ถึงยามค่ำคืน
เย่เทียนค่อยๆเดินออกจากโรงแรมห้าดาวที่ทองอร่ามหรูหรา เขาเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีดาวประดับประดา สีหน้าโศกเศร้าอย่างพูดไม่ออก
เขาอุตส่าห์หารือเรื่องจะจัดการแก๊งS.P.Lยังไงกับตี๋ต้าจื้อเสร็จแล้ว และเสียเวลาทั้งบ่ายเพื่อปรุงยาพิษของจริงขึ้นมาสี่ห้าเม็ดให้น้องหยวน
ยังไงซะถึงเวลาน้องหยวน ต้องแบกรับแรงกดดันที่มาจากแก๊งหย่งเย่ด้วย แค่ขู่เฉยๆไม่ได้ผลหรอก
รอจนพระอาทิตย์ตกเขาก็กลับมาถึงคฤหาสน์ นึกว่าจะมีอาหารเย็นอบอุ่นสักมื้อ แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฉินหวั่นชิงบอกให้เขารีบไปส่งเซ่เจียที่เมืองเอกเพื่อหารือเรื่องรายละเอียดยิบย่อยของคอนเสิร์ตกับผู้จัดการของเธอ
สิ่งที่เย่เทียนเซ็งที่สุดของที่สุดคือ เนื่องจากเซ่เจียยังหาบอดี้การ์ดใหม่ไม่ได้ สามวันนี้เย่เทียจึงต้องคอยคุ้มกันเซ่เจียตลอดจนกว่าคอนเสิร์ตของเธอจะจบ!
แต่เฉินหวั่นชิงยังบอกอีกว่าถ้าเย่เทียนไม่ช่วย เธอจะย้ายกลับไปที่คฤหาสน์เก่าของตระกูลเฉินไปอยู่กับท่านชังไห่
เมื่อเห็นท่าทีของเฉินหวั่นชิงเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ เย่เทียนทำอะไรไม่ได้ มีแต่ต้องยอมมาส่งเซ่เจียที่เมืองเอกแต่โดยดีและบ่นอุบอิบในใจ
นี่ไงล่ะ เห็นเซ่เจียหารือเรื่องคอนเสิร์ตกับผู้จัดการแล้วเย่เทียนทนไหวที่ไหน เขารีบออกมาจัดการเรื่องของอวัยวะภายในตัวเองก่อน
จนป่านนี้เย่เทียนถึงมีเวลาย้อนคิด และในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมตอนอยู่บนภูเขาเฟิ่งหวงเฉินหวั่นชิงถึงจงใจให้เซ่เจียมาหลอกล่อตัวเอง
พูดตามตรง สงสัยสองสาวคงคุยกันไว้แต่แรกแล้วว่าให้เย่เทียนคุ้มกันเซ่เจียเป็นการชั่วคราวก่อน แต่ก็กลัวว่าเย่เทียนจะทำอะไรไม่ดี จึงทดสอบล่วงหน้า
คิดมาถึงตรงนี้ เย่เทียนไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี
ตกลงเฉินหวั่นชิงใช่เมียตัวเองมั้ย? ก่อนจะตัดสินใจอะไรต้องหารือกับตัวเองก่อนไม่ใช่เหรอ?
ไม่ว่ายังไงตอนที่เย่เทียนออกมาจากโรงแรมก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เขาที่กำลังหิวโหยเดินไปได้ไม่ไกล เขานั่งลงที่ร้านปิ้งย่างใกล้โรงแรมร้านหนึ่ง
แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ดึกมาก แต่ร้านปิ้งย่างขายดีใช้ได้ ครอบครัวสามคนกำลังยุ่งกันหัวหมุน
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าจะสั่งอะไรคะ?”
เย่เทียนเพิ่งจะนั่งลงก็มีเด็กสาววัยเยาว์คนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวานบนใบหน้า
เด็กสาวดูอายุราวๆ 17-18 หน้าตาเรียบร้อยดูดี เป็นเด็กผู้หญิงที่มองได้ไม่เบื่อ เห็นได้ชัดว่ามาช่วยพ่อแม่ทำงานหลังเลิกเรียน
“เอาน่องไก่ย่าง ปีกไก่ย่าง….แล้วก็เบียร์สองขวด”
เย่เทียนยิ้มยิงฟันขาว สายตาจ้องตรงไปยังใบหน้าของเด็กสาว
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวมาเสิร์ฟค่ะ”
เหมือนเด็กสาวจะทนการจ้องมองแบบนี้ของเย่เทียนไม่ไหว ใบหน้าเล็กๆนั่นมีริ้วแดงปรากฏ หลบสายตาเล็กน้อย ไม่กล้าจ้องเย่เทียนตอบ
“แหมๆ ดูท่าแม้แต่เด็กผู้หญิงอายุน้อยยังต้านทานความหล่อของฉันไม่ไหว หน้าตาหล่อเกินไปไม่ใช่เรื่องดีจริงๆ”
เห็นร่างบางเด็กสาวที่ดูหนีไปด้วยความลนลาน เย่เทียนลอบดีใจ เขาถูจมูกตามสัญชาตญาณ และเคลิบเคลิ้มกับตัวเอง
คู่รักที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยินที่เย่เทียนพึมพำ ฝ่ายชายทำหน้าจะอ้วก สายตามองเย่เทียนด้วยความพิกล
“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ!”
เย่เทียนกวาดสายตามองเขาเรียบๆ
“ฉันเคยเห็นคนหน้าด้านมาเยอะ แต่คนที่หน้าด้านถึงเพียงนี้เคยเจอไม่กี่คนจริงๆ”
ชายคนนั้นรีบเบนสายตากลับไป และหันไปบ่นกับแฟนสาวข้างกาย
แฟนสาวของเขาพยักหน้ารัวๆ เห็นได้ชัดว่าเห็นด้วยกับคำพูดของชายคนนี้มาก
เย่เทียนรู้สึกหมดคำพูดในบัดดล ดีที่เขาอารมณ์ดีใช้ได้ จึงไม่ได้ถือสาเอาความคู่รักคู่นั้น
พวกนักเลงไม่สงบปากสงบคำเลยสักนิด กลับกัน พวกเขาโวยวายใส่ฝูงชนอย่างสามหาว ประหนึ่งตัวเองนั้นยิ่งใหญ่เกรียงไกร
ตาสีนิลของเย่เทียนหรี่ลง นัยน์ตาฉายแววเย็นเยียบ
“พี่เหลยหั่ว ลมอะไรหอบคุณมาครับวันนี้?”
ไม่รอให้เย่เทียนได้ตอบโต้ เจ้าของร้านปิ้งย่างก็ชิงเดินเข้ามาและยิ้มพะเน้าพะนอ วางตัวต้อยต่ำสุดๆ
“แกคิดว่าฉันอยากมาร้านแกหรือไงวะ ถ้าไม่ใช่เห็นว่าลูกสาวแกหน้าตาถือว่าน่ามอง พอจะกระตุ้นความอยากอาหารได้ ฉันถล่มร้านเส็งเคร็งของแกไปนานแล้ว!”
“มัวยืนอึ้งอะไรอยู่ ยังไม่รีบยกของอร่อยมาให้ฉันอีก”
คนผมแดงที่ถูกเรียกว่าเหลยหั่วไม่มองเจ้าของร้านเลยสักนิด เขานั่งลงตรงที่ว่าง นั่งไขว่ห้างอย่างโอหัง
“ได้ครับๆ รอสักครู่นะครับพี่เหลยหั่ว ผมจะไปทำให้เดี๋ยวนี้ครับ”
เจ้าของร้านปิ้งย่างหน้าเสียนิดหน่อย นัยน์ตาฉายแววโมโหจางๆ แต่ก็อดกลั้นไว้ไม่ได้ปะทุออกมา กลับหันไปตะโกนบอกเด็กสาวที่ต้อนรับเย่เทียนก่อนหน้านี้ “เสว่เอ๋อร์ ยังไม่รีบเอาเบียร์ลังไปให้พวกพี่เหลยหั่วอีก”
เด็กสาวที่ถูกเรียกว่าเสว่เอ๋อร์รีบยกเบียร์หนึ่งลังเข้ามาและวางลงบนโต๊ะอย่างหนัก หน้าสวยๆของเธอป่อง
“ดื่มให้ตายไปเลย”
พวกเหลยหั่วแทบจะมากินฟรีดื่มฟรีทุกวัน ถ้าไม่ใช่ว่าพ่อแม่ห้ามไว้ ไม่แน่เธอคงแจ้งตำรวจไปนานแล้ว ท่าทีจึงไม่ได้ดีเท่าไหร่
“น้องสาว พูดจาอย่างนี้กับพี่เหลยหั่วได้ยังไงวะ?!”
ทว่าท่าทีของเสว่เอ๋อร์ทำให้พวกนักเลงที่อยู่ตรงนี้ไม่พอใจ และมีคนผมทองคนหนึ่งตบโต๊ะลุกขึ้นมา
ไม่มีใครคิดเลยว่าคำพึมพำของเสว่เอ๋อร์จะทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้น……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...