ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 737

เมื่อมองไปที่กู้ยี่เจ๋อซึ่งดูเหมือนนกตื่นธนู เย่เทียนพยักหน้าเล็กน้อย พอใจกับคำตอบของเขามาก

ยิ่งกู้ยี่เจ๋อกลัวเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งไม่กล้าที่จะปิดบังมากขึ้นเท่านั้น!

เมื่อเห็นว่าพอประมาณแล้ว เย่เทียนก็ยิ้มแย้ม และโยนคำถามที่สอง "ประธานกู้ เนื่องจากคุณกล่าวว่าสวีพาน หัวหน้าของแก๊งหวงจี๋เป็นลุงรองของคุณ ผมเชื่อว่าคุณควรมีความชัดเจนมากเกี่ยวกับเรื่องภายในของแก๊งหวงจี๋ใช่ไหม?”

เขาเคยได้ยินฮาชิโมโตะ มินาโตะพูดว่า แม้ว่าปืนใหญ่จะไม่ใช่คนใหญ่คนโต แต่เขาก็เป็นที่รักของผู้นำระดับสูงของแก๊งหวงจี๋ ตอนนี้ปืนใหญ่ถูกกำจัดแล้ว ใช้นิ้วเท้าคิดก็สามารถเดาได้ว่า ผู้นำระดับสูงของแก๊งหวงจี๋ต้องโกรธถึงขีดสุด

แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย สิ่งนี้ทำให้เขาต้องไตร่ตรอง จริงหรือที่ฮาชิโมโตะ มินาโตะหยุดไว้? หรือแก๊งหวงจี๋กำลังวางแผนที่ใหญ่กว่านี้?

แน่นอน เย่เทียนไม่กลัวว่าแก๊งหวงจี๋จะทำอะไร แต่เขาต้องคำนึงถึงเหลยเหลาหู่พวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

พวกเขาจะมาจากเจียงหนัน ก็เพราะเขา ยังไงก็ต้องคำนึงถึงคนอื่นใช่ไหม?

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เย่เทียนต้องมาที่นี่กลางดึก หลังจากรู้ว่ากู้ยี่เจ๋อมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแก๊งหวงจี๋!

"นี่……"

กู้ยี่เจ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองดูเย่เทียนอย่างระมัดระวัง และพูดอย่างเบาๆว่า "ผมไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับในส่วนนี้"

“คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า?”

เย่เทียนยกคิ้วและด่า"เมื่อกี้คุณบอกผมว่าสวีพานเป็นลุงรองของคุณไม่ใช่หรือ?คุณยังไม่รู้เรื่องแก๊งหวงจี๋หรือ?"

“ผม ผมไม่รู้จริงๆ!”

กู้ยี่เจ๋ออธิบายอย่างรวดเร็ว"ผมกับคุณลุงเคยเจอหน้ากันแค่ไม่กี่ครั้ง เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมกู้หยุนที่พบปะกับเขามาตลอด เธอต่างหากที่รู้สถานการณ์เฉพาะ"

“กู้หยุนเหรอ?”

เย่เทียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาไม่คิดว่าคนที่ติดต่อกับสวีพานจะเป็นหนึ่งในสามสาวงามกู้หยุน

“ใช่แล้ว!กู้หยุนไม่ได้เป็นเพียงผู้นำระดับสูงในบริษัท แต่ยังเป็นผู้นำระดับสูงในตระกูลด้วย!”

กู้ยี่เจ๋อพยักหน้าอย่างเร่งรีบ เนื่องจากเขาเลือกที่จะพูด พูดหนึ่งประโยคก็พูด พูดสองประโยคก็พูด ยังไงก็พูดออกมาแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก เขาแค่ต้องการส่งเทพเจ้าแห่งโรคระบาดนี้ออกไปโดยเร็วที่สุด!

แน่นอน เขามีความคาดหวังเล็กๆน้อยๆในใจ แม้ว่าเขาจะเป็นรองประธานบริษัท แต่เรื่องหลักกู้หยุนก็เป็นคนจัดการดูแล เขาอยากให้เย่เทียนไปหาเรื่องกู้หยุนมาก

บางที ทั้งสองคนอาจมีเรื่องใหญ่กัน และเขาอาจใช้โอกาสนี้ปีนขึ้นไป และจับอำนาจไว้ในมือได้จริงๆ!

เย่เทียนไม่รู้ว่ากู้ยี่เจ๋อคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเขาไม่ได้ดูเหมือนกำลังโกหก เขาก็อดพึมพำไม่ได้ ดูเหมือนว่าเขาถูกกำหนดให้ติดต่อกับกู้หยุน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่เทียนจึงถามคำถามที่ไม่ได้สำคัญอะไรกับกู้ยี่เจ๋อ และถามกลับสองคำถามนี้ทันทีโดยไม่มีการ

เตือนล่วงหน้าใดๆ เพื่อให้แน่ใจว่ากู้ยี่เจ๋อไม่ได้โกหกและหลอกเขา ก่อนที่จะล้มเลิกความคิดที่จะเสียเวลาต่อไป

“มา มาลงนามในสัญญานี้ดีๆ”

ทันใดนั้น เย่เทียนก็ดึงสัญญาออกจากแขนราวกับเล่นมายากล มีอะไรอีกนอกจากสัญญาเช่าห้องทดลองที่เฉินหวั่นชิงต้องการ?

หลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของเย่เทียนด้วยตาของเขาเองกู้ยี่เจ๋อก็ไม่กล้าที่จะมีความคิดเห็นใดๆ เขารีบก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและเซ็นชื่อของเขาโดยไม่ลังเล ราวกับว่าเขากลัวว่าเย่เทียนจะทำอะไรกับเขาในอีกไม่กี่วินาที

“เห็นแก่ที่คุณให้ร่วมมือขนาดนี้ วันนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อน และหวังว่าคุณจะทำตัวดีๆในอนาคต มิฉะนั้น ถ้าผมมาที่นี่อีก มันจะไม่ง่ายแบบนี้แล้วนะ!”

บอดี้การ์ดอีกคนก็ตกใจกลัวมาก ไม่กล้ารอช้า เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาตำรวจ

เย่เทียนไม่รู้เรื่องเหล่านี้ เขาเดินกลับลงมาที่โรงแรมและไปรับสำภาระจากพนักงาน เขากลับไปที่ห้องแล้วผล็อยหลับไป แต่เขารู้สึกเหมือนได้นอนไปแค่สองสามชั่วโมง ก็ถูกปลุกให้ตื่น

เขาลืมตาขึ้นด้วยความขุ่นมัว และสิ่งที่เข้ามาในตาของเขาก็คือความกังวลของเฉินหวั่นชิง อดไม่ได้ที่จะถาม “ภรรยา เป็นอะไรไป?”

“เป็นอะไรไป? คุณยังมีหน้ามาถามฉันว่าเป็นอะไร?”

เฉินหวั่นชิงยกคิ้วและถามว่า “เมื่อคืนคุณไปหากู้ยี่เจ๋อหรือไม่?”

เธอก็โดนคนอื่นปลูกให้ตื่นเหมือนกัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนยืนอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมในขณะนี้ และหัวหน้าทีมเป็นผู้บัญชาสำนักงานทั่วไปเมืองจิน ถ้าไม่ใช่เพราะสถานะพิเศษของเย่เทียน เขาอาจจะพุ่งเข้ามานานแล้ว

“ภรรยา ผมไม่ได้จงใจจะปิดบังคุณ แต่บางครั้ง ผู้ชายสื่อสารกันเองจะง่ายกว่า”

เย่เทียนไม่ได้สงสัยอะไร และคิดว่าเป็นเพราะเฉินหวั่นชิงเห็นสัญญาเช่าที่เขาวางไว้บนโต๊ะ และทันใดนั้นก็พูดด้วยความรู้สึกได้ใจเล็กน้อย “พูดถึงเรื่องนนี้แล้ว คุณต้องให้รางวัลผมหน่อยแล้ว! ถ้าผมไม่ได้ไปคุยดีๆกับกู้ยี่เจ๋อเมื่อคืนนี้ เขายินดีจะเช่าห้องทดลองให้เราได้ยังไง?”

การแสดงออกของเฉินหวั่นชิงซับซ้อน เธอขมวดคิ้วอย่างขมขื่นและพูดว่า "เย่เทียน ฉันอยากจะบอกข่าวบางอย่างแก่คุณ"

"ข่าวอะไร?"

เย่เทียนตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมสีหน้าของเฉินหวั่นชิงถึงเคร่งขรึมมาก ตามที่ควรจะเป็นแล้ว ควรให้รางวัลแก่ตัวเขาไม่ใช่หรือ?

“กู้ยี่เจ๋อตายแล้ว! เขาตายเมื่อคืนนี้”

เฉินหวั่นชิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และปรับสภาพของเธอให้ดีก่อนที่จะปล่อยข่าวใหญ่ออกมา!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่