“เลิกเล่นได้แล้ว”
เย่เทียนมองฟู่เซิ่งหนานตรงหน้าที่โกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาทำอะไรไม่ได้จริงๆ จึงเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ลิ่วล้อของส้งลาที่สามเหลี่ยมทมิฬยังไม่จัดการไม่เรียบร้อยไม่ใช่เหรอ เธอกลับไม่อยู่ที่สามเหลี่ยมทมิฬ กลับมาที่เมืองจิน ต้องมีเรื่องอะไรสิ!”
“หืม?!”
เหอเซิ่งหนานไม่รู้จะตอบอะไรไปชั่วขณะ ที่พวกเธอมาคราวนี้เพราะมีเรื่องสำคัญต้องจัดการจริงๆ แต่ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเธอกับเย่เทียน ยังไม่สนิทถึงขั้นนั้นเลยนะ!
เย่เทียนสังเกตสีหน้าของฟู่เซิ่งหนานอยู่ตลอด สัมผัสได้ว่าเหมือนเธอจะมีบางสิ่งที่พูดไม่ได้ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าฟู่เซิ่งหนานคงไม่อยากบอกตัวเอง
แม้จะพูดเช่นนั้น แต่เขาไม่ได้เปิดโปง เพียงแต่หยอกล้อขำขัน “เมื่อกี้เธอเห็นฉันปุ๊บก็หันหลังหนีไปเลย เวลานี้ไม่ยอมพูดอะไร ฉันเข้าใจว่าที่เธอมาไกลขนาดนี้ก็เพื่อมาหาฉันโดยเฉพาะได้ไหม?”
“ถุย! นายหน้าไม่อายกว่านี้ได้อีกไหมเนี่ย”
สิ้นเสียงเย่เทียน ฟู่เซิ่งหนานก็ถ่มน้ำลายใส่ด้านข้างอย่างโกรธเกรี้ยวระคนเขินอาย ใบหน้ากลับฉายริ้วแดงและแก้ตัว “ฉันแค่บังเอิญพักที่โรงแรมนี้ ใครจะไปรู้ว่าจะเจอนาย”
“เป็นอย่างนั้นจริงๆเหรอ?”
เย่เทียนจ้องฟู่เซิ่งหนานด้วยรอยยิ้มจางๆ ในใจไม่เชื่อคำอธิบายของเธอเลยสักนิด ถ้าบังเอิญมาพักที่โรงแรมนี้จริง ยังไงก็คงไม่เข้ามาอยู่ในงานเลี้ยงหรอก
กำลังจะถามอะไรต่อ เสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ปลายทางเดินเสียก่อน เย่เทียนนึกหวั่นใจ ไม่รู้คิดอะไรอยู่ เขาฉุดฟู่เซิ่งหนานเข้าไปในห้องว่างด้านข้าง
ปึง!
หลังจากเย่เทียนปิดประตูห้องแล้ว ฟู่เซิ่งหนานถึงรู้ตัว ในใจลนลานสุดๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีไปชั่วขณะ
ชายหญิงอยู่ร่วมห้องแบบนี้ เธอรู้สึกเพียงใจเต้นตึกตักประหนึ่งม้าที่หลุดจากบังเหียน โครมครามเต้นรัวเร็วถึงขีดสุด
เมื่อเห็นฟู่เซิ่งหนานยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เย่เทียนกระตุกยิ้มร้ายที่มุมปาก เขานึกอยากกลั่นแกล้งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มือใหญ่ที่จับแขนเรียวของเธออยู่ออกแรงเล็กน้อย ดึงฟู่เซิ่งหนานเข้ามาอยู่ในอ้อมอกอย่างแข็งกร้าว
“กรี๊ด!”
การเปลี่ยนแปลงปุบปับนี้ส่งผลให้เหอเซิ่งหนานส่งเสียงร้องแตกตื่นอย่างอดไม่ได้ ก่อนเธอจะรู้ตัว ก็แนบกับแผงอกของเย่เทียนไปทั้งคนเสียแล้ว
เขาก้มมองเด็กสาวในอ้อมอกที่เขินอายเล็กน้อย กลิ่นหอมสดชื่นของเด็กสาวโชยแตะปลายจมูก เย่เทียนที่ตอนแรกแค่อยากแกล้งเกิดความรู้สึกอย่างอื่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ไม่ต้องพูดถึงปัจจัยอย่างนิสัยใจคอ รูปลักษณ์ของฟู่เซิ่งหนานไม่แย่ หน้าตาดี ผิวขาวนวล บวกกับหุ่นก็ไม่เลว เป็นสาวสวยที่ดึงดูดสายตาผู้อื่นอย่างแน่นอน
“เอายังไง ตอนนี้บอกฉันได้หรือยัง?”
นัยน์ตาสีนิลของเย่เทียนจ้องฟู่เซิ่งหนานเขม็ง ไอร้อนจากปากถาโถมใส่ใบหน้าของฟู่เซิ่งหนานโดยไม่เกรงใจ
ฟู่เซิ่งหนานทั้งโกรธทั้งร้อนใจ ไม่คิดเลยว่าเย่เทียนจะทำแบบนี้กับตัวเอง เธอพูดด้วยความโมโห “นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
เย่เทียนหัวเราะเฮ่ะๆ พูดอย่างสะใจ “ให้ฉันปล่อยเธอก็ได้ นอกจากเธอยอมบอกฉันว่าที่เธอมาในครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไร?”
“นายอยากรู้เหรอ ฉันไม่บอกหรอก!”
เหอเซิ่งหนานก็โมโหแล้วเหมือนกัน กระเสือกกระสนและพูดอย่างเหิมเกริม “นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นนายน่าดูแน่!”
“แหม กล้าดื้อด้านแบบนี้กับฉันเหรอ?”
เย่เทียนคลี่ยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันขาว มือพลันขยับเข้าไปโอบเอวบางของฟู่เซิ่งหนาน
ฟู่เซิ่งหนานผงะ คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนจะทำแบบนี้ ไม่รอให้เธอตั้งตัว เย่เทียนกลับก้มหน้าจูบริมฝีปากสีแดงของเธออย่างใจกล้าหน้าด้าน
“อืออือ!”
“ช่างเถอะ จะสนทำไมว่าพวกเขาจะทำอะไร ยังไงซะถ้าต้องการความช่วยเหลือเดี๋ยวพวกเขาก็มาหาฉันเอง”
เมื่อเกิดความคิดนี้ เย่เทียนจัดแจงเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง แล้วจึงออกจากห้อง
แต่ตอนที่เขากลับถึงโถงจัดงานเลี้ยง กลับพบว่าสถานการณ์ออกจะวุ่นวายนิดหน่อย ผู้ชายกลุ่มใหญ่ล้อมกันเป็นกลุ่มก้อน ไม่รู้พวกเขาดูอะไรอยู่
เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขย่งเท้ามองเข้าไปในฝูงชน มุมปากฉายรอยยิ้มอ่อนใจ
ไม่มีเหตุผลอื่น ที่เจ้าผู้ชายพวกนี้ล้อมวงกันดู นอกจากหลู่ซีซานและเติ้งเหวินสองสาวสวยแล้วจะเป็นอะไรอีก
การปรากฏตัวของสองสาว เรียกได้ว่าจุดประกายให้งานเลี้ยง ผู้ชายส่วนใหญ่ในที่นี้ล้วนเป็นสาวกของสองสาว มีหรือจะไม่เบียดเข้าไปให้ถูกเห็นหน้า เกิดสองสาวตาบอดแล้วชอบตัวเองขึ้นมาล่ะ?
สองสาวชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ทั้งสองสวมชุดราตรีสีดำและสีม่วงในรูปทรงคล้ายๆกัน ยิ่งดึงดูดสายตาอย่างไม่ต้องสงสัย
เย่เทียนเห็นท่าได้แต่ส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ อุทานขึ้นมา “ไม่ว่าสาวสวยจะไปที่ไหนล้วนเป็นที่จับตามองจริงๆเลยนะ”
ไม่ว่ายังไง สองสาวไม่สนใจผู้ชายรอบด้านเลย พวกเธอขมวดคิ้วสำรวจรอบๆ ค้นหาร่องรอยของเย่เทียน
ยังไงซะที่พวกเธอมาก็เพราะได้รับคำเชิญจากเย่เทียน
ทันใดนั้น หลู่ซีซานเจอเย่เทียนที่อยู่ไม่ไกลอย่างตาแหลม รีบเอ่ยเตือน “เขาอยู่ตรงนั้น!”
สัมผัสถึงสายตาที่สองสาวมองมา เย่เทียนเหยียดยิ้มเย้ยหยันมุมปาก ในเมื่อตัวเองเป็นคนเชิญมา อย่างน้อยก็ต้องเข้าไปทักทายหน่อยไม่ใช่หรือไง?
แต่ไม่รอให้เย่เทียนเข้าไป ชายคนหนึ่งเบียดเข้าไปอยู่ตรงหน้าสองสาวอย่างสะเหล่อ ยิ้มน้อยๆพลางกล่าว “ซีซาน คุณยังอยู่ที่นี่จริงๆด้วย!”
ชายหนุ่มในชุดสูทหล่อเหลา มือหอบดอกกุหลาบสีแดง สายตาที่มองหลู่ซีซานด้วยความเร่าร้อน มองออกได้ไม่ยากว่าเขาจีบหลู่ซีซาน….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...