ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 318

“ฉันนอนโซฟาดีกว่า!”

เมื่อเห็นเย่เทียนเดินลงจากเตียงโดยไม่ลังเลเลยสักนิด ซูเหมยอารมณ์หม่นหมองลง

หรือฉันไม่เข้าตาคุณเลยเหรอ?

เย่เทียนไม่รับรู้ความในใจของซูเหมย ไม่นานนักก็เจอผ้าห่มและหมอนในตู้เสื้อผ้าและนำไปตั้งไว้ที่โซฟา

“นอนเถอะ”

เย่เทียนยิ้มและกล่าวกับซูเหมย

ซูเหมยถึงได้สติกลับมา และมองเขาด้วยสายตาซับซ้อนถึงขีดสุด สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นและปิดไฟ

ไม่นานนักทั้งห้องก็ตกสู่ความเงียบ

ซูเหมยนอนกลิ้งไปกลิ้งมาเพราะนอนไม่หลับ รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ส่วนเย่เทียนเองจริงๆแล้วก็ยังไม่หลับ เขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังเขามาถึงจ๊กกลาง ตั้งแต่เขามาอยู่ที่จ๊กกลาง เขาพอจะรู้ถึงลำดับอิทธิพลของที่นี่แล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด มีความเป็นไปได้สูงเลยว่าเหมืองหยกจะมาอยู่ในมือเขา

แน่นอนว่าใต้สถานการณ์ที่ไม่มีอะไรผิดพลาด

ที่เขาสัมผัสมานั้นล้วนแต่เป็นอิทธิพลที่เผยให้เห็นที่เปลือกนอก จะมีผู้อื่นหมายตาในที่ลับอยู่หรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องที่ไม่ทราบได้

“ช่างเถอะ เลิกคิดดีกว่า ถึงเวลานั้นก็จะรู้เอง”

เย่เทียนคิดในใจ

“เย่เทียน!”

ทว่าในเวลานั้น มีเสียงเรียกเขาดังมา

เย่เทียนหันไปมอง

แม้ว่าตอนนี้ปิดไฟอยู่ แต่สายตาของเย่เทียนแตกต่างจากคนปกติ กลางคืนสำหรับเขาก็เหมือนกลางวัน ปราดเดียวก็เห็นซูเหมยที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงกำลังมองมาทางเขา

"เกิดอะไรขึ้น? นอนไม่หลับเหรอ?"

เย่เทียนถาม ซูเหมยที่นอนอยู่บนเตียงส่ายหัวเล็กน้อย เธอลังเลอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยขึ้น "คุณขึ้นมานอนบนเตียงมั้ย?"

"นอนบนเตียง?"

เย่เทียนผงะ หรือว่าเธอคิดได้แล้ว?

"คุณ คุณอย่าคิดมากนะ ฉันแค่รู้สึกว่าเตียงนี้ก็ใหญ่โต ยังไงซะคุณก็เป็นแขก ให้คุณนอนบนโซฟาออกจะเกินไปหน่อย"

ซูเหมยรีบอธิบายอย่างร้อนรน

เย่เทียนได้ยินแบบนี้แล้วหัวเราะเบาๆอย่างอดไม่ได้ เขารู้สึกได้ถึงความสับสนในใจของซูเหมย แต่ในเมื่อคนสวยพูดเช่นนั้นแล้ว ถ้าเขายังไม่ตกลงออกจะไม่เป็นสุภาพบุรุษไปหน่อย!

ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและไปนอนลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว

ซูเหมยบอกว่านอนก็หมายความว่าให้เย่เทียนขึ้นมานอนเท่านั้นจริงๆ

เย่เทียนก็ไม่ฝืนใจเธอ และไม่ได้ฉวยโอกาสแต๊ะอั๋งใดๆ เขาได้กลิ่นหอมจางๆจากตัวซูเหมยแล้วรู้สึกสบายใจอย่างประหลาด

"นอนเถอะ"

ซูเหมยพยายามข่มอารมณ์ประหลาดในใจ หลังจากพูดจบ เธอก็หันไปอีกทางและไม่มองเย่เทียนอีก

"ฉันทำแบบนี้แย่ยิ่งกว่าเดรัจฉานอีกใช่มั้ยเนี่ย?"

เย่เทียนลูบจมูกและหัวเราะเฝื่อนๆอย่างอดไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กลิ่นหอมจางๆอันเป็นเอกลักษณ์ของซูเหมยโชยเข้าจมูกทุกลมหายใจ ในไม่ช้าเขาก็หลับไปเสียสนิท

คืนนี้ เย่เทียนหลับลึกมาก

หลังจากตื่นขึ้นมาก็พบว่ารุ่งเช้าแล้ว เขาหันไปมองด้านข้างด้วยสัญชาตญาณ และเห็นว่าคนงามบนเตียงได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

เหลือไว้เพียงกลิ่นหอมจางๆ ทว่าไม่มีร่องรอยของคนงาม

“คงไม่ใช่ว่าเขินและไม่กล้าสู้หน้าฉันหรอกนะ?”

เย่เทียนหัวเราะในใจ และลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำอย่างฉับไว

ไม่รอให้เย่เทียนล้างหน้าล้างตาให้เสร็จ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาฉับพลัน

เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูกลับเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ แต่เย่เทียนก็ยังกดรับสาย

เท่าที่เขาจำได้ เฉินหวั่นชิงเหมือนจะไม่เคยเป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อนเลย

บัดนี้มาเห็นภาพนี้แล้วเขาอดคลี่ยิ้มไม่ได้ เขารับสาย เสียงไพเราะของเฉินหวั่นชิงดังเข้ามา

“เย่เทียน คุณทำอะไรอยู่เหรอ?”

“ไม่ได้ทำอะไรนี่”

เย่เทียนตอบโดยไม่คิดอะไร ราวกับได้ยินความผิดปกติจากเสียงของเธอ เขาอดแซวไม่ได้ “ทำไมเหรอ จู่ๆถึงโทรมาหาผม คงไม่ใช่เพราะคิดถึงผมใช่มั้ย?”

“ใคร ใครคิดถึงคุณ คุณอย่าพูดเหลวไหลนะ!”

เฉินหวั่นชิงตอบด้วยความลนลานเล็กน้อย “ฉันแค่อยากจะถามคุณเรื่องที่ห้าสิบล้านนั้นเข้าบัญชีแล้วหรือยัง”

“เข้าแล้ว และใช้เกือบหมดแล้วด้วย”

เย่เทียนได้ฟังก็ไม่ได้จี้ใจดำต่อ เขาตอบอย่างไม่คิดอะไร

"ใช้ไปเกือบหมดแล้วเหรอ? ทำไมคุณถึงใช้เงินเก่งแบบนี้ล่ะ?" เฉินหวั่นชิงเซ็งขึ้นมาในทันใด คิดดูสิว่าบริษัทของเธอหนึ่งปีมีรายได้เท่าไหร่เอง อย่างมากสุดก็ไม่ถึงสองร้อยล้าน!

ถ้าไม่ใช่ว่าช่วงก่อนได้กำไรมากกว่าพันล้านด้วยความช่วยเหลือของเย่เทียน เธอจะยอมโอนเงินไปให้เย่เทียนอย่างใจกว้างถึงห้าสิบล้านได้ยังไง

แต่เขานี่สิ นี่เพิ่งจะผ่านไปนานเท่าไหร่เอง พริบตาเดียวก็ใช้ไปเกือบหมดแล้ว ต้องใช้เงินเก่งขนาดไหนกัน!

"แค่กๆ เงินที่ผมใช้ไปมีประโยชน์ทั้งนั้น"

เย่เทียนไอแห้งๆ นึกในใจว่าตัวเองนี่ใช้จ่ายเงินดุดันไปหน่อยจริงๆ แต่เงินที่เขาใช้นั้นสร้างมูลค่าเกินกว่าที่ใช้ไป ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีวัสดุยาที่ดีแล้ว เขาใช้เงินที่เหลือหมดด้วยอย่างแน่นอน

เฉินหวั่นชิงพูดเซ็งๆ "ช่างเถอะ ฉันไม่อยากยุ่งเรื่องของคุณ แล้วคุณจะกลับมาเมื่อไหร่?"

"ต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ทำไมเหรอ มีเรื่องสำคัญอะไรมั้ย?" เย่เทียนถามอย่างแปลกใจ

"เปล่า ฉันแค่ถามดู ไม่คุยแล้วนะ ฉันยังมีงานต้องทำ"

พูดจบเฉินหวั่นชิงไม่รอให้เย่เทียนตอบกลับมาก็วางสายไปทันที

เมื่อได้ยินเสียงตัดสายดังมาจากโทรศัพท์ เย่เทียนอดส่ายหัวและหัวเราะไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก และเก็บมือถือไป.....

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่