ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 540

“บนเกาะนกนางนวลแห่งนี้ เย่เทียนไม่มีทางสู้ตู้เคอหลินได้อย่างแน่นอน!”

เมื่อเหลือบมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจังของเจ๊หยก เซ่อันก็ถึงกับยิ้มขมขื่นออกมาอย่างช่วยไม่ได้

เขารู้จักเกาะนกนางนวลแต่ก็คงดีสู้เจ๊หยกที่อาศัยอยู่บนเกาะนกนางนวลแห่งนี้ไม่ได้ ขนาดหล่อนยังพูดเช่นนี้ เห็นทีว่าเย่เทียนคงจะเอาชนะตู้เคอหลินไม่ได้จริงๆ

เพียงแต่ ภายในใจส่วนลึกของเซ่อันกลับรู้สึกว่าเขาควรจะอยู่ที่นี่ต่อ มิเช่นนั้นเขาอาจจะพลาดโอกาสใหญ่ไปก็เป็นได้

“เจ๊หยก ที่หล่อนพูดขนาดนี้นี่หวังจะให้ฉันไปใช่ไหม?”

ในใจของเซ่อันนั้นสับสนและหวังว่าเจ๊หยกจะพูดออกมาใหม่เพื่อที่เขาจะได้โน้มน้าวใจตัวเองได้

“ไม่อย่างนั้นล่ะ?”

เจ๊หยกเหลือกตามองบนใส่เขาด้วยอารมณ์พร้อมกับพูดอย่างโกรธเคือง "นายจะลังเลอะไรอีก?หรืออยากจะเก็บกำไรจากเขามากกว่านี้หรือไงกัน?"

“เจ๊หยก ฉันพูดกับหล่อนตั้งแต่คืนแรกแล้วนะว่าฉันไม่พอใจกับชีวิตของตัวเองในตอนนี้เป็นอย่างมาก หากมีโอกาสมาอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันเองก็ไม่อยากพลาดมันไปหรอกนะ”

เซ่อันส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น เขาไม่ได้เป็นเกย์ ไม่เช่นนั้นคงไม่สานสัมพันธ์กับเจ๊หยกหรอก เพียงแต่ภาพลักษณ์แบบนี้จะทำให้เขาเป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้ามากขึ้น

เขาปรารถนาที่จะฟื้นฟูความเป็นชายอย่างจริงจังแต่ด้วยการกดขี่บังคับในชีวิตทำให้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ในครั้งนี้ หากเขาสามารถสานสัมพันธ์ที่ดีกับเย่เทียน ไม่แน่ว่าอาจจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ทำให้ตัวเขาได้ใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากใช้

“เอ๊ะ?!”

เจ๊หยกตกตะลึงพร้อมกับส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “เสี่ยวอัน ฉันคิดว่านายปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงมากเกินไป นายเลือกคนที่ไม่ดี ทำไมนายถึงไปเดิมพันกับคนที่ถูกลิขิตมาให้แพ้กันล่ะ”

“ลิขิตมาให้แพ้เหรอ?”

เซ่อันไม่เห็นด้วยกับเจ๊หยก เขามองคนไม่ผิด ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่กล่าวสรุปตัดสินที่มาที่ไม่ธรรมดาของเย่เทียนหรอก

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะมองผิดไปจริงๆ แล้วจิ้งจอกเฒ่าอย่างเฉินชังไห่ที่อยู่ไม่นานบนโลกใบนี้จะดูผิดเหมือนกันเหรอ?

สิ่งสำคัญก็คือ เมื่อเช้านี้เขาได้ไปไหว้วานเพื่อนสนิทที่เมืองเจียงหนันให้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเย่เทียนมาให้เขาหน่อยจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตอบกลับมา นี่คือเหตุผลที่เขายังลังเลอยู่ มิเช่นนั้นเขาคงออกจากเกาะนกนางนวลไปนานแล้ว

กริ๊งกริ๊ง!

ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือขงเซ่อันก็ดังขึ้น ซึ่งนั่นได้ทำให้ทั้งสองคนที่อยู่ในห้องต่างพากันตกใจ

“เหล่าจิ่ว เป็นยังไงบ้าง?มีข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับคนที่ฉันให้ไปหามาไหม?”

เซ่อันรีบไปหยิบพร้อมกับมองมัน นี่คือเพื่อนสนิทที่เขาไปไหว้วานมา เขาจึงรีบกดรับสายในทันที

เมื่อเจ๊หยกได้ยินเช่นนั้นจึงรีบหยุดเช็ดผมและตรงดิ่งเข้ามาด้านข้างหูของเซ่อันเพื่อฟัง

“พี่เซ่ ครั้งนี้พี่ได้เจอกับมหาเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่เข้าให้แล้วจริงๆ!”

เสียงอันหยาบกร้านของเหล่าจิ่วดังออกมาจากอีกด้านของไมโครโฟน “เย่เทียนคนที่พี่ให้ผมหา มีความเป็นไปได้ว่าเขาคือคนของตระกูลเย่แห่งเมืองจินเลยล่ะ!”

“ตระกูลเย่แห่งเมืองจินงั้นเหรอ?!”

เซ่อันกับเจ๊หยกต่างอุทานออกมาพร้อมกัน

“ไม่ผิด!”

เหล่าจิ่วพยักหน้าพร้อมกับอธิบายอย่างละเอียด “นายคงรู้เรื่องงานวันเกิดครบรอบของเฉินชังไห่เมื่อสองเดือนก่อนไหม?”

“ไร้สาระน่ะ ตอนนั้นไม่ได้มีคนเมาหายตัวล้มตายหรอกเหรอ?เรื่องนี้เขารู้กันไปทั่ว ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงกันล่ะ”

“นี่เป็นเพราะเย่เทียนจริงๆเหรอ?”

เจ๊หยกเบิกตากว้างด้วยความตกใจ รู้สึกได้แค่เพียงร่างกายที่สั่นระริกเล็กน้อย

หล่อนไม่เคยติดต่อกับคนใหญ่คนโตมาก่อน เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลแบบนี้ต่อให้เป็นตู้เคอหลินที่อยู่ที่เกาะนกนางนวลก็ไม่สามารถทำได้ง่ายๆ!

“เกรงว่าเย่เทียนคนนี้จะเป็นคนของตระกูลเย่แห่งเมืองจินจริงๆ ถ้าเช่นนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าผู้ว่าราชการคนใหญ่คนโตอย่างถังเหวินหลงจะเข้าไปร่วมงานครอบรอบวันเกิดของเฉินชังไห่เป็นการส่วนตัว!”

หลังจากค้างงันอยู่นาน เซ่อันก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมกับพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “เจ๊หยก หล่อนยังคิดว่าเย่เทียนจะยังแพ้อยู่ไหม?”

เจ๊หยกพูดอะไรไม่ออก หล่อนเหลือกตามองบนกลับไปอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับถอนหายใจพูดว่า “โอ้สวรรค์!หากเขาเป็นคนของตระกูลเย่แห่งเมืองจินจริงๆ เกรงว่าเคอหลิน恐คงถูกเตะจนแหลกเหลวเลยล่ะ!”

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ตู้เคอหลินกำลังรวมพลอันธพาลและมีหลายสิบคนที่กำลังเตรียมพร้อมออกไปก็ได้มีคนเดินเข้ามาหาเสียก่อน

คนที่เข้ามาก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเสี้ยงเหวินกับหลู่อี้จากบริษัทหรูอี้ประมูลจำกัด!

เดิมทีหลู่อี้ไม่ได้อยากจะมาด้วยแต่พอลองคิดไปคิดมา เสี้ยงเหวินคนเดียวอาจไม่สามารถกดดันตู้เคอหลินไว้ได้ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น หลังจากที่เขาได้ส่งเย่เทียนกลับไปแล้วก็รีบมาที่นี่กับเสี้ยงเหวินทันที

“เคอหลิน นายเรียกคนมาเยอะแยะทำไมกัน?”

เมื่อมองเห็นชายร่างกำยำพร้อมด้วยอาวุธหลายสิบคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของตู้เคอหลิน หลู่อี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที

“คุณอาหลู่ ผมอยากจะทำอะไรก็คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณอาหรอกใช่ไหม?”

ตู้เคอหลินยิ้มอย่างเย็นชาโดยไม่ได้สนใจหลู่อี้เลยแม้แต่น้อย “เมื่อตอนที่ผมเสียหน้าอยู่ที่โรงแรมเฟิงเฟยก็ไม่เห็นคุณอาโผล่หน้ามา ตอนนี้ยังจะมาสอนอะไรผมอีกงั้นเหรอ?”

“เคอหลิน เห็นแก่หน้าพ่อของแก ฉันขอแนะนำให้แกลืมเรื่องนี้ไปซะ!”

เมื่อมองท่าทางที่เย่อหยิ่งของตู้เคอหลิน หลู่อี้ก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับพูดเตือนว่า “ไม่เช่นนั้น ไม่เพียงแต่แกหรอกนะ แม้แต่กิจการของตระกูลตู้ก็จะถูกโยงมาเกี่ยวข้องด้วย....”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่