ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 375

“ยะ หยุดนะ!”

พอเห้นเย่เทียนสามารถจัดการกับพวกของตนได้อย่างรวดเร็ว แถมยังทำเหมือนไม่เห็นปืนที่ถืออยู่ในมือด้วย สามคนที่เหลือก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที

“อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสพวกนาย ถ้าพวกนายวางอาวุธแล้วยอมมอบตัวซะ ฉันจะยอมไว้ชีวิตพวกนายให้!”

เย่เทียนหันมองทั้งสามอย่างสบายๆ แต่กลับจับตาดูเงาที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มคนตลอดจากทางหางตา

“กะ แกเป็นใครกันแน่?”

สามคนที่ถือปืนหันมาสบตากัน หนึ่งในคนที่อายุมากหน่อยทนไม่ไหวจนต้องถามออกมา

ต่อให้ในมือจะมีอาวุธ แต่ความเร็วที่เหมือนผีของเย่เทียนเมื่อกี้ พวกเขาไม่สามารถมองตามได้ทันด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะยิ่งให้โดนเลย

“ถึงฉันจะไม่รู้ว่าพวกนายขึ้นมาบนเครื่องได้ยังไง ยิ่งไม่รู้ว่าพวกนายมีเป้าหมายอะไร แต่ว่า…..”

เย่เทียนขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ ฉันจะนับถึงสาม ถ้าพวกนายยังไม่ยอมวางอาวุธ จะมาโทษฉันไม่ได้นะ”

“กะ แกไม่ต้องมาขู่กันเลย!”

“ถ้าแกยังกล้าขยับอีกแค่นิดเดียว ฉันจะเป่าหัวแม่นี่ให้กระจุยเลย!”

ชายที่อายุน้อยที่สุดเกิดโมโหแล้วดึงหญิงวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ออกมา ใช้ปากกระบอกปืนที่เย็นเฉียบจ่อไปที่หัวของเธอ และหดตัวให้เล็กที่สุดอยู่ข้างหลัง

“นี่เป็นทางที่พวกนายเลือกเอง จะมาโทษฉันไม่ได้นะ!”

เย่เทียนยักไหล่ คัมภีร์หวงในร่างไหลเวียนออกมา งอนิ้วแล้วดีดออกไป

ถึงจะอยู่ห่างออกไปหลายเมตร ต่อให้ร่างกายกว่าครึ่งของชายคนนั้นจะหลบอยู่ข้างหลังหญิงวัยกลางคน แต่เขาก็ล้มหงายหลังไปทันที

ตรงกลางหว่างคิ้วของเขาได้เกิดรูที่มีเลือดไหลออกมาอย่างน่าตกใจ ทำให้อากาศทรงกลมเจาะผ่านไปได้!

“เสี่ยวหลง!”

ชายถือปืนที่เหลืออีกสองคนตกใจทันที สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว พวกเขาไม่เห็นเย่เทียนขยับอะไรด้วยซ้ำแต่พรรคพวกกลับล้มไปซะแล้ว

คนเราน่ะ มักจะกลัวในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้อยู่เสมอเสมอ ภายใต้ความหวาดกลัว ทั้งคู่ก็ไม่ทันไตร่ตรองก็ยิงปืนขึ้นมากระหน่ำยิงไปที่เย่เทียน

แต่ทว่า ภายใต้การปกป้องของโล่ทิพย์ป้องกันกาย กระสุนจึงไม่สามารถทำอันตรายอะไรกับเย่เทียนได้เลย

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เย่เทียนก็ยังหลบหลีกอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างที่ป้องกันกระสุนเอาไว้ ก็ยังต้องทำให้พวกมันหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็ว

ล้อเล่นรึเปล่า ตรงนี้มันอยู่สูงจากพื้นดินไม่รู้ตั้งกี่หมื่นเมตร ถ้าปล่อยให้กระสุนยิงตัวเครื่องจนทะลุ ภายใต้แรงดันอากาศที่รุนแรง ตัวเขารวมทั้งทุกคนในเครื่องก็คงจะตายจากการที่เครื่องตกแน่นอน!

ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเย่เทียนถึงไม่ได้ออกตัวตั้งแต่แรก เขาต้องการรู้ว่าอีกฝ่ายมีกี่คนกันแน่ และใช้อาวุธอะไรกันหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกเขายิงจนเครื่องบินทะลุ

ตอนที่หลบออกจากกระสุน เย่เทียนก็ได้รวบรวมอากาศทรงกลมขึ้นมาอีกสองลูก แล้วเจาะทะลุหว่างคิ้วของมือปืนทั้งสองอย่างไร้สุ้มเสียง

ทั้งสองล้มลงแทบจะพร้อมกัน ตายคาที่ไปทันที แม้แต่ร้องโอดครวญยังไม่ทันเลย

ช่างเป็นพวกกล้าบ้าบิ่นที่น่าสงสารจริงๆ ถึงจะสามารถผ่านการตรวจค้นที่คุมเข้มแล้วพกอาวุธเข้ามาในเครื่องได้ แต่กลับต้องมาเจอกับเย่เทียน

ถ้าให้พูด ตั้งแต่เย่เทียนก้าวออกมาจัดการกับคนกลุ่มนี้ รวมๆ ก็เป็นเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างยังตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เลย

“ว่ายังไง? พวกนายตั้งใจจะรอไปถึงไหน หรือยังต้องให้ฉันไปเชิญพวกนายด้วยตนเอง?”

เย่เทียนกวาดตามองไปยังทุกคน แล้วยิ้มอย่างขบขันออกมาที่มุมปาก

เหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ เย่เทียนจึงได้ถามเค้นไปว่า “จริงสิ ความเข้มงวดเรื่องการตรวจค้นของประเทศเรานั้นมันสูงมากเลยนะ พวกนายทำยังไงถึงสามารถพกอาวุธจากจ๊กกลางขึ้นมาบนเครื่องได้? พวกนายยังมีพรรคพวกคนอื่นอยู่อีกใช่มั้ย

ปั้ง!

ไอ้ฟันทองไม่พูดพร่ำทำเพลง ชักปืนแล้วยิ่งปืนขึ้นไปด้านบน “ไม่ต้องพูดมาก รีบสั่งให้เครื่องบินเปลี่ยนทิศไปทาง มณฑลหยุนเตียนเดี๋ยวนี้!”

“ฉันรู้ว่าแกพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ฉันขอเตือนเลยนะว่าแกอย่าทำอะไรตามอำเภอใจจะดีกว่า ถ้าแกไม่สามารถฆ่าเราให้ได้ในทันที ฉันเชื่อว่าพวกเราจะสามารถดึงคนให้ตายตามพวกเราไปได้อีกมากเลยล่ะ!”

“ถ้าเป็นเวลาปกติฉันก็ไม่รังเกียจที่จะไปเดินเล่นในประเทศจีนที่สวยงามหรอกนะ แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องรีบกลับไปที่เจียงหนันน่ะ”

เย่เทียนส่ายหน้า แล้วนั่งลงบนที่นั่งว่างๆ อย่างใจเย็น เริ่มจิ้มนิ้วเล่น และพูดออกมาอย่างไม่รีบร้อนว่า “สิ่งที่พวกนายต้องการนั้น ต้องขอโทษด้วยที่ฉันทำให้ไม่ได้ เปลี่ยนไปขออย่างอื่นเถอะนะ!’

ท่าทางที่เกียจคร้านแบบนี้ของเขา แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ได้เห็นทั้งสามคนอยู่ในสายตาเลย

“นี่แก!” ไอ้ฟันทองโกรธจนกัดฟันแน่น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่กล้ายิงคนตายหรอกนะ ประเด็นคือเมื่อกี้พรรคพวกของพวกเขาตายไปอย่างลึกลับ แล้วทำไมพวกเขาจะไม่กลัวว่าตัวเองจะมีชะตากรรมแบบนั้นเหมือนกันล่ะ

ในตอนนั้นเอง ผ้าม่านของชั้นเฟิร์สคลาสก็ถูกเปิดออก เซ่เจียได้เดินตามสจ๊วตที่ในเครื่องแบบคนหนึ่งออกมา

“ผมคือกัปตันของเครื่องบินลำนี้ พวกคุณอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ถ้าพวกคุณรับปากว่าจะไม่ทำร้ายใคร ไม่ว่าพวกคุณต้องการอะไร ผมจะยอมทำตามทุกอย่าง!”

ที่แท้ ในตอนที่เย่เทียนกำลังวุ่นวายกับคนพวกนี้อยู่นั้น เซ่เจียก็ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นบนเครื่องให้กัปตันผ่านทางเครื่องสื่อสารไปตั้งนานแล้ว

เย่เทียนหันหน้ากลับไปด้วยความตกใจ และยิ้มอย่างจนใจออกมาที่มุมปาก

ถึงจะรู้ว่าเซ่เจียทำด้วยความหวังดี แต่มันไม่ได้จังหวะไปหน่อยเหรอ? นี่มันเป็นการทำลายแผนของคนอื่นไม่ใช่รึไง?!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่