ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 761

“ฉันยังมีธุระที่จะต้องไปจัดการ ถ้าหากใครคิดอยากจะเข้ามายุ่ง ไม่ว่าเป็นใคร ฉันรับรองเลยว่าจุดจบของอีกฝ่ายไม่ใช่หายตัวไป นั่นก็คือทำงานให้ฉันตั้งแต่นี้ไป”

กู้หยุนได้ยิน ใบหน้าสวยที่งดงามประณีตจริงจังขึ้นมาทันที พูดเหอะอย่างเยือกเย็นว่า ： “คุณนี่พูดจาสามหาวจริงๆ！”

“แต่คุณต้องยอมรับ ฉันมีพละกำลังเช่นนั้นจริงๆไม่ใช่เหรอ？”

เย่เทียนยักไหล่อย่างไม่สนใจ “พอแล้ว ถึงยังไงสิ่งที่ควรพูดก็ได้พูดกับคุณแล้ว ถ้าหากคุณไม่ได้มีธุระอะไร งั้นฉันขอตัวก่อน”

พูดจบ เย่เทียนก็คิดที่จะลุกขึ้นเดินไปจากที่นี่

“รอเดี๋ยว！”

แต่กู้หยุนกลับว่ารั้งเย่เทียนไว้ก่อนแล้ว มองไปยังเย่เทียนด้วยสีหน้าท่าทางที่ซับซ้อน สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างเคร่งขรึมว่า ： “เย่เทียน ฉันอยากทำงานร่วมกับคุณ！”

“ทำงานร่วมกัน？！”

เย่เทียนตกตะลึง ทิ้งความคิดที่จากไปทันที ถือโอกาสขยับก้นปรับวิธีการนั่งที่สบายมากขึ้นกว่าเดิม มองไปยังกู้หยุนเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มว่า ： “คุณลองพูด วิธีการทำงานร่วมกันว่าเป็นยังไงหน่อย？ ”

“ฉันเชื่อว่าคุณก็เข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเราตระกูลกู้และแก๊งหวงจี๋อย่างชัดเจน พวกเราต้องการให้แก๊งหวงจี๋มาทำงานบางอย่างให้ฉัน แต่……”

ดวงตาที่งดงามของกู้หยุนมองตรงไปยังเย่เทียน พูดอย่างชัดเจนว่า ： “ภายในของแก๊งหวงจี๋ค่อนข้างที่จะไม่ปรองดองกัน ถึงขั้นพูดได้ว่าใกล้จะพังทลายแล้ว ถึงตอนนั้นภายในจะต้องเกิดความวุ่นวายอย่างต่อเนื่องแน่นอน เพราะงั้น ฉันหวังว่าคุณจะทำงานร่วมกับฉันได้ ทำให้ฉันควบคุมแก๊งหวงจี๋ได้สำเร็จ！”

“ทำไมฉันจะต้องช่วยคุณด้วย？อาศัยหน้าตาสวยๆของคุณ？หรือว่าอาศัยจากรูปร่างจ้ำม่ำของคุณ？”

เย่เทียนเบะปากไม่พูดออกมาสักคำ พูดติดตลกว่า ： “ยิ่งไปกว่านั้น ฮาชิโมโตะ มินาโตะผู้หญิงคนนั้นเหมือนว่าจะไม่ได้ด้อยไปกว่าคุณเลยนะ？ถ้าหากต้องทำงานร่วมกันล่ะก็ ทำไมฉันถึงไม่เลือกเธอ？อย่างน้อยพละกำลังบางด้านของเธอก็แข็งแกร่งกว่าคุณเยอะ”

“ฉันยอมรับว่าสิ่งที่คุณพูดมานั้นถูกต้อง แต่ว่า ถ้าหากคุณสามารถเชื่อใจฮาชิโมโตะ มินาโตะได้จริงๆ เกรงว่าคุณก็คงไม่มีทางที่จะพูดเรื่องพวกนี้กับฉันหรอกนะ？”

มุมปากของกู้หยุนเผยรอยยิ้มออกมา ไม่ได้โมโหจากการพูดเยาะเย้ยของเย่เทียนโดยสิ้นเชิง และมองทะลุความคิดของเย่เทียนโดยสิ้นเชิง

เย่เทียนตกตะลึง แอบอุทานว่าผู้หญิงคนนี้สมกับที่สามารถควบคุมตระกูลกู้ที่ยิ่งใหญ่ได้เลย แต่ว่า เขากลับว่าไม่ได้แสดงอะไรออกทางใบหน้าเลย พูดเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มว่า ： “ถ้าหากฉันช่วยคุณ ฉันจะได้รับอะไรล่ะ？”

“คุณจะได้รับมิตรภาพที่ดีจากตระกูลกู้ของฉัน！ฉันรับรองเลยว่าต่อไปเมื่อคุณอยู่ที่เมืองจินจะไม่มีใครหน้าไหนมารบกวนคุณได้เลย”

มุมปากของกู้หยุนเผยรอยยิ้มที่แสนลึกลับ “นอกจากนั้นแล้ว ฉันรู้ว่าหากพูดอย่างจริงจังตอนนี้คุณยังไม่ได้กลับสู่ตระกูลเย่ ถ้าหากได้รับการช่วยเหลือจากฉัน เชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องผ่อนคลายลงไม่น้อย นี่เป็นทางเลือกที่ได้ผลประโยชน์กันทั้งคู่！”

ต้องยอมรับว่า ข้อเสนอที่กู้หยุนยื่นออกมาล่อใจคนจริงๆ แต่น่าเสียดายที่กู้หยุนไม่รู้ กลับไปสู่ตระกูลเย่ที่แท้จริงสำหรับเย่เทียนแล้ว มันไม่ได้สำคัญอย่างที่คิดขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ！

จากสถานการณ์ในตอนนี้ เขาไม่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายเกินไป และแก๊งหวงจี๋เป็นปัจจัยหลักที่ไม่นิ่งที่สุด จะต้องรีบจัดการให้สิ้นซากถึงจะได้

แทนที่จะฆ่าแก๊งหวงจี๋ให้สิ้นซากช่วยเหลยเหลาหู่ขึ้นมามีอำนาจ งั้นสู้ประคองคนภายในของแก๊งหวงจี๋ขึ้นมาโดยตรงรวดเร็วกว่า

แน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เมื่อเปรียบเทียบกับฮาชิโมโตะ มินาโตะหัวหน้านักฆ่าคนนั้นขึ้นมา กู้หยุนจัดการได้ง่ายกว่าเยอะอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งควบคุมได้ง่ายกว่าอย่างไม่มีต้องสงสัย！

ชั่งนำหนักในใจแล้ว เย่เทียนพยักหน้าพร้อมยิ้มเบาๆ “งั้นก็ได้！ฉันทำงานร่วมกันกับคุณก็ได้ เห็นแก่ที่คุณมีความจริงใจขนาดนี้ ฉันมอบของขวัญโดยทำงานร่วมกับคุณฟรีๆแล้วกัน！ ”

“ของขวัญโดยทำงานร่วมกัน？”

กู้หยุนตกตะลึง ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเย่เทียนมีแผนการอะไรอีก

……

ในฐานะที่กู่เจิ้นเจียงเป็นหนึ่งในสองรองหัวหน้าใหญ่ของแก๊งหวงจี๋ ตัวตนของเขาก็เท่ากับว่าไม่ธรรมดาไปโดยปริยาย สำหรับที่ที่พักอาศัยก็ค่อนข้างให้ความสำคัญเช่นกัน

ไม่นาน ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าเหล่าชุยก็เดินเข้ามาแล้ว ยืนอยู่ตรงหน้าของกู่เจิ้นเจียงอย่างอ่อนน้อม

เหล่าชุยชื่อเต็มคือชุยเต๋อไฉมีฉายาที่โด่งดังว่าผู้พิพากษาชุย เป็นหนึ่งในลูกน้องที่ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของกู่เจิ้นเจียง

“ลูกชายของฉันถูกจับตัวไป อีกฝ่ายต้องการเงิน12ล้านหยวนจากฉัน！”

กู่เจิ้นเจียงยิ้มอย่างเยือกเย็น “ฉันหวังว่านายจะเอาเงินไปแทนฉันได้ ขอเพียงแค่ลูกชายของฉันไม่เป็นอะไร ก็ลงมือจัดการทันที ไม่ต้องปรานี！ฉันกลับว่าอยากจะดูเหมือนกันว่า เป็นไอ้เศษสวะที่กล้าดีตัวไหน จู่ๆถึงได้กล้ามาแตะต้องลูกของฉัน！ ”

ชุยเต๋อไฉ พยักหน้า ก็ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่เลย หันหลังเดินออกไปทางด้านนอก

และในขณะเดียวกัน ในห้องVIPของร้านอาหารที่อยู่ไกลอีกด้านหนึ่ง ฮาชิโมโตะ มินาโตะนั่งร่วมโต๊ะเดียวกับอูชิงเจ๋อรองหัวหน้าอีกคนของแก๊งหวงจี๋

อาหารบนโต๊ะอาหารเย็นหมดตั้งนานแล้ว แต่ทั้งสองคนกลับว่าไม่ได้ขยับเลย

“ผู้นำฮาชิโมโตะ เหลยเหลาหู่นั่นโผล่มาจากที่ไหนกัน？ตอนนี้จู่ๆก็มาจับตัวลูกชายของกู่เจิ้นเจียงไป นี่กำลังทำร้ายพวกเราไม่ใช่เหรอ？”

“ถ้าฉันรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่ทำงานร่วมกันกับเขาแล้ว ฉันก็เสียใจภายหลังอย่างมาก！”

สีหน้าของฮาชิโมโตะ มินาโตะยังคงดูแย่มากเช่นเคย ฝืนยิ้มพร้อมพูดว่า ： “แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเราจะพลิกกลับมาชนะแล้วรอบหนึ่ง แต่ถ้าหากต่อสู้กับกู่เจิ้นเจียงขึ้นมาจริงๆ กลับว่ามีพละกำลังไม่เพียงพอ วันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้ว กลัวว่าจะยิ่งแย่ขึ้นอีก ！”

ในฐานะที่เป็นหัวหน้านักฆ่าเธอมีข้อได้เปรียบไม่น้อยเลย แต่ข้อเสียเปรียบที่สุดของเธอก็คือเป็นคนประเทศหยิง แม้ว่าระยะห่างของช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์นั้นจะผ่านไป30-40ปีแล้ว แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่จำได้อยู่ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแม้ว่าเธอจะเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของอูชิงเจ๋อ กลับว่าไม่สามารถสู้ชนะกู่เจิ้นเจียงได้เลย

ที่เธอจะดึงเย่เทียนมาเป็นพวก ไม่มีอะไรมากไปกว่าพอใจในความสามารถของเย่เทียน พอใจในเหลยเหลาหู่กลุ่มคนสุดยอดที่มาจากเจียงหนัน หวังว่าจะสามารถช่วยช่วงชิงชิปต่อรองมาให้อูชิงเจ๋อมากกว่านี้ได้ เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการไปช่วงชิงตำแหน่งผู้นำของแก๊งหวงจี๋

เรื่องที่เกิดขึ้นมาแบบนี้ในตอนนี้ เธอยังคงเป็นกังวลจริงๆว่ากู่เจิ้นเจียงจะฉวยโอกาสโจมตี บอกลาตำแหน่งของผู้นำโดยสิ้นเชิง……