“งั้นผมขอเลือกสู้กับคุณสักตั้งก็แล้วกัน! ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่ต้องไปนอนโรงพยาบาลครึ่งเดือน!”
เดิมทีเย่เทียนก็โกรธเรื่องของเซ่เจียอยู่แล้ว อีกอย่างตอนนี้เขาก็ยอมถอยแล้วด้วย แต่เซวหมานจื่อก็ยังไม่ยอมเขา ซึ่งมันก็ทำให้เย่เทียนโกรธจนได้
“ว้าว!”
ทันทีที่เขาพูดคำนี้ ทุกคนในงานถึงกับตกใจและสูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างห้ามตัวเองไม่ได้
“ให้ตายสิ! ไอ้หมอนี่มันบ้าพอที่จะท้าทายเซวหมานจื่อเลยเหรอ?!”
“เราไม่เคยเห็นไอ้หมอนี่เลยนะ สงสัยเป็นเด็กใหม่สิท่า?”
“ไอ้เด็กคนนี้มันอยู่เขตไหนกันแน่? สงสัยเป็นลูกวัวแรกเกิดที่ไม่รู้จักความน่ากลัวของเสือซะแล้ว!”
ต้องเข้าใจว่าเซวหมานจื่อเป็นถึงนักรบอันดับหนึ่งในเขตทหารทุกเขตที่ถังเหวินหลงเป็นผู้รับผิดชอบ และยังเป็นมือวางอันดับหนึ่งของผู้ท้าชิงการแข่งขันการคัดเลือกของทีมสายฟ้าประจำปีนี้อีกด้วย!
“ฮ่า ๆ! ไม่เลว ไม่เลวจริง! นานแล้วที่ไม่มีใครกล้าพูดกับผมแบบนี้”
แต่ว่า เซวหมานจื่อนั้นกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่ทุกคนคาดเดาไว้ เขาหัวเราะออกมาดังๆ แล้วยื่นมือออกไปหาเย่เทียน “พี่ชาย ผมชื่อเซวฟู่เหลิน ชื่อเล่นชื่อเซวหมานจื่อ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ?”
“หืม?!”
เย่เทียนถึงกับตะลึงและยื่นมือออกไปอย่างสงสัย “เย่เทียน!”
“ที่แท้ก็คือเย่เทียนนี่เอง?”
เซวหมานจื่อทำหน้าเหมือนได้ค้นพบทวีปใหม่ ดวงตาเยี่ยงเสือโคร่งของเขาแสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมา “กล้าหาญแบบนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ท่านถังชื่นชมคุณขนาดนี้”
แม้จะพูดแบบนี้ แต่มือของเซวหมานจื่อที่จับมืออันกว้างใหญ่ของเย่เทียนก็เพิ่มแรงบีบเพื่อพยายามจะทรมานเขา
อย่ามองว่าเซวหมานจื่อเป็นคนร่างใหญ่แล้วไร้สมอง แต่มันกลับตรงกันข้าม เพราะเขาละเอียดอ่อนมากกว่าที่คิด
เมื่อพูดถึงเรื่องใกล้ตัวที่สุด ถังเหวินหลงเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงในคืนนี้ แล้วถ้าเขาก่อความวุ่นวายด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้ ผลที่ตามมาคือเขาจะต้องถูกทำโทษโดยการล้างห้องน้ำอย่างน้อยหนึ่งเดือนแน่นอน!
และถ้าพูดถึงเรื่องไกลตัวที่สุด เขากับเย่เทียนต่างก็เป็นผู้ถูกเลือกในการเข้าร่วมการแข่งขันการคัดเลือกของทีมสายฟ้า แล้วถ้าหากเขาทำให้เย่เทียนบาดเจ็บจนกระทั่งมีผลกระทบต่อผลการแข่งขันล่ะ ถังเหวินหลงจะปล่อยเขาไว้หรือ?
เมื่อสัมผัสถึงแรงบีบในมือ คิ้วที่เพิ่งคลายลงของเย่เทียนก็ขมวดขึ้นอีกครั้ง เขามองไปที่เซวหมานจื่อที่ยังคงแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าและแสยะยิ้มในใจอย่างไม่หยุด
เขายอมรับว่าเซวหมานจื่อแรงเยอะมาก อย่างน้อยเทียบเท่ากับชายฉกรรจ์สามคนได้ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าจะรังแกเขาได้ง่ายๆ!
เมื่อความตั้งใจเปลี่ยนไป เย่เทียนส่ายไหลของเขาเบาๆ และมือขวากระตุกเล็กน้อย จากนั้นมืออันกว้างใหญ่ของเซวหมานจื่อก็ถูกสะบัดออกไปอย่างง่ายดาย!
พรึ่บ!
เซวหมานจื่อไม่คาดคิดเลยว่าเย่เทียนจะใช้วิธีนี้ เขาจึงไม่ทันตั้งตัว ร่างกายที่แข็งแรงราวกับหมีดำของเขาก็สะดุดและถอยหลังไปครึ่งก้าว
เขาแค่ถอยไปครึ่งก้าวเท่านั้น!
แต่ถึงกระนั้น มันก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ
ทำไมเซวฟู่เหลินถึงถูกเรียกว่าเซวหมานจื่อ?
ก็เพราะหมอนี่ไม่เพียงแต่มีหุ่นที่คล้ายกับหมีดำ แต่พละกำลังและความโหดเหี้ยมของเขาก็เหมือนกับหมีดำอีกด้วย!
แต่ถึงอย่างนั้น เย่เทียนก็ยังสามารถผลักเขาออกไปครึ่งก้าวโดยที่ยังไม่ได้ใช้กำลังภายในเลย แล้วจะไม่ทำให้ทุกคนตกใจได้อย่างไร?!
“น้องเย่ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมท่านถังถึงชื่นชมคุณขนาดนี้”
แม้จะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบเล็กน้อย แต่สีหน้าของเซวหมานจื่อไม่ได้แสดงอาการโกรธใดๆ เลย เขายังคงมองไปที่เย่เทียนอย่างลึกซึ้ง
ก่อนที่เย่เทียนจะตอบกลับ เซวหมานจื่อก็หันกลับไปแล้วตะโกนต่อผู้คนโดยรอบที่กำลังเฝ้าดูอยู่ “พอได้แล้ว แยกย้ายกันไปให้หมดเลย! เดี๋ยวท่านถังออกมาจะหาว่าผมมาสร้างปัญหาในงานอีก เดี๋ยวผมก็ถูกลงโทษให้ไปขัดห้องน้ำหนึ่งเดือนหรอก!”
เมื่อดูจากปฏิกิริยาของผู้คนแล้ว พวกเขาชินกับภาพนี้มานานแล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องที่รับได้ยากสำหรับชายฉกรรจ์อย่างเซวหมานจื่อจริงๆ!
แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็เป็นวิธีในการพิสูจน์ความจริงใจของเซวหมานจื่อที่มีต่อหยุนเหมิงหยาน ไม่อย่างนั้น ใครจะอยากขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้ล่ะ?
“นั่นเป็นเหตุผลของคุณเหรอ? ฉันไม่ยอม!”
“ทุกครั้งที่มีเรื่องกัน ฉันสั่งให้คุณหยุด แต่คุณจะแถมให้เขาอีกหลายหมัดกว่าจะยอมหยุด? ครั้งนี้ฉันสั่งให้คุณสู้ แต่คุณกลับไม่สู้”
น่าเสียดายที่หยุนเหมิงหยานไม่ยอมฟังเหตุผลของเขาเลย เธอแม้กระทั่งพูดจาขึ้นเสียงและส่ายหน้าหนีด้วยความน้อยใจ
“เหมิงหยาน คุณฟังผมก่อนสิ!”
สีหน้าเซวหมานจื่อเต็มไปด้วยความขมขื่น “ก็พื้นที่แค่นี้ ถ้าผมสู้กับมันจริงๆ มันจะเละไม่เป็นท่าน่ะสิ”
“อีกอย่างคืนนี้เป็นงานเลี้ยงของท่านถังด้วย ยังไงก็ตาม เขาเป็นถึงหัวหน้าของหัวหน้าผมนะ ถ้าผมทำที่นี่พังจริงๆ แล้วท่านถังจะไม่เล่นงานผมเหรอ?”
“ที่สำคัญ ลงโทษผมคนเดียวก็แล้วไป เพราะผมเป็นผู้ชาย ลำบากหน่อยไม่เป็นไรหรอก แต่มันจะกระทบไปถึงคุณน่ะสิ!”
“ฉันไม่สน ฉันโกรธแล้ว!”
หยุนเหมิงหยานพยักหน้าเหมือนยังมีความในใจ แต่เธอเข้าใจความกังวลของเซวหมานจื่อ
แต่ความเข้าใจก็อยู่ส่วนของความเข้าใจ เพราะเธอยังรู้สึกโมโหในช่วงที่สู้กับเย่เทียน รวมไปถึงภาพของจี้เยียนหรันที่ทำตัวสนิทสนมกับเย่เทียน
“ก็......”
เซวหมานจื่อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับว่าเขาได้ตัดสินใจบางอย่าง จากนั้นพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เอางี้ไหม เดี๋ยวผมจะเรียกมันขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วผมจะสั่งสอนมันให้คุณเอง!”
เซวหมานจื่อผู้ซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ที่น่าสงสาร ช่างมีแฟนที่เข้มงวดจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...