กับคำพูดที่หญิงคนนั้นพยายามพูดออกมา มันก็ทำให้เย่เทียนสีหน้าดูประหลาดขึ้นมา
ในเมื่อบอกว่ากลัวจะได้รับผิดชอบ แล้วทำไมพอบอกว่าจะแจ้งตำรวจถึงเลือกที่จะก้าวออกมาล่ะ? กลัวจะไปทำให้คนดีเดือดร้อนจริงๆ เหรอ? ถ้ารองผอ.บริสุทธิ์จริง แล้วมันมีอะไรให้กลัว?
พอคิดได้แบบนี้ เย่เทียนก็เดินออกไปอย่างเนียนๆ เดินไปยังผู้ดูแลของโรงงานที่อยู่ข้างๆ เพื่อถามข้อมูลที่อยากรู้
“พี่ชาย ผมมีเรื่องอยากถามหน่อยครับ”
“ไม่ทราบว่าคุณชายเย่มีอะไรจะให้รับใช้เหรอครับ?”
ตอนแรกผู้ดูแลยังทำท่ารำคาญ แต่พอหันมาแล้วเห็นว่าเป็นเย่เทียน ก็รีบวางตัวให้ต่ำลงทันที
ล้อเล่นน่ะ เมื่อกี้เขาได้ยินอย่างชัดเจนแล้ว ชายหนุ่มที่ไม่ได้ดูดีคนนี้เป็นสามีที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับเฉินหวั่นชิงเรียบร้อยแล้ว นี่มันเขยของบริษัทแซ่เฉินเลยนะ!
ต่อให้เขาจะไร้สมองยังไง แต่เรื่องอะไรง่ายๆ พวกนี้เขาก็ยังพอรู้บ้าง เขยคนนี้ใช่คนที่เขาจะมีเรื่องได้ด้วยเหรอ?
“รองผอ.คนนั้นเป็นคนยังไงเหรอครับ? เป็นคนอายุน้อยที่มีความสามารถรึเปล่า?”
เย่เทียนถามคำถามที่แปลกประหลาดออกมา
ผู้ดูแลที่ถูกถามก็ถึงกับอึ้ง จากนั้นก็ตั้งสติได้ ปรากฏแววตาที่มีไหวพริบออกมา
ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ลำพังแค่พนักงานการเงินเล็กๆ คนหนึ่งไม่มีทางเอาอยู่แน่นอนแถมยังสามารถปกปิดได้นานเป็นสิบวัน
เบื้องหลังของหญิงคนนั้น ต้องมีคนระดับสูงคอยหนุนหลังอยู่แน่!
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ชื่อของระดับสูงคนนี้มันก็ปรากฏชัดเจนอยู่แล้ว นอกจากรองผอ.คนนี้ยังจะเป็นใครได้อีก?
อย่างน้อย รองผอ.นั่นก็น่าสงสัยที่สุดแล้ว!
“รองผอ.อายุสามสิบพอดี เป็นนักเรียนเรียนดีที่จบจากมหาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศ”
“ไม่ว่าเป็นความสามารถในการทำงานหรือนิสัยก็ถือว่าใช้ได้ มนุษยสัมพันธ์กับคนในในโรงงานก็ดีมาก”
“ที่สำคัญ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่ใช่แค่ในโรงงานของเรา แม้แต่ในบริษัทย่อยต่างๆ ก็มีผู้หญิงเล็งเขาไว้เยอะมาก”
พอเย่เทียนได้ยินอย่างนั้น ก็เข้าใจขึ้นมาทันที และพอเข้าใจว่าเรื่องมันเป็นมายังไงแล้ว
เมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า ช่วงนี้กำลังมีปัญหาเรื่องหย่าร้างอยู่
ชายวัยทำงานที่ซื่อตรงคนหนึ่ง แถมยังเป็นชายระดับสูงที่มีความสามารถ ในสายตาของคนอื่นก็คงจะเป็นโอปป้าในอุดมคติเลย
ถ้าอยากหลอกผู้หญิงธรรมดาสักคน มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากเลยไม่ใช่รึไง?
พอคิดถึงตรงนี้ เย่เทียนก็เดินออกไปอย่างไม่ลังเล เดินตรงไปข้างๆ เฉินหวั่นชิง แล้วกระซิบเบาๆ ว่า “ที่รัก ผมว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะถูกหลอกใช้แล้วล่ะ แถมยังยอมรับผิดแทนอีกฝ่ายอย่างเต็มใจด้วย”
“คนร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์อันวุ่นวายในครั้งนี้ เกรงว่าจะเป็นรองผอ.ที่หายตัวไปนั่นแหละครับ!”
เฉินหวั่นชิงที่ได้ฟังแบบนั้น คิ้วที่เล็กเรียวก็ขมวดเป็นปม และไม่ค่อยเชื่อที่เย่เทียนพูดสักเท่าไหร่
“มันไม่น่าจะเป็นไปได้มั้ง? ต่อให้เธอจะโง่ขนาดไหน ก็คงไม่โง่ขนาดนี้หรอกมั้ง? นี่ไม่เท่ากับโดนคนอื่นหลอกใช้แล้วยังรับผิดแทนอีกไม่ใช่รึไง?”
เย่เทียนรู้สึกอยากขำในใจ แค่จากจุดนี้ก็พอรู้แล้วว่าเฉินหวั่นชิงไม่น่าจะเคยมีแฟนมาก่อน
ผู้หญิงที่ได้ตกไปอยู่ในโลกแห่งความรักแล้ว ไอคิวที่มีก็น่าจะติดลบไปเลย ภายใต้คำหวานของชายหนุ่ม มีเรื่องบ้สคลั่งอะไรที่ทำไม่ได้?
อย่างน้อย ครั้งหนึ่งที่ไปปฏิบัติภารกิจเมื่อชาติก่อน เย่เทียนก็เคยเจอหญิงสาวที่ถูกความรักบังตา อุ้มระเบิดมาขวางทางเขาอย่างไม่กลัวตายเลย
และการที่เธอทำแบบนั้น มันก็ทำให้เวลาในการปฏิบัติภารกิจเพิ่มขึ้นอีกสองชั่วโมงเท่านั้น!
“นี่ที่รัก ครั้งนี้คุณเชื่อผมเถอะนะ! ฟังที่ผมพูดมันไม่มีทางผิดแน่นอน”
“เอาแบบนี้ เรื่องนี้ให้ผมจัดการ คุณรอดูอยู่ข้างๆ ก็พอ”
เย่เทียนหันไปกะพริบตาปริบๆ ให้เฉินหวั่นชิง แล้วรวมอำนาจทั้งหมดมาที่ตน
“ตอนนั้นรองผอ.ไปทำนักศึกษาคนหนึ่งท้อง ถ้าไอ้ชาติชั่วนั่นไม่อยากได้ลูกก็ไม่เป็นไร แต่ค่าทำแท้งยังไม่อยากจะออกเลย”
“สุดท้ายนักศึกษาหญิงคนนั้นก็ถูกกดดันจนต้องกระโดดตึก คนชั่วแบบนี้มันสมควรออกไปแล้วถูกชนตาย จะเรียกว่ายอดเยี่ยมได้ยังไง?”
ทว่า เย่เทียนไอ้แห้งๆ ออกมาสองที จากนั้นก็ทำหน้าโมโห
ภายใต้การแสดงที่แยบยลของเย่เทียน ทุกคนที่เห็นไม่เพียงไม่สงสัย แต่กับเกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาแล้วด้วย
ปกติรองผอ.นี่เป็นคนที่เชื่องจะตาย ไม่นึกเลยว่าจะมีอดีตที่น่าตกใจแบบนี้!
ในสมัยนี้ ถึงแม้เรื่องอย่างว่าของชายหญิงในสายตาของทุกคนจะค่อนข้างเสรีก็ตาม แต่การที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ ถ้าไม่ใช่คนชั่วแล้วจะให้เรียกว่าอะไร?!
“โกหก! พี่หลินไม่ได้เป็นคนแบบนั้นสักหน่อย!”
หลิ่วฉินตอบสนองออกมาอย่างรุนแรง เธอได้เถียงออกมาทันที
“คุณหลิ่ว เมื่อกี้คุณยังบอกว่าไม่ได้สนิทกับรองผอ.อยู่เลยไม่ใช่เหรอครับ? แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเขาทำเรื่องแบบนี้จริงๆ รึเปล่า?”
“ทะ ทำไมฉันจะไม่รู้? ก่อนหน้านี้ในงานเลี้ยงของบริษัท ฉันเคยได้ยินพี่หลินพูดว่า…..”
หลิ่วฉินรู้สึกใจหาย จึงรีบอธิบายออกมาทันที
เย่เทียนเอามือลูบคาง พูดพร้อมส่ายหน้าว่า “คุณหลิ่ว เดี๋ยวคุณก็บอกว่าไม่ได้สนิทกับรองผอ.เดี๋ยวก็เรียกเขาว่าพี่หลิน ถ้าจะเรียกว่าพี่หลิน มันดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่จริงมั้ย?”
หลิ่วฉินตกใจอย่างมาก ทำไมจะไม่รู้ว่าเย่เทียนกำลังประชดคำพูดของเธออยู่ จึงรีบตั้งสติแล้วใจเย็นลง
“เอาล่ะ คุณหลิ่ว คุณเลิกอ้างนู้นอ้างนี่ได้แล้ว”
เย่เทียนทำหน้าจริงจัง และพูดอย่างมีเหตุมีผลว่า “ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้พูดกับคุณให้ชัดเจน ถ้าคุณรู้ว่ารองผอ.อยู่ที่ไหนก็รีบบอกมาเดี๋ยวนี่!”
“เรื่องในวันนี้บอกว่าใหญ่มั้ยก็ไม่ได้ใหญ่ บอกว่าเล็กมั้ยก็ไม่ได้เล็ก แต่ถ้าผมอยากเล่นงานเขา การที่จะทำให้เขาไปนอนอยู่ในคุกสักสามถึงห้าปีก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...