมานได้ว่าเรื่องนี้เป็นเจตนาของใครสักคนแน่นอน

"ดูท่าพวกนั้นไม่ได้โง่เหมือนที่เราคิดนะ!"

เย่เทียนกวาดสายตามองผ่านกระจกรถหลังและตบไหล่ลูกน้องคนนั้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "นายอยู่ในรถนี่แหละ เดี๋ยวฉันจัดการเอง"

พูดจบเย่เทียนก็เปิดประตูรถออกโดยไม่ลังเลและเดินลงไป เขามองผู้คนที่ปิดทางไว้อย่างเกียจคร้าน

"ไอ้เวรเอ๊ย!"

หลังจากผงะไปชั่วขณะ ลูกน้องก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว และกดโทรศัพท์หาหลิวชิง "พี่ใหญ่ครับ คนของแก๊งมังกรคงจะได้ข่าวแล้ว ตอนนี้ผมกับคุณชายเย่โดนพวกเขาปิดทางไม่ให้เดินหน้า"

หลังจากวางสาย ลูกน้องคนนั้นก็ล้วงเอามีดปอกผลไม้เล่มหนึ่งออกจากใต้ที่นั่ง เขาถอดเสื้อผ้าบนตัวและรัดมีดไว้กับมืออย่างแน่นหนาแล้วจึงเดินลงจากรถ ยืนอยู่ข้างเย่เทียนด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว

เย่เทียนเหลือบมองลูกน้องคนนั้นและพูดด้วยสีหน้าแปลกใจ "นายลงมาทำไม?"

"คุณชายเย่ ในเมื่อพี่ใหญ่มอบหมายหน้าที่ให้ผมไปส่งคุณ ต่อให้ผมต้องแลกด้วยชีวิตนี้ก็จะไม่ยอมปล่อยให้คุณเป็นอะไร"

ลูกน้องคนนั้นมองเหล่าผู้คนที่เดินลงมาจากรถตู้ด้วยสายตาอึมครึม น้ำเสียงของเขายังนอบน้อมอยู่ แต่คำพูดเย็นชาอยู่บ้าง

"เดี๋ยวสิ นาย…..." เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

แต่น่าเสียดายที่ลูกน้องคนนั้นไม่ยอมรับความใจดีของเขา และขัดคำพูดของเย่เทียนขึ้น พร้อมพูดเสียงกังวาน “คุณชายเย่ คุณไม่ต้องเกลี้ยกล่อมผมหรอกครับ ผมหยางซิงไม่ใช่คนที่รักตัวกลัวตาย!”

เขามองใบหน้าเข้มแข็งของหยางซิง เย่เทียนรู้ว่าเขาเกลี้ยกล่อมต่อไปก็เปล่าประโยชน์ เขาอดมองหยางซิงดีขึ้นไม่ได้และเลิกทำการเกลี้ยกล่อม

มีคุณธรรมพอ! เขาคือลูกผู้ชาย!

หลังจากผ่านคืนนี้ไป เย่เทียนจะบอกให้หลิวชิงเลื่อนตำแหน่งคนนี้หน่อย

รถตู้สิบกว่าคันเปิดออก คนนับสิบที่ดูก็รู้ว่าเป็นพวกนักเลงลงมาจากรถ แต่ละคนมือถือท่อเหล็กและมีด พร้อมจ้องทั้งสองคนที่ถูกล้อมไว้ด้วยสายตาอาฆาต

คนที่เดินนำมาด้านหลังคือรองหัวหน้าแก๊งมังกร ข่งเทียนเฉิง

หมาป่าโลภเป็นที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุดของข่งเทียนเฉิงในตอนนี้ เขาไม่อยากทำให้หมาป่าโลภไม่พอใจ จึงถลึงตาใส่เย่เทียนอย่างโหดเหี้ยมแต่ไม่กล้าขัดคำพูดของหมาป่าโลภ

เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “แกมาลองดูก็รู้เอง”

“เฮอะ!”

หมาป่าโลภแค่นเสียงเย็นในบัดดล เขาลำเลียงกำลังภายในปลดปล่อยพลังสุดแข็งแกร่งออกมา พลังนั้นมวลหนาประหนึ่งมีรูปลักษณ์และถาโถมไปหาเย่เทียน

ชั่วขณะนั้น เวลาราวกับหยุดนิ่ง อุณหภูมิเย็นยะเยือกลงในบัดดล

หยางซิงที่ยืนอยู่ข้างเย่เทียนรู้สึกเพียงหายใจลำบากขึ้น เขาขยับฝีก้าวออกจากเย่เทียนเล็กน้อยถึงรู้สึกหายใจคล่องขึ้น

กลับมามองเย่เทียนที่อยู่จุดศูนย์กลางกลับมีสีหน้าปกติ ไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด

สมัยเขาอยู่ระดับฝึกพลังชั้นสี่ก็สามารถปราบคนระดับดำได้ ตอนนี้เขาก้าวสู่ระดับฝึกพลังชั้นห้าแล้ว จะแยแสแรงกดดันที่คนระดับดำปลดปล่อยออกมาได้ยังไง

เมื่อเห็นท่าทีของเย่เทียน หมาป่าโลภมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น

การที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันของเขาเลยมีเพียงสาเหตุเดียว

นั่นก็คือพลังของเย่เทียนอย่างแย่ที่สุดก็อยู่ระดับเดียวกับเขา ระดับดำชั้นต่ำ

การสันนิษฐานนี้ทำให้หมาป่าโลภยอมรับได้ยาก เขาสู้ศึกมานับไม่ถ้วน เจอสงครามหฤโหดมานักต่อนักถึงได้มีพลังขนาดนี้

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น เขาฝึกยุทธมาตั้งแต่หกขวบ จนบัดนี้ก็สามสิบกว่าปีแล้ว

แต่เย่เทียนล่ะ?

ดูแล้วอายุน่าจะแค่ยี่สิบนิดๆ ห่างจากเขาตั้งสิบกว่าปีแต่เขากลับอยู่ระดับดำชั้นต่ำ การเปรียบเทียบที่เห็นได้ชัดนี้ส่งผลให้หมาป่าโลภผู้โอหังรับไม่ได้

ไม่รอให้หมาป่าโลภได้คิดให้ถี่ถ้วน เสียงเบรคอย่างแรงดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง

ด้วยการส่งข่าวของหยางซิง ในที่สุดกำลังสนับสนุนของหลิวชิงและเชิ่งหู่ก็เดินทางมาถึง และล้อมอยู่ด้านนอกเป็นวงที่ใหญ่ขึ้นจนปิดทางคนของแก๊งมังกรไว้หมด

ศึกที่ชี้ชะตาของโลกใต้ดินเมืองเจียงหนันกำลังจะเริ่มขึ้น…..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่