แม้ว่าฉินโล่หยินจะออกไปรับเย่เทียนแต่เช้า แต่เมื่อพวกเขากลับมาถึงเขตทหาร ก็ใกล้เวลาอาหารแล้ว
นี่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ ใครให้เขตทหารไกลจากในเมืองใช้เวลาขับรถเกือบ 2 ชั่วโมง ไปกลับก็ใช้เวลาไปตั้ง 4 ชั่วโมงแล้ว
ในเมื่อตี๋ต้าจื้อได้รับหน้าที่ปกป้องเฉินหวั่นชิงแล้ว ดังนั้นเย่เทียนจึงไม่ต้องรีบกลับไป เลยแสดงความปรารถนาที่จะรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน เพื่อขอบคุณฉินโล่หยิน ที่มารับส่ง เขายังเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะไปทานข้าวที่ฉินโหลว
นี่ทำให้ฉินโล่หยินกลอกตาติดๆกันโดยไม่ได้อารมณ์เสีย ฉินโหลวเป็นทรัพย์สินของตระกูลฉิน เธอซึ่งเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินยังจำเป็นต้องจ่ายเงินเหรอ?
พูดอีกที เธอรู้ดีว่าคุณปู่เคยส่งการ์ดมังกรดำให้เย่เทียน ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับทรัพย์สินของตระกูลฉินทุกอย่างได้ฟรี
คุณเลี้ยงผม ผมจ่ายเงิน? นี่เรียกว่าอะไรนะ!
เมื่อจะพูดเช่นนี้ แต่สุดท้ายฉินโล่หยินก็ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของเย่เทียน ขับรถจอดไว้ที่ฉินโหลว
เมื่อมองไปที่อาคารโบราณฉินโหลวที่ประดับประดาอยู่ข้างหน้า เย่เทียนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องการแกล้งเป็นแฟนของคุณหนูใหญ่ฉินเพื่อจัดการกับหลี่เสว่เฟิน แล้วนึกถึงเหตุการณ์ที่ไปจ๊กกลางเรื่องหนึ่ง รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
"คุณยิ้มบ้าอะไร? ไปกันเถอะ!"
ฉินโล่หยินที่ลงจากรถส่ายศีรษะ ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว โอบแขนของเย่เทียน และดึงเขาเข้าไปที่อาคารฉินโหลว
สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของแขนที่นุ่มนวลในเวลาเดิน เย่เทียนสัมผัสถึงความร้อนจากจุดตันเถียนของเขา ลูบจมูกของเขาโดยไม่รู้ตัว และเดินตามฉินโล่หยินเข้าไปในห้องโถงของฉินโหลว
แม้ว่าจะใกล้ถึงเวลามื้ออาหาร แต่ฉินโหลวกลับไม่มีแขกอะไร
ในเมื่อฉินโหลวก็เป็นโรงแรมชั้นนำ หนึ่งมื้อแค่เบาๆก็คงหลายหมื่น นอกจากนี้ยังต้องมีการเป็นสมาชิก และต้องจองสั่งรายการล่วงหน้าถึงจะได้
แน่นอนว่าฉินโล่หยินคงไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น
ไม่ว่าจะพูดยังไง เธอก็เป็นคนโปรดปรานของตระกูลฉิน เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมของครอบครัว ย่อมได้รับสิทธิพิเศษอย่างแน่นอน
ทั้งสองเพิ่งเดินเข้ามา พนักงานเสิร์ฟในเครื่องแบบรีบเข้ามาทักทายด้วยท่าทางที่ประจบสอพลอเล็กน้อย
“คุณฉิน คุณมาที่นี่ได้ไงคะ? ท่านรอสักครู่ ฉันจะโทรหาผู้จัดการเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น ฉันแค่พาเพื่อนมาทานข้าว คุณหาห้องวีไอพีที่เงียบสงบให้ฉันก็พอะ”
เห็นได้ชัดว่าฉินโล่หยินคุ้นเคยกับพนักงานของฉินโหลวมาก และตอบด้วยรอยยิ้ม
แน่นอนพนักงานเสิร์ฟไม่มีความเห็นใดๆอยู่แล้ว สำหรับฉินโล่หยินที่เป็นเจ้านายของเจ้านาย เธอคงไม่กล้าที่จะล่วงเกิน
เพียงแต่ในขณะที่หันหลังกลับ พนักงานเสิร์ฟก็เหลือบมองเย่เทียนที่ฉินโล่หยินกอดแขนไว้โดยไม่ตั้งใจหลายรอบ
เธอรู้สึกคุ้นตากับเย่เทียนมาก ราวกับว่าเธอเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง สรุปเธอเคยเห็นที่ไหนนะ แต่กลับคิดไม่ออกในเวลาอันสั้น
แต่ แน่นอนเธอไม่กล้าที่จะไปซักถาม เอาเครื่องส่งรับวิทยุที่ห้อยอยู่ที่เอวของเธอและสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานของเธอ แล้วเดินไปข้างหน้าเพื่อนำทางให้ทั้งสองคน
เมื่อสังเกตเห็นปฏิกิริยาของพนักงานเสิร์ฟ เย่เทียนก็จงใจดึงฉินโล่หยินให้ช้าลงสักสองสามก้าว พูดแซวๆว่า "คนสวย ผมว่าคุณคงไม่ใช่ตั้งใจทำอย่างนั้นมั้ง?"
“ฉันตั้งใจทำอะไรเหรอ?” สีหน้าของฉินโล่หยินมึนงง เธอแทบไม่รู้เลยว่าเย่เทียนพยายามจะสื่อถึงอะไร
"ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ข้างนอกก็ช่างเถอะไม่เป็นไร แต่ตอนนี้พวกเราก็เข้ามาข้างในแล้วคุณยังกอดผมอยู่ อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้คุณไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าแปลกๆ ของพนักงานเสิร์ฟคนนั้น!”
“ผมว่าคุณต้องจงใจแน่นอน เพื่อให้พวกเขาส่งข่าวถึงหูของหวั่นชิง ถึงเวลานั้นหวั่นชิงต้องทะเลาะกับผมแน่นอน แล้วคุณก็จะได้มีโอกาสเข้าแทรก!”
“ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีข่าวมาก่อนเรื่องที่ฉินโล่หยินมีแฟน แต่ตอนนี้เธอหาได้ผู้ชายคนหนึ่งด้วยไม่ให้สุ้มให้เสียง นี่เป็นเรื่องใหญ่มากนะ!”
“แต่ว่า คุณฉินอายุก็20กว่าแล้ว เธอควรอยู่ในวัยที่เป็นอิสระ ไม่มีผู้ชายคอยปลอบโยนเธอในตอนกลางคืน แน่นอนต้องทนความเหงาไม่ได้อยู่แล้ว”
เมื่อคิดเช่นนี้ พนักงานเสิร์ฟจะมากจะน้อยก็มีความเข้าใจฉินโล่หยินบ้างล่ะ
แน่นอน เธอเก็บการคาดเดาของเธอไว้ลึกๆในใจ ไม่ว่ายังไงนี่ก็เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่ใช่เหรอ?
"คุณฉิน สุภาพบุรุษท่านนี้ พวกท่านทั้งสองเชิญนั่งก่อน ฉันจะไปชงชาให้พวกท่านนะคะ”
พนักงานเสิร์ฟนำเย่เทียนและฉินโล่หยินเข้าไปในห้องวีไอพีที่หรูหรา จากนั้นจึงออกไปด้วยความเคารพนับถือ
“ผู้จัดการ คุณฉินพาเพื่อนมาทานอาหาร ฉันจัดให้นั่งในห้องวีไอพีเบอร์สาม” แต่ว่าพนักงานเสิร์ฟเพิ่งเดินออกจากทางเดิน ยังไม่ทันจะไปที่บาร์ เธอก็ชนเข้ากับผู้จัดการโรงแรมที่ถือไวน์แดงสองขวด
“คุณฉินมาแล้วเหรอ งั้นผมจะชงชาให้พวกเขา เดี๋ยวสักพักผมจะไปส่งด้วยตัวเอง”
หลังจากประหลาดใจ ผู้จัดการที่ถือไวน์แดงสองขวดก็รีบส่งไวน์แดงให้พนักงานเสิร์ฟหญิง “เสี่ยวชุ่ย นี่คือไวน์แดงสองขวดที่แขกในห้องวีไอพีหมายเลขเจ็ดสั่ง คุณส่งไปให้พวกเขาหน่อยนะ!”
ในเมื่อผู้นำสั่งมา แม้ว่าพนักงานเสิร์ฟจะไม่พอใจ แต่เธอก็ถูกกำหนดแล้วให้แสดงออกมาไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงต้องรับไวน์แดงสองขวดอย่างเชื่อฟังและเดินไปที่ห้องวีไอพีหมายเลขเจ็ด
ในเวลาเดียวกัน ในห้องวีไอพีหมายเลขสามซึ่งควรจะเป็นชายหญิงอยู่ตามลำพัง แต่กลับมีสาวสวยประจำชาติอีกสองคน!
เย่เทียนสูญเสียความสงบก่อนหน้านี้ไปนานแล้ว ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างล้ำลึก และใบหน้าทั้งหมดของเขาเป็นเหมือนมะระขม
ไม่มีเขา สองคนที่ปิดกั้นประตูห้องวีไอพีหมายเลขสาม ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเฉินหวั่นชิงกับเซ่เจียนั่นเอง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...