มองไปยังคุณย่าเย่ที่โค้งงอเอวบนขั้นบันไดอยู่ไม่ไกล สายตาของเย่เทียนซับซ้อนอย่างมากแล้ว
เกลียดเธอไหม?
คำถามนี้เย่เทียนเคยคิดพิจารณาอย่างลึกซึ้งมาก่อนแล้ว คำถามคือไม่ใช่ จริงๆแล้วเขาไม่ได้เกลียดเธอเลย
พูดอย่างถูกต้อง หลายปีก่อนนั้นที่เพิ่งถูกไล่ออกไปจากตระกูลเย่ เขาเกลียดทุกคนในตระกูลเย่เข้ากระดูกดำ
แต่ว่า จากอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประสบการณ์มากมาย ย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็ก เย่เทียนจะไม่รู้อย่างชัดเจนได้ที่ไหนกันล่ะว่าคุณย่าเย่ก็เป็นคนที่น่าสงสารเช่นกัน ตอนนั้นไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเขาได้เลย
ถึงอย่างไร คุณปู่เย่เป็นคนที่ภาคภูมิใจความเป็นชายอย่างมาก คุณย่าเย่เป็นแค่แม่ศรีเรือนที่อ่อนแอคนหนึ่ง เกรงว่าก็แค่มีความตั้งใจแต่ไม่มีกำลังพอที่จะทำได้!
และนึกถึงช่วงเวลานี้ที่คุณย่าเย่แอบทุ่มเทเพื่อตัวเองอย่างลับๆ ถึงขั้นกับเมื่อกี้ยอมสละตำแหน่งของผู้นำตระกูลอย่างไม่เสียดายเพื่อช่วยเหลือเขาไว้แล้ว เย่เทียนเขาจะเกลียดลงได้ยังไงกัน?
“เทียน เทียนเอ๋อ แกเข้ามาให้มองดูดีๆหน่อยได้ไหม?”
ไม่ว่าจะพูดยังไง รอให้คนอื่นๆในตระกูลเย่ออกไปหมดแล้ว ซามูไรลับ ก็หลบซ่อนตัวและหายตัวไปอีกครั้ง ในที่สุดสายตาที่อึมครึมของคุณย่าเย่ก็มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว สิ่งที่เข้ามาแทนกลับว่าเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักความเอ็นดู
“……”
เย่เทียนอ้าปากแล้ว คิดอยากจะพูดคำว่าคุณย่าสองคำนี้ออกมา เห็นชัดๆว่าคำพูดมาถึงลำคอแล้ว ดันเรียกไม่ออก!
ภาพฉากนี้เห็นชัดๆว่าเขาคิดอยู่ในความฝันกว่านับไม่ถ้วนแล้ว แต่เมื่อเรื่องมาถึงตัวแล้ว เขากลับว่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองควรที่จะเผชิญหน้ายังไง
“มัวอึ้งอยู่ทำไม ?ย่าเรียกคุณเข้าไปหานะ!”
ช่วงเวลาที่สำคัญ ก็ยังคงเป็นเฉินหวั่นชิงที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเย่เทียน คิ้วที่เรียงเส้นสวยงามขมวดเล็กน้อย ดึงแขนของเย่เทียน เดินไปทางคุณย่าเย่เลย
มองไปยังคุณย่าเย่ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆเย่เทียนเกิดความว้าวุ่นในใจ รู้สึกแต่ว่าสองขาราวกับว่าหนักห้าร้อยกิโลกรัมเลย เดินแต่ละก้าวถึงขั้นกับยากลำบาก
ในที่สุด ระยะที่อยู่ห่างจากคุณย่าเย่เหลือเพียงแค่สามเมตรกว่า เย่เทียนที่ในใจสับสนในที่สุดก็หยุดก้าวเดินทันที ปล่อยให้เฉินหวั่นชิงที่ไม่ว่าจะลากดึงยังไงก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย
“เย่เทียน คุณทำอะไร?”
คิ้วที่เรียงสวยของเฉินหวั่นชิงก็ขมวดแน่นเช่นกัน แม้ว่าเย่เทียนไม่บอกเธอก่อน แต่ว่าในใจของเธอก็รู้ดีอย่างมาก เย่เทียนก็ยังคงปรารถนาความรักจากครอบครัวอย่างมาก นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้ริเริ่มที่จะลากเย่เทียนไป
“ขอโทษนะ ให้เวลาผมอีกหน่อย”
เย่เทียนหันหลังให้คุณย่าเย่พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงแหบๆประโยคหนึ่งแล้ว เฉินหวั่นชิง สาวเท้าก้าวเดินเร็วออกไปเหมือนดาวตก
“เทียน เทียนเอ๋อ……”
คุณย่าเย่ตกตะลึง มองไปยังเงาหลังของเย่เทียนที่จากไป ใบหน้าแก่ที่เหี่ยวแห้งที่เต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลาที่แปรเปลี่ยนนั้นเปลี่ยนเป็นเศร้าและอ้างว้างทันที
“เย่เทียน!”
เฉินหวั่นชิงก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเย่เทียนจะหันหลังแล้วเดินจากไป รีบร้อนคิดอยากจะตามไปทันที
“ยิ่งเร่งยิ่งช้า ตอนนี้ให้เขาอยู่เงียบๆคนเดียวอาจจะทำให้ดีขึ้นมาหน่อย”
ซ่านหงเลี่ยงกลับว่ายื่นมือออกไปรั้งเธอไว้ ถอนหายใจอย่างจนใจ ส่ายหน้าพร้อมพูดว่า : “วางใจเถอะ อิงจากความสามารถของเขา ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรกับเขาแน่”
สาเหตุที่เย่เทียนหันหลังกลับมา มีเพียงเขาเท่านั้นที่สังเกตได้ ดวงตาของเย่เทียนถูกปกคลุมด้วยละอองน้ำชั้นหนึ่งแล้ว!
ผู้ชายแท้ๆไม่ร้องออกมากันง่ายๆ แต่นั่นเป็นเพราะว่ายังไม่ถึงจุดที่ทำให้เสียใจ
เฉินหวั่นชิงได้ยินเข้า กลับว่าหยุดก้าวเดินแล้ว ไม่ได้ไล่ตามไปอีก ใบหน้าที่งดงามมองดูเย่เทียนเดินออกไปจากเรือนสี่ประสานอย่างจนใจแล้ว
เมื่อเพิ่งจะรับสายโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงที่นำมาซึ่งความรีบร้อนใจเล็กน้อยของหลู่ซีซานทันที
เย่เทียนลูบๆที่สันจมูกเลยทันที พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า : “ในเมื่อฉันสามารถรับโทรศัพท์ของคุณได้ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้อย่างไรล่ะ?”
ได้รับคำตอบที่แน่ชัด หลู่ซีซานที่อยู่ปลายสายนั่นโล่งอกอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย และก็ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของเย่เทียน พูดเข้าประเด็นเลยว่า : “คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว งั้นไม่ทราบว่าตอนนี้คุณว่างไหม?มีคนอยากเจอหน้าคุณหน่อย”
“ใครเหรอ?”
เย่เทียนยิ่งรู้สึกถึงความประหลาดที่ยากแก่การเข้าใจ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพวกเขาทั้งสองมีใครที่เป็นเพื่อนร่วมกัน
“ถึงยังไงคุณมาแล้วก็จะรู้เอง ถ้าคุณไม่มาฉันขอรับรองเลยว่าคุณจะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน!”
หลู่ซีซานกลับว่าอุบเรื่องที่สำคัญไว้
เย่เทียนคิดๆดูแล้ว กลับว่าไม่ได้ปฏิเสธ พูดสอบถามว่า : “ก็ได้!พวกคุณอยู่ที่ไหนกัน?ฉันจะไปหาพวกคุณ”
ถึงยังไง แทนที่จะมานั่งคิดฟุ้งซ่านอยู่ที่นี่คนเดียว สู้หาอะไรทำสักหน่อยดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่เบื่อและหดหู่ขนาดนั้น
ประเด็นหลักคือ ตั้งแต่เริ่มแรกที่ได้สัมผัส หลู่ซีซานก็แสดงออกว่าเธอมีเป้าหมายอื่นกับตัวเองอย่างชัดเจน เขาก็อยากรู้อย่างมากว่าหลู่ซีซานคิดอยากจะทำอะไรกันแน่!
“พวกเราอยู่ที่สโมสรหงเฟิง รอแค่คุณมาแล้ว”
หลู่ซีซานพูดออกมาประโยคหนึ่งพร้อมยิ้มระรื่นแล้ว และวางสายทันที
เย่เทียนมั่นใจในฝีมือตัวเอง กลับว่าไม่กลัวว่าหลู่ซีซานจะวางแผนหลอกเขา โยนเรื่องวุ่นวายออกไปจากสมองชั่วคราวแล้ว รีบขับรถมุ่งหน้าไปยังสโมสรหงเฟิง อยากจะดูว่าใครกันแน่ที่อยากจะเจอเขา
ไม่นาน ซ่านหงเลี่ยงที่เดินออกมาจากเรือนสี่ประสานมองดูที่จอดรถที่ว่างเปล่า อดไม่ได้ที่จะดุด่า “เยสเข้!ไอ้เหี้ยไม่แหกตาดูตัวไหนกล้ามาขโมยรถฉัน……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...